TNN online เปิดสถิติ10ปี "Sell in May" หุ้นไทยเสี่ยงถูกเทขายมากแค่ไหนท่ามกลางโควิด

TNN ONLINE

Wealth

เปิดสถิติ10ปี "Sell in May" หุ้นไทยเสี่ยงถูกเทขายมากแค่ไหนท่ามกลางโควิด

เปิดสถิติ10ปี Sell in  May   หุ้นไทยเสี่ยงถูกเทขายมากแค่ไหนท่ามกลางโควิด

ภาวะตลาดหุ้นไทยเผชิญ Sell in May ปีนี้จะมากน้อยแค่ไหน ท่ามกลางแพร่ระบาดโควิดที่พุ่งต่อเนื่อง จากสถิติย้อนหลัง 10 ปี ที่ผ่านมาเป็นอย่างไร ปัจจัยบวก-ลบที่ต้องติดตาม หุ้นตัวไหนที่น่าเก็บเติมพอร์ตลงทุนตามไปดูกันเลย

นายฐกฤต ชาติเชิดศักดิ์ ผู้จัดการฝ่ายวิจัย บล.เอเซีย พลัส เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยในเดือน พ.ค.   โดยปกตินักลงทุนจะกังวลกันว่าจะเกิดเหตุการณ์ที่เรียก Sell in  May  หรือเป็นเหตุการณ์ที่นักลงทุนขายหุ้นทำกำไรในช่วงเดือนพ.ค.ของทุกปี เพราะหากพิจารณาจากสถิติในอดีตรอบ 10 ปีที่ผ่านมา (ระหว่างปี 2554-2563) พบว่า SET Index ให้ผลตอบแทนติดลบรวม  7  ครั้ง ปรับขึ้น 3 ครั้ง  และค่าเฉลี่ย 10 ปี ดัชนี SET ปรับลดลง  1.5% 


ทั้งนี้หากพิจารณาแรงซื้อ-ขายจากต่างชาติ  (Foreign) จากสถิติ 10 ปี พบว่า ขายสุทธิหุ้นไทย 6 ครั้ง ซื้อสุทธิ 4 คั้ง  หรือขายเฉลี่ยสุทธิ 1.38 หมื่นล้านบาท และเป็นเดือน พ.ค. ที่ต่างชาติขายสุทธิมากที่สุดเป็นอันดับ  2  จากทั้งหมด  12 เดือน อย่างไรก็ตามประเมินว่าเดือน พ.ค.ปีฉลูมองว่าแรงขายจากต่างชาติน้อยลง หรือมีแนวโน้มมีแรงซื้อเข้ามา ซึ่งต่างจากในอดีต 


สำหรับปัจจัยหนุนจาก 1. ต่างประเทศ ประเทศหัวเรือใหญ่ของโลก อาทิ  สหรัฐฯ จีน ยุโรป สามารถรับมือ COVID-19 รอบนี้ได้ดี  และเร่งฉีดวัคซีน Covid เร็วต่อเนื่อง ทำให้หลายประเทศค่อยๆ เริ่ม  Reopen ประเทศ และผ่อนคลายกิจกรรมทางเศรษฐกิจ   และมาตรการคลัง ที่รัฐบาลทั่วโลกยังอัดฉีดเงิน โดยเฉพาะสหรัฐ  จะยังเป็นปัจหนุนการค้าโลก ,สินค้าโภคภัณฑ์ ฯล


2. มาตรการเข้มงวดของรัฐบาลไทย ล่าสุด ที่ออกมาป้องกันการแพร่ระบาด น่าจะทำให้สถานการณ์ระบาด Covid-19 คลายตัวลง ในเดือน พ.ค.  และน่าจะเห็นได้ชัดเจนขึ้นหลังมีการกระจายตัวของ Vaccine ในวงกว้าง ช่วง 2H64 แม้ช่วงสั้นจะเห็นกระแสการปรับลดคาดการณ์ GDP Growth ไทยปี 64 ลงมาต่ำ 2% เชื่อว่าตลาดหุ้นได้ตอบรับไปในราคาระดับหนึ่งแล้ว


3. สภาพคล่องส่วนเกินที่ยังล้นระดับ จากภาวะดอกเบี้ยที่ยังต่ำ  ASPS  คาดไทยยังจำเป็นต้องคงดอกบี้ยที่ 0.5%ไปตลอดสิ้นปี 64 เป็นอย่างน้อย สนับสนุนให้ไหลเข้าหาผลตอบแทนที่สูงขึ้นในตลาดหุ้นไทย  คือ เห็น Momentum ของการ Search For Yield จากมูลค่าซื้อขายหุ้นต่อวันที่อยู่ในระดับสูงราว 1 แสนล้านบาท พร้อมกับการเร่งตัวของการเปิดบัญชีซื้อขายหุ้นใหม่มากกว่า 2 แสนบัญชีต่อเดือน


4. กำไรบริษัทจดทะเบียนงวด 1Q64 ฝ่ายวิจัยฯ คาดว่าสดใส และไม่น่าผิดหวังเหมือนกับในอดีต หนุนให้เกิดการลงทุนเพิ่มมากกว่าขายทำกำไรเพื่อลดความเสี่ยง เนื่องจากฐานกำไรไตรมาสแรกของปีที่แล้วต่ำสุดในรอบ 12 ปี เพียง 9.1 หมื่นล้านบาทเท่านั้น บวกกับเบื้องต้นนักวิเคราะห์พื้นฐาน ASPS ได้ทำ Earning Preview 1Q64 รวมถึง Real Sector ทยอยประกาศออกมาดีกว่าคาด น่าจะหนุนให้กำไรงวด 1Q64 ยืนระดับ 2 แสนล้านบาทได้ จนทำให้นักวิเคราะห์อยู่ระหว่างทบทวนปรับเพิ่มประมาณการทั้งปีหลายบริษัท  เช่นเดียวกับทาง Consensus ที่ปรับ EPS64F ตลาดขึ้นต่อเนื่อง ล่าสุดอยู่ที่ 81.15 บาท/หุ้น (นับตั้งแต่ต้นปีเพิ่มขึ้นมา 5 บาท/หุ้น) ฝ่ายวิจัยฯ เองอยู่ระหว่างทบทวนและปรับประมาณการขึ้นเช่นกัน หนุนดัชนีเป้าหมายมีโอกาสปรับขึ้นจากเดิมที่ 1,670 จุด 


หากพิจารณาความถูกแพงของ SET Index ณ ปัจจุบัน ที่ 1,600 จุด มีการซื้อขายบน Market Earning Yield Cap ที่ระดับ 4% คิดเป็นระดับ Percentile ที่ 53% หรือยังสูงกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตที่ระดับ 3.90% แสดงว่าดัชนียังอยู่ในระดับที่น่าลงทุนกลยุทธ์เดือน พ.ค. 64 แนะนำ 7 หุ้นมีโอกาส Outperform ตลาดสูง คือ SCC, PTTGC, MTC, ASK, MCS กำไรฟื้นเด่นในปีนี้ รวมถึงงวด 1Q64 และ ADVANC, AS เป็นหุ้นช่วยลดความผันผวนจากปัญหาโควิด


เปิดสถิติ10ปี Sell in  May   หุ้นไทยเสี่ยงถูกเทขายมากแค่ไหนท่ามกลางโควิด

ข่าวแนะนำ