หุ้นไทยวันนี้ลุ้นแนวต้าน 1,600-1,650 จุด

บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) ระบุสาเหตุที่ SET Index ฟื้นตัวแรง จาก 3 ปัจจัย ได้แก่ 

1) ตลาดหุ้นไทยเริ่มมีแรงซื้อคืนเนื่องจากเป็นหนึ่งในตลาดที่ให้ผลตอบแทนแย่สุดในช่วงที่ผ่านมา 

2) Valuation ของหุ้นไทยอยู่ในจุดที่ความเสี่ยงต่ำ โดยค่าเฉลี่ย 5 ปีที่ 15-17x PER จะได้กรอบการซื้อขาย SET ที่ 1,530-1,730 จุด (อิง EPS ที่ 102 บาท) 

3) เข้าสู่ช่วงใกล้เลือกตั้ง ซึ่งสถิติในอดีตตลาดหุ้นไทยจะให้ผลตอบแทนเป็นบวกในช่วง 1 สัปดาห์ก่อนเลือกตั้ง ไปจนถึง 1 เดือนหลังเลือกตั้ง ทั้งนี้เรายังคงมุมมองตลาด พ.ค. มีโอกาสที่จะไม่เกิด Sell in May และมีโอกาสฟื้นตัวทั้งจาก 1) Relief rally จากนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่น่าจะผ่อนคลายลง (เฟดหยุดขึ้นดอกเบี้ย) และ 2) Honeymoon period rally หลังการเลือกตั้งไทย ซึ่งจะทำให้ภาพการเมืองชัดขึ้น และอาจมีแรงส่งจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนานใหญ่ในช่วงต่อไป

ภาพรวมกลยุทธ์: ยังลุ้นเป็นการเคลื่อนไหวออกข้างที่มีกรอบการฟื้นตัวด้านบนในระดับ 1,600-1,650 จุด เน้น selective buy กลุ่มที่น่าจะเห็นการฟื้นตัวได้ชัดเจนในปี 2566 และยังมีการถือครองที่ต่ำ (Underowned) โดยเฉพาะสาธารณูปโภคและค้าปลีก ขณะที่ภาพรวมการเลือกตั้งหนุนหุ้นบริโภคในประเทศ ในช่วง 1 เดือนหน้า

ด้าน บล.กรุงศรี พัฒนสิน คาดภาพตลาด “Sideways/Up” ต่อได้ มองหุ้นกลุ่ม Global Plays (พลังงาน, ชิ้นส่วนฯ)ยังมีแรงประคองจากภาพราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้น บ่งชี้ตลาดยังผ่อนคลายต่อความเสี่ยงเศรษฐกิจ ขณะที่หุ้น Domestic ยังลุ้นโมเมนตัมเชิงบวก จากกระแสเลือกตั้งลุ้นรัฐบาลที่มีเสถยรีภาพขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ผสาน ท่องเที่ยวโมเมนตัมยังดี โดยวันนี้หุ้นเคลื่อนไหวเด่นน่าจะอยู่ในกลุ่มที่ยัง Laggard ปรับขึ้นน้อยกว่าระดับที่ SET รีบาว์จากจุดต่ำสุด 1507 จุด (ระหว่างวันพุธ) และภาพรวมระยะกลาง หากผสาน ภาพโครงสร้างเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวชัดเจน ลุ้น GDP ปี 23-24 เติบโตสูงกว่าระดับศักยภาพที่ปีละ 3%  และเริ่มส่งผ่านมายังกำไรตลาดที่เห็นภาพฟื้นตัว 1Q23 มองเป็นแรงหนุน SET Index เดินหน้าสู่เป้าปี 2023 ที่ 1768 จุด ทั้งนี้  อิง ERP เฉลี่ย 3.35%  โดยยังให้ลงทุนหุ้นไทยน้ำหนัก 80% แนะนำ

1)หุ้นกลุ่มได้ประโยชน์ China Reopening ให้รอจังหวะสะสม ( AOT, AMATA,  WHA, CENTEL, ERW, SISB, SIRI)  

2)หุ้นกลุ่มเก็งกำไรมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรัฐฯ ผสานหุ้น Consumer พื้นฐานมั่นคง (CRC, HMPRO, CPALL, BJC, ADVANC,  AMATA,  BBL, KBANK, SCB)

3)Election Play (ADVANC, INTUCH, PLANB, CPALL, MAKRO, CRC) 

4)Summer Play (OSP,  ICHI, SAPPE,  HMPRO, CRC) 

5)หุ้นกลุ่มโภคภัณฑ์ที่ราคาสินค้าต่างๆรีบาวน์ช่วงสั้น (PTTEP) และหุ้นที่มีปัจจัยเฉพาะตัวกำไร 1Q23F เด่นหรือเป็นจุดเริ่มฟื้นตัวและระยะถัดไปมีแนวโน้มเด่น อาทิ ICHI, CPALL, TOA, SC, MAKRO, ADVANC, GPSC, OSP, CRC , OR, SCGP

6)หุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า Anti-Commodities (GULF, GPSC)

7.) หุ้นในธีม School Reopening Plays เก็งกำไรกลุ่มเช่าซื้อ ค้าปลีก (AEONTS, MAKRO)