หุ้นเด่นวันนี้! นักวิเคราะห์แนะ 5 หุ้นรับมือตลาดผันผวน

วันนี้( 14 พ.ค.64) นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่ายังผันผวน แต่มีโอกาสรีบาวด์ได้ในกรอบจำกัดเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ในประเทศยังยืดเยื้อ ขณะที่ตลาดหุ้นภูมิภาคเอเชียทางแถบเอเชียเหนือ ทั้งตลาดหุ้นญี่ปุ่นและตลาดหุ้นเกาหลีใต้เคลื่อนไหวในแดนบวก ส่วนตลาดหุ้นสิงคโปร์ติดลบ

อย่างไรก็ตาม ตลาดผ่อนคลายขึ้นหลังกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 34,000 ราย สู่ระดับ 473,000 รายในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 8 พ.ค.ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 490,000 ราย

ภาพ Fund Flow เป็นลบ จากความกังวลเงินเฟ้อสหรัฐฯพุ่งขึ้น และ MSCI ปรับลดน้ำหนักลงทุนหุ้นไทย รวมถึงกองทุนในประเทศ และนักลงทุนต่างขาติได้ขายออกมาอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ วันนี้ให้ติดตามความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนพ.ค.และยอดค้าปลีกเดือนเม.ย.ของสหรัฐฯ ส่วนบ้านเราติดตามผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 1/64 ของไทยในสัปดาห์หน้า และรายละเอียดมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ของภาครัฐฯ พร้อมให้แนวรับ 1,530 จุด ส่วนแนวต้าน 1,562 จุด

บริษัทหลักทรัพย์(บล.)เคจีไอ(ประเทศไทย) ที่มองว่า การที่ COVID-19 กลับมาระบาดจะส่งผลกระทบ ในช่วงสั้น โดยจะทำให้แนวโน้มการย้ายฐานการผลิตในระยะยาวช้าออกไป มองว่าเป็นโอกาสดีสำหรับนักลงทุนระยะยาวในการจะเข้ามาลงทุนในกิจการที่มีการกระจายตัวของธุรกิจดี ซึ่งจะได้อานิสงส์จากการเกาะกระแสโลก รวมถึงกระแสการย้ายฐานการผลิต และ e-commerce ด้วย 

ขณะที่ความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitical risk), เศรษฐกิจชะลอตัวลง, ภัยธรรมชาติ, การซื้อที่ดิน, การกระจุกตัว ของกลุ่มอุตสาหกรรม, เงินทุนไม่เพียงพอ

ด้านบล.ไทยพาณิชย์ มองว่า SET ยีงมีความผันผวนสูง แนะนำในหุ้น defensive & valuation play ที่คาดว่าจะเป็นหลุมหลบภัยยามตลาดปรับลดลงและผันผวนสูง ADVANC EA GULF PTT TU

โดย TU (ราคาเป้าหมาย 19.00 บาท) หุ้น global reopening คาดได้อานิสงส์จากหลายประเทศเตรียมเปิดเมืองอีกครั้ง ส่วน 2Q64 คาดกำไรโตทั้ง YoY และ QoQ 

และยังคงแนะนำ ADVANC (ราคาเป้าหมาย 220.00 บาท) หุ้น defensive ที่ดีท่ามกลางตลาดผันผวน คาดผลประกอบการจะกลับมาเติบโตได้ดีในปีหน้า

ขณะที่ บล.เอเชียพลัส  แนะนำ BDMS -  ราคาเป้าหมาย 24 บาท แม้กำไร 1Q64 อยู่ที่ 1.3 พันล้านบาท ลดลง 47.9%yoy ต่ำกว่าคาด หลักๆ มาจากรายได้ผู้ป่วย Fly-in (15% ของรายได้) หดตัวสูง  แต่เชื่อว่าผลประกอบการนับจาก 2Q64 ต่อเนื่องปี 2565 จะฟื้นตัวต่อเนื่อง เนื่องจากผู้ป่วยส่วนใหญ่อยู่ในกทม.อีกทั้ง 2H64 จากความคืบหน้าวัคซีน อาจหนุนผู้ป่วยไทยฟื้นตัวดีกว่าคาด ขณะที่ผู้ป่วย Fly-in คาดหวังทยอยฟื้นตัวบางส่วน คงคาดกำไรปกติปี 2564 โต 43%YoY 

โดย ฝ่ายวิจัยยังชื่นชอบ BDMS มากสุดในกลุ่มฯ จากธุรกิจที่แข็งแกร่ง และมีเครือข่ายครอบคลุม มูลค่าพื้นฐานที่ 24 ยังมี Upside ลงทุน 15% แนะนำทยอยสะสม

TMT -  ราคาเป้าหมาย  14.8 บาท กำไร 1Q64 TMT คาดทำ New High อยู่ที่ 425 ล้านบาท (+145%QoQ,+244%YoY)  ขับเคลื่อนจากราคาเหล็กโลกฟื้นตัวสูง โดยราคาขายเหล็กช่วงครึ่งแรกของเดือน เม.ย. 2564 อยู่ที่ 27 บาท/กก เพิ่มขึ้น 4.5% จากสิ้นเดือนมีนาคม 

ราคาเหล็กกระชากแรงเพราะ Supply เหล็กทั่วโลกขาดแคลน ทำให้ฝ่ายวิจัยปรับเพิ่มราคาขายเหล็กปี 2564 ขึ้นเป็น 26.8 บาท/กก. ขณะที่ TMT กำไร 1Q64 คาดสูงเป็น 53.1% ของประมาณการทั้งปี ทำให้ประมาณการกำไรปี 2564 เพิ่มขึ้น 34.5% มาที่ 1,075 ล้านบาท

ทั้งนี้ ประมาณการกำไรใหม่ ส่งผลให้ FV’64 เพิ่มขึ้นจาก 11 บาท เป็น 14.8 บาท อิง PER 12x Upside ราคาหุ้นเปิดกว้าง 15% และเงินปันผลคาดสูง 7% ต่อปี

SCCC ราคาเป้าหมาย 208 บาท คาดกำไรสุทธิปี 2564 อยู่ที่ 3.4 พันล้านบาท โดยคาดหวัง Demand ปูนซีเมนต์จะกลับมาฟื้นตัวได้อีกครั้งหลังมีสัญญาณที่ดีของวัคซีนป้องกัน COVID-19 นับจากนี้ และหลายประเทศเร่งนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน นอกจากนี้ปัญหาการออกใบอนุญาตก่อสร้างในนครโฮจิมินส์ซิตี้เริ่มผ่อนคลายลง และโมเมนตัมการใช้ปูนซีเมนต์ในศรีลังกาที่ขยายตัวต่อเนื่องหลังการเลือกตั้งในปี 2562 เสร็จสิ้น ซึ่งถือว่าดีต่อผลประกอบการ SCCC ในปีนี้