ศุลกากรแถลงประเมินภาษีสินค้านำเข้าจากต่างประเทศถูกต้องตามราคาจริง

วันนี้ (22มี.ค.64) นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมศุลกากร แถลงข่าวชี้แจงขั้นตอนการปฏิบัติงานพิธีการศุลกากรทางไปรษณีย์ หลังจากโลกออนไลน์ออกมาวิจารณ์การทำงานของของกรมศุลกากร ผ่านแฮชแท็ก #ศุลกากรหรือซ่องโจร เนื่องจากที่ผ่านมาเกิดหลายเคสที่มีปัญหา ทั้งของบางส่วนสูญหายไป หรือโดนประเมินภาษีสูงเกินมูลค่าของสินค้า

อธิบดีกรมศุลกากร เปิดเผยว่า การส่งสินค้าต่างๆขึ้นอยู่กับการแจ้ง ว่าเป็นสินค้าอะไร ซึ่งเจ้าหน้าที่จะไม่ทราบว่าของที่อยู่ภายใน ว่ามีตรงตามที่แจ้งหรือไม่ ดังนั้นเจ้าหน้าที่ศุลกากร จึงมีอำนาจในการเปิดพัสดุสิ่งของต้องสงสัย ที่ผ่านในเส้นทางการขนส่ง ทั้งระบบขนส่งของรัฐและเอกชนทุกราย 

ส่วนกรณีที่มีปัญหานั้นถือว่ามีอยู่ราว 9% หรือราว 300,000 ชิ้นต่อปี รวมมูลค่าภาษี 300 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสินค้าที่มีราคาไม่เกิน 40,000 บาท และเป็นสินค้าที่ราคาสูงกว่าที่แจ้งไว้ 

ส่วนกรณีการประเมินภาระภาษีแพงเกินจริงหรือไม่นั้น เจ้าหน้าที่ทุกคนจะปฏิบัติตามประมวลระเบียบการประเมินราคา ภาษีศุลกากร ซึ่งใช้ราคาซื้อขายจริง หรือหากไม่ใช่สินค้าขาย เจ้าหน้าที่จะหาข้อมูลจากราคาสินค้าเดียวกัน จากเว็บไซต์ต่างๆ ของต่างประเทศมาอ้างอิง ซึ่งผู้รับสินค้าสามารถแจ้งให้กรมศุลกากร ทบทวนการประเมินใหม่ได้ และพร้อมให้ความเป็นธรรมตามหลักฐาน

สำหรับการเปิดกล่องจะมีเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ร่วมเป็นพยาน และบริเวณเปิดกล่องพัสดุยังติดตั้งกล้องวงจรปิดทำงานตลอด 24 ชั่วโมง โดยหลังจากตรวจค้นพัสดุแล้ว หากพบว่า พัสดุดังกล่าวเป็นสิ่งของต้องชำระอากร จะมีเอกสารแจ้งให้กับผู้รับปลายทางชำระภาษีอากรสิ่งของดังกล่าว ณ ที่ทำการไปรษณีย์ เพื่อนำจ่ายให้กับผู้รับตามเส้นทางไปรษณีย์ต่อไป

หลังจากนี้ จะมีการทำกระบวนการการรับผิดชอบระหว่างกรมศุลกากรและไปรษณีย์ ให้มีความชัดเจนมากที่สุด รวมไปถึงพื้นที่การรับส่งสินค้า ให้มีความชัดเจน และแยกเป็นสัดส่วน เพื่อป้องกันปัญหาที่เกิดขึ้นในอนาคต

ทั้งนี้ สถิติการนำเข้าของส่งทางไปรษณีย์ระหว่างประเทศในปี 62 มีทั้งหมด 5,989,619 หีบห่อ ในปี 2563 มีทั้งหมด 4,817,356 

ขณะที่สถิติการจับกุมตรวจยึดสิ่งของผิดกฎหมายของส่วนบริการศุลกากรไปรษณีย์ สำนักงานศุลกากรกรุงเทพ ปี 2563 พบ ยาเสพติด จำนวน 214 ราย น้ำหนัก 978 กิโลกรัม มูลค่า 404,770,100 บาท วัตถุลามก จำนวน 356 ราย น้ำหนัก 1,077 กิโลกรัมมูลค่า 1,796,000 บาท บุหรี่ไฟฟ้าพร้อมอุปกรณ์จำนวน 391 ราย น้ำหนัก 451 กิโลกรัม มูลค่า 5,834,500 บาท และอื่นๆ จำนวน 15 ราย น้ำหนัก 58 กิโลกรัม มูลค่า 257,300 บาท