สงครามอิสราเอล-ฮามาสส่อแววบานปลาย จะหนุนราคาทองคำให้ปรับตัวขึ้นแตะ 1,950 ดอลลาร์

ราคาทองคำคาดจะปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง จากสงครามที่ร้อนระอุ ทำให้คาดว่าจะมีแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย รวมทั้งวันศุกร์ราคาทองคำปิดที่จุดสูงสุดของวันและทะลุเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 วันที่ 1,930 ดอลลาร์ขึ้นมาได้
ราคาทองคำ spot ในวันศุกร์ปรับตัวขึ้นแรง ปิดตลาดที่ 1,932 ดอลลาร์ ปรับขึ้นกว่า 63.74 ดอลลาร์ หรือเพิ่มขึ้นกว่า 3.41% จากวันก่อน เนื่องจากมีแรงซื้อทองคำเข้ามาในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย จากสงครามอิสราเอล-ฮามาสที่เริ่มร้อนระอุมากขึ้น หลังจากที่อิสราเอลเรียกร้องให้อพยพออกจากฉนวนกาซาภายใน 24 ชั่วโมง เนื่องจากจะโจมตีกวาดล้างฮามาส ทำให้นักลงทุนมีความกังวลว่าสงครามจะขยายวงกว้างมากขึ้นและจะส่งผลกระทบต่อการผลิตน้ำมันของประเทศในตะวันออกกลาง
ซึ่งโดยปกติแล้วจากเหตุการณ์ในอดีตที่ผ่านมาการปะทะกันของสงครามอิสราเอลจะจบภายในระยะเวลาอันสั้นเพียงไม่กี่วันเท่านั้น แต่สงครามของอิสราเอลในครั้งนี้ได้สร้างความเสียหายให้กับอิสราเอลเป็นอย่างมาก จึงอาจเป็นเหตุให้อิสราเอลต้องการกวาดล้างฮามาส และอาจนำไปสู่ความไม่พอใจของฝั่งประเทศที่สนับสนุนปาเลสไตน์ได้ และการที่อิสราเอลตัดสินใจเริ่มบุกโจมตีพื้นดินเข้าสู่ฉนวกกาซา ขณะเดียวกันก็มีการโจมตีข้ามพรมแดนกันระหว่างอิสราเอลและฝั่งตอนโต้ของเลบานอน ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าจะเป็นกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ ซึ่งเป็นพรรคการเมืองที่ได้รับการแต่งตั้งจากอิหร่าน โดยตัวแปรที่สำคัญที่อาจจะส่งผลทำให้สงครามขยายวงกว้าง คือ อิหร่าน ที่จะเข้าร่วมวงสงครามหรือไม่ เพราะถ้าแค่ปาเลสไตน์และอิสราเอลยังไม่มีผลกระทบเศรษฐกิจโลกมากเท่าไหร่นัก และอยู่วงจำกัดเท่านั้น เพราะว่าปาเลสไตน์ไม่มีการผลิตน้ำมัน ส่วนอิสราเอลผลิตน้ำมันแค่วันละ 300,000 บาร์เรลเท่านั้นเอง แต่ตัวแปรหลักอยู่ที่อิหร่าน ที่ออกมาสนับสนุนปาเลสไตน์ หากอิหร่านออกมาแสดงตนเต็มตัวในการร่วมทำสงครามครั้งนี้ จะส่งผลต่อราคาน้ำมันดีดตัวขึ้นอย่างมาก โดยมีการคาดการณ์ว่าราคาน้ำมันอาจพุ่งขึ้นแตะ 100 เหรียญต่อบาร์เรล เนื่องจากมีความเป็นไปได้ว่า อิหร่านจะปิดช่องแคบฮอร์มุซ โดยบริเวณช่องแคบฮอร์มุซมีการขนส่งน้ำมันวันละ 17.2 ล้านบาร์เรลเลยทีเดียว คิดเป็นสัดส่วนกว่า 20% ของการขนส่งน้ำมันโลก โดยยูเออี คูเวต อิหร่าน กาตาร์ บาห์เรน และอิรัก ต่างใช้เส้นทางนี้ขนส่งน้ำมัน ซึ่งถ้าเส้นทางนี้ปิดก็จะส่งผลต่ออุปทานน้ำมันโลก ขณะที่รัสเซีย และซาอุดิอาระเบีย ลดกำลังการผลิตน้ำมันจนถึงสิ้นปี ซึ่งเสี่ยงต่อการเกิดน้ำมันตึงตัว อาจทำให้บางประเทศเกิดการขาดแคลนน้ำมันได้
ขณะที่น้ำมันพุ่งขึ้น ภาวะสงคราม ก็ทำให้ราคาทองคำพุ่งขึ้นเช่นกันเช่นกัน และหากสงครามยืดเยื้อมากขึ้นอาจทำให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นแตะ 1,950 ดอลลาร์ได้ นอกจากนี้สงครามที่ขยายวงกว้างขึ้นไปสู่ตะวันออกกลาง อาจทำให้เศรษฐกิจโลกเข้าสู่ภาวะถดถอย ข้อมูลจาก Bloomberg ได้มีการประมาณว่าอาจทำให้การเติบโตทางเศรษฐกิจทั่วโลกลดลงเหลือ 1.7% เข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่ทำให้ผลผลิตโลกลดลงประมาณ 1 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งในอดีตสงครามอาหรับ-อิสราเอลในปีค.ศ. 1973 (พ.ศ. 2516) นำไปสู่การคว่ำบาตรน้ำมันและเกิดภาวะเงินฝืดในระบบเศรษฐกิจอุตสาหกรรมเป็นเวลาหลายปี และ ณ ปัจจุบันเศรษฐกิจโลกพึ่งฟื้นตัวจากภาวะเงินเฟ้อ สงครามในประเทศที่ผลิตน้ำมันอาจทำให้เงินเฟ้อพุ่งขึ้นอีกครั้ง ประกอบกับการที่ราคาน้ำมันที่พุ่งสูง อาจเป็นตัวแปรสำคัญที่ส่งผลต่อความเชื่อมั่นในการเลือกตั้งประธานาธิบดีในปีหน้าของสหรัฐด้วยเช่นกัน
ราคาทองคำคาดจะปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง จากสงครามที่ร้อนระอุ ทำให้คาดว่าจะมีแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย รวมทั้งวันศุกร์ราคาทองคำปิดที่จุดสูงสุดของวันและทะลุเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 วันที่ 1,930 ดอลลาร์ขึ้นมาได้ สัปดาห์นี้ติดตามสงครามอิสราเอล-ฮามาส และการเปิดเผยรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจของเฟด 12 เขต (Beige Book) ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่จะเปิดเผย ได้แก่ ดัชนีการผลิตรัฐนิวยอร์กเดือนต.ค. ยอดค้าปลีกเดือนก.ย. การอนุญาตก่อสร้างบ้านและการเริ่มก่อสร้างบ้านเดือนก.ย.
สงครามอิสราเอล-ฮามาสส่อแววบานปลาย จะหนุนราคาทองคำให้ปรับตัวขึ้นแตะ 1,950 ดอลลาร์
Gold Bullish
ภาวะเศรษฐกิจโลกมีความเสี่ยงเข้าสู่ภาวะถดถอย
ความกังวลเกี่ยวกับวิกฤตภาคธนาคาร
ความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ สงครามยูเครน-รัสเซีย สงครามอิสราเอล-ฮามาส
Gold Bearish
แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยสหรัฐอยู่ระดับสูงที่ยาวนานขึ้น
สัปดาห์นี้ราคาทองคำมีแนวรับอยู่ที่ 1,900 ดอลลาร์ และ 1,890 ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้าน 1,950 ดอลลาร์ และแนวต้าน 1,970 ดอลลาร์ ส่วนราคาทองแท่งในประเทศมีแนวรับ 32,800 บาท และ 32,600 บาท ขณะที่มีแนวต้านที่ 33,100 บาท และ 33,300 บาท
ธนรัชต์ พสวงศ์
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มฮั่วเซ่งเฮง
ติดตามข่าวหุ้นและการลงทุนทางไลน์
• Line @TNNWEALTH : https://bit.ly/3tCKmiD
———————————————————————
ติดตาม TNN Wealth ผ่านช่องทางต่าง ๆ ได้ที่
• Youtube : https://bit.ly/TNNWealthYoutube
• TikTok : https://bit.ly/TNNWealthTikTok
หรือดูรายการ Live ได้ทาง https://bit.ly/3HmUu4O