วิกฤติโควิดถ่วงหุ้นไทยมากแค่ไหน! หุ้นตัวไหนน่าเก็บเติมพอร์ตช่วงดัชนีร่วง

นายฐกฤต ชาติเชิดศักดิ์ ผู้จัดการฝ่ายวิจัย บล.เอเซีย พลัส  เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดหุ้นไทยโค้งสุดท้ายของเดือน เม.ย.  ประเมินว่า SET Index ยังผันผวน แกว่งตัวลงในช่วงสั้น กรอบการลงทุนอยู่ที่  1,500-1,575 จุด โดยประเมินจากภาพแวดล้อมที่มีปัจจัยกดดันหลัก ๆ มาจาก Covid-19 และความเข้มงวดกิจกรรมเศรษฐกิจของรัฐบาล  และช่วงนี้ยังขาดปัจจัยหนุน

สำหรับประเด็นสำคัญที่มีน้ำหนักต่อการลงทุนตลอดสัปดาห์คือ ยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ในไทย   หลังสุดสัปดาห์เพิ่มขึ้นเหนือ 2 พันคน  หากยังทรงตัวสูง และปรับเพิ่มขึ้นทำจุดสูงสุดและท่าทีของรัฐบาลและ จังหวัดหากเข้มงวดกิจกรรมเศรษฐกิจเศรษฐกิจ คาดยังกดดันหุ้นกลุ่มเปิดเมือง  อาทิ กลุ่มท่องเที่ยว , ขนส่ง, สื่อ  และอาจจะยังเห็นการที่นักลงทุน  Take profit หุ้นที่ปรับขึ้นมาเยอะ เพื่อรอหาจังหวะกลับมาลงทุนเมื่อสถานการณ์ Covid-19 เริ่มคลี่คลาย   ในส่วนหุ้นที่ได้ประโยชน์ อาทิ หุ้นถุงมือยาง STGT,  หุ้นเกมส์ AS, หุ้นที่เกียวข้องกับประกัน  BLA, TQM

จับตาการประกาศงบการเงินงวด 1Q64 ของบริษัทจดทะเบียนของฝั่ง Real Sector  อาทิ   HMPRO,  SCGP, PTTEP,  BH, DCC ฯลฯ  หลังจากกลุ่มธนาคารพาณิชย์ที่ประกาศมาในสัปดาห์ที่แล้ว หลายตัวออกมาดีกว่าคาด

นอกจากนี้เกาะติดการประชุมธนาคารกลางหลายๆแห่ง  เช่น วันที่  26-27 เม.ย. ธนาคารกลางญี่ปุ่น(BOJ) และวันที่ 27-28 เม.ย. การประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ตลาดยังให้น้ำหนักไปที่  Fed  ASPS คาดจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายต่ำที่ 0-0.25% และคงวงเงิน QE จำนวน 1.2 แสนล้านเหรียญ/เดือน ต่อไป เพราะว่าอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 1.6%yoy ต่ำกว่าเป้าของ Fed ที่ 2% และอัตราการว่างงานปัจจุบันอยู่ที่ 6% สูงกว่าในปี 2562 (ก่อน COVID-19) ซึ่งอยู่ที่ 3.7%

 

ส่วนไทยประชุมคณะกรรมการนโยบารการเงิน ( กนง.) 5 พ.ค.  ASPS ประเมินว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 0.5% ไปตลอดปีนี้  เพราะการระบาดของโควิดรอบใหม่  ซึ่งกดดันการฟื้นตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศ   โดยรวมประเมินสภาพคล่องในระบบที่ยังมีอยู่สูง ทั้งดอกเบี้ยที่ต่ำ และ QE   ยังเป็นแรงหนุนต่อภาพรวมการลงทุนในตลาดหุ้นในระยะกลาง – ยาว ให้ปรับตัวขึ้นต่อ 

ด้านกลยุธ์การลงทุน แนะนำทยอยสะสม หุ้นที่คาดการณ์ว่างบ  1Q64 จะออกมาดี  หรือเป็นหุ้นที่ได้รับผลกระทบ Covid- 19 จำกัด เลือก  PTTEP([email protected])  คาดกำไร 1Q64 จะเติบโตอย่างมีนัยยะ 256%qoq อยู่ที่ราว 9 พันล้านบาท หลักๆเป็นผลจากกำไรปกติที่พลิกกลับมาเติบโตสูง 59%qoq แรงหนุนจากราคาขายน้ำมันดิบที่ปรับตัวขึ้นแรง ในส่วนของต้นทุนต่อหน่วยลดลง  ส่วนกำไร 2Q64 คาดทรงตัว   แนะนำซื้อ   (*จุด Cut loss หรือ Stop Profit  109.0 บาท) 

ปิดท้ายที่หุ้น TMT ([email protected]) เป็นปีทองของหุ้นเหล็ก  โดยมีปัจจัยหนุนราคาเหล็กฟื้นตัวแรงตั้งแต่ช่วง 4Q63 เป็นต้นมา ตามการฟื้นตัวเศรษฐกิจโลกในปี 64  และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และโครงสร้างพื้นฐานของสหรัฐ น่าจะหนุนกำไรหุ้นกลุ่มเหล็กงวด 1Q64 โดดเด่น   โดยคาดการณ์กำไรทั้งปี 64 คาดโต 48%yoy  แนะนำซื้อ  (*จุด Cut loss หรือ Stop Profit  9.40 บาท)