โบรกคาดหุ้นไทยบวกตามหุ้นภูมิภาค เตือนระวัง OR ติดแคชบาลานซ์

นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) เปิดเผยว่าตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าปรับตัวขึ้นในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นภูมิภาคเอเชียเคลื่อนไหวบวกเล็กน้อย แม้ตลาดสหรัฐฯ และตลาดสินค้าโภคภัณฑ์จะปิดทำการเมื่อคืนที่ผ่านมาเนื่องในวันประธานาธิบดี แต่ยังมีกระแสบวกการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง จากความคาดหวังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯ และเงินดอลลาร์ก็ยังอ่อนค่าอย่างต่อเนื่องช่วยหนุน Fund Flow ไหลเข้า

 

นอกจากนี้ดาวโจนส์ฟิวเจอร์สพุ่งขึ้นกว่า 200 จุด ภายหลังมีข่าวล่าสุดว่านางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฏรสหรัฐออกมาระบุว่า สภาคองเกรสจะจัดตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจเพื่อดำเนินการตรวจสอบเหตุการณ์จลาจลที่เกิดขึ้นในอาคารรัฐสภาสหรัฐเมื่อวันที่ 6 ม.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งตลาดฯ มองว่าจะช่วยดูแลความเรียบร้อยไม่ให้เกิดความวุ่นวายขึ้นอีก

อย่างไรก็ดี ตลาดอาจเผชิญความผันผวนในระหว่างทางได้จากหุ้น DELTA ที่ขยายระยะเวลาการใช้ Cash Balance ช่วงระหว่าง 16 ก.พ.- 8 มี.ค. และหุ้น OR ถือว่าแพงแล้วจากราคาปิดวานนี้ที่ 34 บาท แตะ P/E ย้อนหลังที่ 50 เท่า และมีโอกาสใช้เกณฑ์ Cash Balance ด้วย ทำให้ราคาหุ้นมีโอกาสลดความร้อนแรงลงบ้าง จากเมื่อวานนี้ที่ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวขึ้นไปมากรับแรงหนุนจากหุ้น DELTA และ OR เป็นหลักสำหรับวันนี้ต้องติดตามการอภิปรายไม่ไว้วางใจวันนี้ และการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนต่อไป ประเมินกรอบแนวรับ 1,513 จุด แนวต้าน 1,530 จุด

รายงานข่าวจากบล.ไทยพาณิชย์แจ้งว่า คาด SET เคลื่อนไหวในกรอบ หลังขาดปัจจัยใหม่ๆ หนุน ทั้งต้องระวังแรงขายในหุ้นที่ขึ้นแบบกระจุกตัวในช่วงที่ผ่านมาสำหรับ Conviction เน้นหุ้นใหญ่กำไร 4Q63 เติบโต-1Q64 โตต่อ (PTTEP,IVL) พอร์ตเก็งกำไร selective buy ในหุ้น 1. Global Plays กลุ่มพลังงาน (PTTEP, PTT, TOP) 2. 4Q63 Earnings Play คาดงบโต YoY (TU, CPF, GULF, WICE, TNP) ส่วน EPG, SCCC, SCGP แนะนำ Let Profit Runหรือปล่อยให้กำไรเติบโตไปเรื่อย     ๆ 

อย่างไรก็ตาม  เทรดดิ้งเล่นสั้นหุ้นที่ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันปาล์มปรับขึ้น เก็งกำไร CPI ซึ่งเป็นผู้จำหน่ายน้ำมันปาล์มสำเร็จรูปในไทย และเก็งกำไร UVAN ซึ่งเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายน้ำมันปาล์มดิบ

ด้านบล.เอเซีย พลัสแนะนำ MINT (FV @ 34 บาท ) MINT การกระจายของวัคซีน COVID-19 ทั่วโลก ตั้งแต่ช่วง ธ.ค. โดยเฉพาะในยุโรป ประกอบกับจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ทั่วโลกเริ่มลดลง ช่วยลด Downside ต่อประมาณการ ที่คาดเริ่มเห็นผลขาดทุนต่ำลงตั้งแต่ 2H64 รวมถึงไทย คาดได้กระแสเเชิงบวกของการจะเริ่มฉีดวัคซีนในประเทศช่วงปลายเดือน ก.พ. 64 คงแนะนำ ซื้อ ตามธีมวัคซีนยุโรป      

            

PTT (FV @ 48.5บาท) ราคาหุ้นแลกการ์ดขณะที่ราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นต่อเนื่องอยู่ระดับ 50 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ขณะที่ผลการดำเนินงานค่อย ๆ ฟื้นตัวตามเศรษฐกิจ หนุนความต้องการใช้ปิโตรเลียมและปิโตรเคมีเพิ่มขึ้น 

ปิดท้าย NER (FV @ 6.2 บาท) คาดกำไรสุทธิงวด 4Q63 จะเพิ่มขึ้นถึง 181.2% qoq และ 245.1% yoy ขึ้นทำ New High รายไตรมาส และสูงกว่าที่คาดไว้เดิมถึง 18% จากช่วง high season ของธุรกิจ 

และอานิสงค์ราคายางที่ปรับสูงขึ้นในงวด 4Q63 นำไปสู่การเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิปี 2563-64 ขึ้นเฉลี่ย 9% ต่อปี

ด้านบล.เมย์แบงก์กิมเอ็ง (ประเทศไทย) มองตลาดแกว่งขึ้น เน้นหุ้นที่มีแนวโน้มกำไรโดดเด่น ชูKBANK เนื่องจาก แนวโน้มเศรษฐกิจไทยที่ค่อยๆ ฟื้นตัวขึ้น ส่งผลให้การตั้งสำรองลดลง ซึ่งเป็นผลบวกต่อกำไร โดยประเมินกำไรปี 64 กลับมาฟื้นตัวเด่น +29%.YOY ราคาเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 160 บาท และ KCE คาดแนวโน้มยอดขายแผ่นวงจรพิมพ์ หรือ PCB จะฟื้นตัว ตามยอดขาย รถยนต์ปนี้ที่ 10-15%.YOY (Vs ปี 2020 ที่หดตัว -20%YOY) และในแม่กำไรคาดจะกลับมาขยายตัวแรงกว่า+80%YoY ทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบ 2 ปี จากการเกิด Economy of scale และการลดค่าใช้จ่ายในช่วงที่ผ่านมาราคาเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 60 บาท ประเมินแนวรับ 1,510 จุด แนวต้านที่ 1,540 จุด