"ทีดีอาร์ไอ" ชี้ ต่างชาติจับตาตั้งรัฐบาล-ค่าแรงก่อนลงทุน

ดร. กิริฎา เภาพิจิตร ผู้อำนวยการ โครงการ TDRI Economic Intelligence Service (EIS) สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย หรือทีดีอาร์ไอ กล่าวว่า ถ้าการจัดตั้งรัฐบาลเกิดขึ้นล่าช้าว่าที่คาดไว้ในช่วงเดือนสิงหาคมออกไป จะทำให้ช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2566 หรือช่วงไตรมาส 4 ไม่สามารถจะใช้เงินตามงบประมาณปี 2567 ได้ เนื่องจากตามกฎหมายก็ต้องใช้งบลงทุนตามปีก่อนหน้า ดังนั้นจะทำให้ไม่มีมาตรการออกมา ซึ่งจะทำให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ หรือ (จีดีพี) ช่วงปลายปีไม่เติบโตเพิ่มขึ้น 

แต่อย่างไรก็ตามปัจจัยการเมืองเหล่านี้ถูกรวมไว้ในสมมุติฐานแล้ว จึงคาดว่าเศรษฐกิจทั้งยังเติบโตได้ร้อยละ 3.5 ตามที่คาดไว้หากไม่มีความเสี่ยงใดเข้ามาเป็นปัจจัยเพิ่มเติม เช่น เศรษฐกิจโลกชะลอตัว เป็นต้น 

นอกจากนี้การจัดตั้งรัฐบาลล่าช้า อาจมีผลต่อการเข้ามาลงทุนได้ เพราะนักลงทุนต่างชาติ ต้องรอดูนโยบายของรัฐบาลใหม่ก่อนตัดสินใจ ทั้งเรื่องพลังงาน ค่าแรงขั้นต่ำที่จะปรับขึ้นเป็น 450 บาท จากในปัจจุบันค่าแรงอยู่ที่ 350 บาท ซึ่งถือเป็นการเพิ่มต้นทุนให้ผู้ประกอบการ และอาจส่งผลทำให้นักลงทุนที่ใช้แรงงานในอุตสาหกรรมจำนวนมาก ตัดสินใจไปลงทุนยังประเทศอื่นแทน 

นอกจากนี้ยังกล่าวว่า ในส่วนที่พรรคการเมืองต่างๆ ออกนโยบายหาเสียงไว้ โดยบางพรรคออกนโยบายสวัสดิการที่ต้องใช้เงินสูงถึงล้านล้านบาทนั้น จะต้องมีการกู้เงินเพิ่ม เนื่องจากงบประมาณประจำปีไม่สามารถใช้ได้ โดยรัฐบาลใหม่หากจะเดินหน้านโยบายตามที่หาเสียงจะต้องใช้งบประมาณลงทุน ซึ่งในปัจจุบันมีเพียง 700,000-800,000 แสนล้านบาทเท่านั้น และในจำนวนนี้มีโครงการที่ใช้ผูกพันการใช้เงินอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว 

ดังนั้นจึงเหลือเงินให้รัฐบาลใหม่ใช้เพื่อเดินหน้านโยบายสวัสดิการแค่ 300,000 แสนล้านบาท จึงต้องมีการกู้เงินเพิ่ม ซึ่งจะส่งผลกระทบทำให้ภาครัฐต้องขาดดุลการคลังอย่างแน่นอน 

ที่มาภาพ : GettyImages

ที่มาข้อมูล : TNN