สศช.ขีดเส้น ยึดเงินกู้คืน 141 โครงการ เบิกจ่ายไม่ถึง10%

วันนี้(10มี.ค.64)นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ตาม พ.ร.ก.กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท ได้ขอมติจากที่ประชุม ครม. บังคับให้หน่วยงานต่าง ๆ ที่ได้รับการอนุมัติโครงการไปแล้ว และมีผลการเบิกจ่ายเงินต่ำกว่า 10% ณ วันที่ 3 มี.ค.64 ที่ผ่านมา มีจำนวนมากถึง 141 โครงการ จากจำนวน 209 โครงการ จะต้องเร่งรัดการเบิกจ่ายโดยเร็ว หากยังนิ่งเฉยไม่มีแผนใช้จ่ายในส่วนงบดำเนินงานที่ชัดเจน ภายในวันที่ 30 เม.ย.นี้ จะต้องยุติโครงการ และต้องส่งคืนเงินกู้ที่เหลือให้รัฐทันที

          

สำหรับโครงการทั้งหมด 141 โครงการ แบ่งเป็นกรณีโครงการที่มีปัญหาเกี่ยวข้องกับระบบ eMENSCR และการเปลี่ยน แปลงรายละเอียดโครงการ รวม 6 โครงการ วงเงิน 39 ล้านบาท กรณีโครงการที่มีปัญหาเกี่ยวข้องกับการดำเนินโครงการ 9 โครงการ วงเงิน 221 ล้านบาท เช่น ยังไม่ได้รับอนุมัติให้ดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างจากผู้ว่าราชการจังหวัด, การดำเนินโครงการไม่สอดคล้องกับฤดูกาล ความล่าช้าที่เกิดจากความซับซ้อน การสั่งซื้อมีระยะเวลานาน หรือไม่ทราบขั้นตอนการดำเนินงาน  กรณีติดปัญหาเพราะอยู่ระหว่างรอระเบียบ วิธีการปฏิบัติสำหรับโครงการของจังหวัด รวม 51 โครงการ วงเงิน 5,090 ล้านบาท ซึ่งกรมบัญชีกลางได้จัดส่งวิธีปฏิบัติถึงผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดแล้ว เมื่อวันที่ 16 ก.พ.ที่ผ่านมา 

นอกจากนี้ยังมีโครงการที่ติดปัญหาจากการแพร่ระบาดโควิด-19 อีกจำนวน 26 โครงการ วงเงิน 253 ล้านบาท เนื่องจากโครงการมีลักษณะเป็นการจัดฝึกอบรม และกรณีไม่พบปัญหา/อุปสรรค หรือไม่ระบุอีกถึง 49 โครงการ วงเงิน 167 ล้านบาท ซึ่งทางคณะกรรมการฯ จะรวบรวมข้อมูลมาเสนอให้ ครม.รับทราบ ต่อไป

          

สำหรับตัวเลขล่าสุดของการใช้จ่ายเงินกู้ตาม พ.ร.ก.ฉบับนี้ ณ วันที่ 15 ก.พ. 64 ครม.ได้อนุมัติโครงการที่เสนอขอใช้จ่ายเงินกู้ภายใต้ พ.ร.ก. ตามที่คณะกรรมการเสนอแล้ว 256 โครงการ รวมกรอบวงเงินกู้ทั้งสิ้น 748,666 ล้านบาท ยังเหลือวงเงินอีก 251,333 ล้านบาท อย่างไรก็ตามต้องเร่งดำเนินการเร่งรัดการเบิกจ่ายให้แล้วเสร็จภายในเดือนเม.ย.64 และรายงานให้สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะรับทราบต่อไป