TNN online เพอร์เฟคเล็งขายแลนด์แบงก์-กองรีท2.02หมื่นล้าน สยายปีกถุงมือยางปั๊มรายได้

TNN ONLINE

Wealth

เพอร์เฟคเล็งขายแลนด์แบงก์-กองรีท2.02หมื่นล้าน สยายปีกถุงมือยางปั๊มรายได้

เพอร์เฟคเล็งขายแลนด์แบงก์-กองรีท2.02หมื่นล้าน  สยายปีกถุงมือยางปั๊มรายได้

พร็อพเพอร์ตี้เพอร์เฟค-แกรนด์ แอสเสทเล็งขายที่ดินและการลงทุนรวม 20,200 ล้านบาท หวังทำกำไร-ลดสัดส่วนหนี้สินต่อทุนให้เหลือ 1.2 เท่า สยายปีกลงทุนถุงมือยางรองรับตลาดโลกบูม คาดทั้งกลุ่มรายได้แตะ 21,370 ล้านบาท

นายศานิต อรรถญาณสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พร็อพเพอร์ตี้  เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) หรือ PF เปิดเผยว่า แผนงานปีนี้เน้นขายที่ดินที่ไม่มีแผนพัฒนาโครงการและสิทธิการเช่า รวมถึงขายการลงทุนในโรงแรมและจัดตั้งกองทรัสต์ รวม 20,200 ล้านบาท ซึ่งเป็นแนวทางที่จะเพิ่มความสามารถในการทำกำไรให้ดีขึ้น ต้นทุนทางการเงินลดลง และลดภาระหนี้คาดว่าจะทำให้บริษัทมีเงินสดประมาณ 4,000-5,000 ล้านบาท  โดยตั้งเป้าหนี้สินสุทธิต่อทุนที่ระดับ 1.2 สำหรับธุรกิจหลักจะขับเคลื่อนให้มีรายได้เติบโต สานต่อโครงการร่วมทุนกับพันธมิตรต่างประเทศ  ส่วนการเปิดโครงการใหม่จะเน้นบ้านแนวราบมากกว่าคอนโดมเนียมที่ไม่ได้เปิดโครงการมา 3 ปีแล้ว เนื่องจากสัญญาณไม่ดี แต่อาจเปิดในปีหน้าถ้าตลาดแนวโน้มเติบโตดี   


นอกจากนี้ยังขยายการลงทุนในธุรกิจใหม่ ซึ่งมีดีมานด์สูงและกำไรสูง ได้แก่ ธุรกิจผลิตและส่งออกถุงมือยาง ที่จะช่วยเสริมสร้างรายได้ในระยะยาว โดยประมาณการรายได้รวมปีนี้จะอยู่ที่ 21,370 ล้านบาท ประกอบด้วย รายได้ของพร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค 13,070 ล้านบาท  แกรนด์ แอสเสทฯ 2,100 ล้านบาท และรายได้จากการขายที่ดินและการลงทุน 6,200 ล้านบาท ขณะที่รายได้จากโครงการร่วมทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 4,000 ล้านบาท และธุรกิจถุงมือยาง 3,000 ล้านบาท  


 นายวงศกรณ์ ประสิทธิ์วิภาต กรรมการผู้จัดการ  บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค กล่าวว่า  ปีนี้วางเป้าขาย 17,300 ล้านบาท จากโครงการแนวราบ 12,000 ล้านบาท โครงการร่วมทุน 2,000 ล้านบาท คอนโดมิเนียมในประเทศ 2,500 ล้านบาท และคอนโดมิเนียมประเทศญี่ปุ่น 800 ล้านบาท จากการที่เศรษฐกิจโดยรวมขยายตัวลดลง บริษัทจึงชะลอการเปิดโครงการใหม่


ส่วนปีนี้โครงการใหม่ที่เปิด 6 โครงการ มูลค่า 9,930  ล้านบาท  แบ่งเป็นโครงการบ้านเดี่ยว 5 โครงการมูลค่า 4,830 ล้านบาท ส่วนโครงการร่วมทุนมี 1 โครงการกับฮ่องกงแลนด์คือ   LEKE LEGEND  บางนา-สุวรรณภูมิ ในคอนเซ็ปท์บ้านริมทะเลสาบขนาด 100 ไร่ มูลค่าโครงการ 5,100 ล้านบาท รวมถึงยังจะสร้างยอดขายต่อเนื่องจาก 2 โครงการร่วมทุนกับฮ่องกงแลนด์ และ ซูมิโตโม ฟอเรสทรี และโครงการในโซนกรุงเทพตะวันตก ที่จะได้รับอานิสงส์จากการเปิดตัวของห้างสรรพสินค้าและโรงเรียนนานาชาติแห่งใหม่ และรถไฟฟ้าสายสีชมพู 


ขณะเดียวกันมีสินค้าใหม่เซกเมนต์ใหม่บ้านเดี่ยว 3 ชั้นราคา 50 ล้านบาท และโฮมออฟฟิศ 5 ชั้นราคา 70-80 ล้านบาท ใจกลางเมืองทำเลพหลโยธินเพิ่มเติม สำหรับแนวคิดการพัฒนาโครงการ นอกจากการพัฒนารูปแบบบ้านให้รองรับการดำเนินชีวิตวิถีใหม่แล้ว ปีนี้ยังเพิ่มบริการด้านต่างๆ เพื่อตอบโจทย์ด้านไลฟ์สไตล์ใหม่ของผู้บริโภค  


นายวิทวัส วิภากุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แกรนด์ แอสเสท โฮเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน)  กล่าวว่า วางเป้าขายจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 1,100 ล้านบาท เป็นคอน โดมิเนียม 500 ล้านบาท และ วิลล่าในจังหวัดระยอง 600 ล้านบาท ส่วนธุรกิจโรงแรม สถานการณ์โควิด-19 มีผลกระทบอย่างมากกับธุรกิจท่องเที่ยว ส่งผลให้รายได้ของโรงแรมปีที่ผ่านมาต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้มาก สำหรับปีนี้ คาดว่าจะฟื้นตัวและเติบโตอย่างรวดเร็วในครึ่งปีหลัง โดยประมาณการรายได้ไว้ที่ 1,500 ล้านบาท อย่างไรก็ดี เนื่องจากสถานการณ์การระบาดของไวรัสยังคงมีความไม่แน่นอนอยู่มาก แผนการดำเนินงานในปี 2564 จึงยังมุ่งเน้นไปที่ตลาดชาวไทยท่องเที่ยวในประเทศเป็นหลัก ตั้งเป้าให้มีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยทั้งปีที่ 50% 


นอกเหนือรุกเข้าสู่ธุรกิจใหม่ เพื่อสร้างแหล่งรายได้ใหม่และสร้างกำไรให้เติบโตอย่างมั่นคง ด้วยเห็นโอกาสจากความต้องการใช้ถุงมือยางทั่วโลกที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก จึงได้ร่วมมือกับ บริษัท วัฒนชัย รับเบอร์เมท จำกัด ซึ่งเป็นผู้ผลิตและส่งออกถุงมือยางที่มีชื่อเสียงด้านคุณภาพและความน่าเชื่อถือยาวนานทั้งในและต่างประเทศ จัดตั้ง บริษัท แกรนด์ โกลบอล โกลฟส์ จำกัด (GGG) เพื่อผลิตและจำหน่ายถุงมือยางสังเคราะห์ (Nitrile) ภายใต้แบรนด์ GGG สู่ตลาดทั้งภายในและต่างประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มประเทศที่มีอัตราการใช้ถุงมือยางสูง เช่น สหรัฐอเมริกา ยุโรป ญี่ปุ่น 


ทั้งนี้ได้ลงทุนสร้างโรงงานบนเนื้อที่ 21 ไร่   ในนิคมอุตสาหกรรม    ทีเอฟดี 2 จังหวัดฉะเชิงเทราใช้เงินลงทุนทั้งหมด  1,100 ล้านบาทโดยมี  2 อาคาร ซึ่งอยู่ระหว่างก่อสร้างอาคารหลังแรก ที่มี 8 สายการผลิต มีกำลังการผลิต 21 ล้านกล่องต่อปี หรือ 2,100 ล้านชิ้นต่อปี คาดว่าจะแล้วเสร็จเดือนเม.ย. และเริ่มดำเนินการผลิตได้ในเดือนพ.ค.นี้ 


ส่วนอาคารหลังที่ 2 มีกำหนดแล้วเสร็จปลายปีนี้  มีจำนวนเครื่องจักร 8 เครื่อง กำลังการผลิตรวม 21 ล้านกล่องต่อปี นอกจากนี้ ยังมีแผนขยายกำลังการผลิตถุงมือยางธรรมชาติควบคู่ไปกับถุงมือยางไนไตรล์ เพื่อรองรับการเติบโตของตลาดโลกที่มีความต้องการ 450,000 ล้านชิ้นต่อปี แต่ทั่วโลมีกำลังการผลิตเพียง 300,000 ล้านชิ้นต่อปี   โดยรายได้จากธุรกิจถุงมือยางในปีนี้ประมาณการไว้ที่ 3,000 ล้านบาท 


ข่าวแนะนำ