หุ้นไทยวันนี้เน้น selective buy

บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) คาดว่าการเลือกตั้ง 14 พ.ค. ยังเป็นปัจจัยหนุนความเชื่อมั่นและการบริโภคในประเทศ แม้มีปัญหาด้านการจัดการในการเลือกตั้งล่วงหน้า 7 พ.ค. ที่ผ่านมา แต่การเดินหน้าเข้าสู่การเลือกตั้ง 14 พ.ค. ยังเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดหุ้นจาก 

1) กิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวดีขึ้นจากความคาดหวังการเปลี่ยนแปลง 2) ความชัดเจนของการเมืองหลังเลือกตั้งหนุนการฟื้นตัวของหุ้นเกี่ยวกับการเมืองหรือเป็นคู่สัญญาภาครัฐฯ 

3) ความคาดหวังผลบวกจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนาดใหญ่ของพรรคการเมืองต่างๆหลังการเลือกตั้ง ซึ่งเราคาดปัจจัยข้างต้นจะเป็นปัจจัยหนุนหุ้นเกี่ยวกับการบริโภคในประเทศ และมีแนวโน้มหนุนการเกิด Honeymoon period rally หลังการเลือกตั้ง ซึ่งจากสถิติในการเลือกตั้ง 7 ครั้งที่ผ่านมา ตลาดหุ้นไทยให้ผลตอบแทนเป็นบวกหลังการเลือกตั้ง 1 เดือน ถึง 6 ครั้ง

ภาพรวมกลยุทธ์: ไม่หลุด 1,505 จุด ยังลุ้นเป็นการเคลื่อนไหวออกข้างที่มีกรอบการฟื้นตัวด้านบนในระดับ 1,600-1,650 จุด เน้น selective buy กลุ่มที่น่าจะเห็นการฟื้นตัวได้ชัดเจนในปี 2566 และยังมีการถือครองที่ต่ำ (Underowned) โดยเฉพาะสาธารณูปโภคและค้าปลีก ขณะที่ภาพรวมการเลือกตั้งหนุนหุ้นบริโภคในประเทศ ในช่วง 1 เดือนหน้า

ด้านบล.กรุงศรี พัฒนสิน มองภาพตลาด “Sideways/Up” สินทรัพย์เสี่ยงระยะสั้นมองลุ้นรีบาวน์ได้ มองตลาดที่กังวลต่อความเสี่ยงเศรษฐกิจลดลง บ่งชี้จากราคาน้ำมันที่รีบาวน์แรง 4.0% +/- จะผสานภาพ Fed มีท่าที Hawkish ลดลง และ Apple รายงานกำไรดีกว่าคาด ช่วยลดความผันผวนหุ้นอิง Global Plays (น้ำมัน, ชิ้นส่วนฯ) และลุ้นรีบาวน์รอบสั้น ส่วนในประเทศแรงขับเคลื่อนจากหุ้น Domestic ชัดเจน ทั้งภาพ 2H23 ลุ้นรับภาพบวกแรงหนุนหลัก China Reopening ฟื้นตัวเร่ง ผสาน กระแสเลือกตั้งคึกคัก โดยเฉพาะเม็ดเงินหาเสียงช่วงโค้งสุดท้าย ประกอบกับโครงสร้างเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวชัดเจน ลุ้น GDP ปี 23-24 เติบโตสูงกว่าระดับศักยภาพที่ปีละ 3% อิงคาดการณ์ BB Consensus มองภาพ +3.6% และ +3.8% มองเป็นแรงหนุน SET Index เดินหน้าสู่เป้าปี 2023 ที่ 1768จุด ทั้งนี้  อิง ERP เฉลี่ย 3.35%  โดยยังให้ลงทุนหุ้นไทยน้ำหนัก 80% แนะนำ

1)หุ้นกลุ่มได้ประโยชน์ China Reopening ให้รอจังหวะสะสม ( AOT, AMATA,  WHA, CENTEL, ERW, SISB, SIRI)

2)หุ้นกลุ่มเก็งกำไรมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรัฐฯ ผสานหุ้น Consumer พื้นฐานมั่นคง (CRC, HMPRO,  CPALL, BJC, ADVANC,  AMATA,  BBL, KBANK, SCB)

3)Election Play (ADVANC, INTUCH, PLANB, CPALL, MAKRO, CRC) 

4)Summer Play (OSP,  ICHI, SAPPE,  HMPRO, CRC) 

5)หุ้นกลุ่มโภคภัณฑ์ที่ราคาสินค้าต่างๆรีบาวน์ช่วงสั้น (PTTEP) และหุ้นที่มีปัจจัยเฉพาะตัวกำไร 1Q23F เด่นหรือเป็นจุดเริ่มฟื้นตัวและระยะถัดไปมีแนวโน้มเด่น อาทิ ICHI, CPALL, TOA, SC, MAKRO, ADVANC, GPSC, OSP, CRC , OR, SCGP

6) หุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า Anti-Commodities (GULF, GPSC)

7.) หุ้นในธีม School Reopening Plays เก็งกำไรกลุ่มเช่าซื้อ ค้าปลีก (AEONTS, MAKRO)