TNN online "อุตตม" สั่งหาแหล่งเงินกู้ อุ้มแผนปฏิรูปประเทศ

TNN ONLINE

Wealth

"อุตตม" สั่งหาแหล่งเงินกู้ อุ้มแผนปฏิรูปประเทศ

อุตตม สั่งหาแหล่งเงินกู้ อุ้มแผนปฏิรูปประเทศ

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง สั่งหาแหล่งเงินกู้ระยะยาว โดยแผนเงินกู้ 5 ปี ต้องใช้เงินลงทุนกว่า 1.2 ล้านล้านบาท เพื่อหนุนแผนปฏิรูปประเทศ

วันนี้(14 ก.ย. 62) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า   นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยภายหลังตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายแก่สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) ว่า ได้มอบนโยบายให้แก่ สบน.เรื่องสำคัญ ได้แก่ 1.แผนการกู้เงินในระยะ5ปีข้างหน้าที่ถือเป็นเรื่องสำคัญในการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ และเศรษฐกิจ ซึ่งต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมากถึง 1.2 ล้านล้านบาท ดังนั้น สบน. มีบทบาทสำคัญในการช่วยจัดหาแหล่งเงินกู้ให้หน่วยงานรัฐ รัฐวิสาหกิจ เฉลี่ยปีละ 1.5-2 แสนล้านบาท โดยต้องบริหารไม่ให้เกิดการสะดุดเพื่อไม่ให้กระทบแผนในการปรับเปลี่ยนประเทศ 
2.การเตรียมความพร้อมรับความผันผวนของเศรษฐกิจและตลาดการเงินโลก โดย สบน. ต้องต้องจับตาดูปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ ที่จะมีผลกระทบกับไทยอย่างใกล้ชิด  โดยปัจจุบันปริมาณหนี้สาธารณะของไทย อยู่ที่ 6 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็น 41%ต่อจีดีพี ดังนั้นหากดอกเบี้ยมีการเปลี่ยนแปลงก็จะมีผลกระทบต่อต้นทุน แต่หากใช้โอกาสให้เป็นประโยชน์ก็จะเป็นผลดีกับประเทศไทยได้ 

นอกจากนี้ สบน. ยังต้องรักษาวินัยการเงินการคลัง โดยขณะนี้สัดส่วนหนี้สาธารณะยังอยู่ภายใต้กรอบวินัยทางการเงินการคลัง แต่อยากให้มองยาวไปถึง 5 ปีข้างหน้า ที่ประเทศไทยจำเป็นต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมาก จึงต้องรักษากรอบวินัยดังกล่าวนี้ไว้ โดยเบื้องต้นประเมินว่าสัดส่วนหนี้สาธารณะของไทยใน 5 ปีข้างหน้า  จะอยู่ไม่เกิน 47-48% ของจีดีพี ภายใต้จีดีพีขยายตัวเฉลี่ยปีละ 4%

 3.ได้สั่งให้ สบน. พยายามหาแหล่งเงินกู้สำรองเพิ่มขึ้น โดยเน้นแหล่งเงินกู้ภายในประเทศเป็นหลัก เพราะไม่มีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน  4.การติดตามการปฏิบัติงานในด้านการลงทุนของหน่วยงานที่ สบน. ไปช่วยกู้เงิน โดยขณะนี้การเบิกจ่ายเพื่อลงทุนยังไม่เป็นไปตามเป้าหมาย สบน. ต้องติดตามให้มีการเบิกจ่ายเงินลงทุนให้ได้มากที่สุด ต้องประสานกรมบัญชีกลางให้มีการเบิกจ่ายให้เป็นไปตามแผน เพราะถ้ากู้แล้วเอาเงินมากองจะไม่เป็นผลดี การกู้ต้องสอดรับกับการใช้เงิน ให้มีระบบติดตามอย่างใกล้ชิด
และ 5.การนำเทคโนโลยี โดยเฉพาะบล็อกเชนเข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกนักลงทุน และสร้างฐานข้อมูล (บิ๊กดาต้า) ในการเก็บข้อมูลการกู้เงิน ผู้ถือครองพันธบัตรในเชิงลึก จะเป็นข้อมูลที่มีประโยชน์ในการติดตามทิศทางของตลาดพันธบัตรที่มีมูลค่า 12 ล้านล้านบาทของประเทศไทยว่า มีการเคลื่อนไหวอย่างไร
        

ข่าวแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง