บล.กสิกรไทยแนะเก็งกำไรหุ้นกลุ่มการเงิน ชูหุ้นเด่น MTC- MICRO

รายงานข่าวจากบล.กสิกรไทยแจ้งว่า ช่วงครึ่งเดือนแรกของมิ.ย. เบื้องต้นในเชิงกลยุทธ์เราประเมินกรอบการแกว่งตัวของ SET Index ที่  1,585-1,650  จุด ยังคงมุมมองเชิงบวกสำหรับกลุ่มก่อ สร้าง อย่างไรก็ตามนอกเหนือจากรับเหมาขนาดใหญ่อย่าง ITD, STEC, CK แล้วแนะหันมาทยอยสะสมหุ้นที่ได้ประโยชน์ทางอ้อม (SEAFCO) 

นอกจากนี้อีกกลุ่มที่เรากลับมามีมุมมองเชิงบวกและแนะนำให้นักลงุทนเก็งกำไรระยะสั้นได้แก่กลุ่มโรงกลั่น (SPRC, TOP) ภายหลังเราคาดว่าประชากรส่วนใหญ่ในสหรัฐและยุโรปภายหลังเริ่มฉีดวัคซีนในระดับ 40-60% เริ่มกลับมาใช้ชีวิตปกติ และหากอิงจากการใช้บัตรเครดิตพบว่าพฤติกรรมเริ่มมีการเปลี่ยนจากซื้อของ online , Furniture กลับมาเป็นการเดินทาง ใช้บริการ ร้านอาหาร ท่องเที่ยว โดยหากอิงจาก US Transportation Security Administration (TSA) พบว่าการเดินทางทยอยกลับมาใกล้เคียงกับระดับก่อนเกิด COVID-19

ทั้งนี้หากอิงจาก  Spread Gasoline (Driving season) ส่งผลให้ราคาปรับเพิ่มขึ้นสูงกว่า 3.0 เหรียญ ในขณะที่ Gasoline spread ปรับขึ้นเด่นสุดและกลับมายืนเหนือระดับก่อนเกิดวิกฤต เบื้องต้นเราคงุมมองเชิงบวกต่อ SPRC, TOP 

ส่วนกลุ่มการเงิน (MTC, MICRO) MTC มีมุมมองเชิงบวกต่อการเติบโตของสินเชื่อใน 2Q21-3Q21 จากการที่ MTC เป็นผู้นำและกำลังกินส่วนแบ่งการตลาดจากดอกเบี้ยโปรโมชั่น 15% ของสินเชื่อมอเตอร์ไซต์จนถึงมิ.ย.2021 ขณะที่การแข่งขันที่สูงจะส่งผลกระทบจำกัดเนื่องจากทางออมสินตั้งเป้าหมายลดดอกเบี้ยช่วยเหลือลูกค้าเพิ่มเติมในสินเชื่อรถยนต์ซึ่งไม่ใช่พอร์ตสินเชื่อหลักของทาง  MTC  

อย่างไรก็ตาม  loan yield ของ MTC คาดว่าจะต่ำสุดในช่วง 2Q21-3Q21 ก่อนที่จะฟื้นตัวใน 4Q21 จากสินเชื่อเช่าซื้อรถมอเตอร์ไซต์ที่ดอกเบี้ยสูง 24% และเติบโตแข็งแกร่ง ส่วนหุ้น MICRO เราเริ่มต้นบทวิเคราะห์ MICRO ด้วยคำแนะนำ “ซื้อ” และราคาเป้าหมายกลางปี 2565 ที่ 11.0 บาท มีแรงหนุนจาก CAGR 39.4% 

สำหรับกำไรปี 2564-66 โดย MICRO จะเข้าสู่วัฏจักรการเติบโตระดับสูงจากสินเชื่อที่เติบโตแข็งแกร่ง NPL ที่ลดลงจากการบริหารจัดการคุณภาพสินเชื่อที่ดีขึ้นและ CI ratio  ที่ลดลง ความเชี่ยว

ชาญของทีมผู้บริหารในด้านบริการซ่อมบำรุงรถบรรทุกยังเป็นจุดแข็งหลัก ขณะที่มีอุปสงค์การใช้รถบรรทุกมือสองเป็นแรงขับเคลื่อนการเติบโตที่สำคัญ 

นอกจากนี้เราแนะนำ  CPN จากราคาหุ้นที่ยัง laggard ได้รับแรงกดดันจากการระบาดโควิดระลอกสามแต่เราเชื่อว่าจะเริ่มฟื้นตัวดีขึ้นได้ใน 2H21 

ด้านทิศทางตลาดหุ้นครึ่งเดือนหลังมิ.ย. เราคาดว่าส่วนหนึ่งจะขึ้นอยูกับโทนการประชุม  FOMC ในวันที่ 16มิ.ย. ซึ่งเราจะกลับมาประเมินกรอบการแกว่งตัวอีกครั้งภายหลังทราบทิศทางนโยบายดอกเบี้ยภายหลังปัจจัยเงินเฟ้อยังคงกดดันและการส่งสัญญาณสภาพคล่องที่สูงผ่านการทยอยทำ Reverse Repo ในระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์  ฉะนั้นกล่าวโดยสรุปเราคาดว่าตลาดหุ้นในช่วงครึ่งเดือนแรกยังสามารถเก็งกำไรระยะสั้น อย่างไรก็ตามครึ่งเดือนหลังแนะเพิ่มความระมัดระวังการลงทุน  

ดังนั้นมุมมองตลาดหุ้น/กลยุทธ์การลงทุน คาดกรอบ  SET 1,625 แนะนำเก็งกำไรกลุ่มการเงิน  MTC, MICRO และ CPN (Laggard play)