TNN online หุ้นไทยวันนี้คาดตลาด “Sideways”

TNN ONLINE

Wealth

หุ้นไทยวันนี้คาดตลาด “Sideways”

หุ้นไทยวันนี้คาดตลาด “Sideways”

หุ้นไทยวันนี้คาดตลาด “Sideways” หลังตัวเลขขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกสหรัฐสูงกว่าคาด

บล.กรุงศรี พัฒนสิน คาดตลาด “Sideways” ต้าน 1573/1580 จุด รับ 1558/1551 จุด ตัวเลขขอรับสวัสดิการว่างงานครัังแรกสหรัฐสูงกว่าคาดผสานกับยอดขายบ้านมือสองชะลอลงตอกย้ำวงจรดอกเบี้ยขาขึ้นสหรัฐเป็นช่วงปลายทาง หนุนค่าเงิน Dollar กลับมาอ่อนค่าระยะสั้นบวกต่อทิศทาง Flow ไหลเข้า EM&ASIA แต่ราคาน้ำมันดิบยังพักฐานต่อจำกัดการขึ้นของหุ้นในภูมิภาค  


ส่วนปัจจัยภายในมีประเด็นบวกต่อ คือ 

1.) งบธนาคารที่ทยอยประกาศออกมาดีกว่าที่เราและตลาดคาด ล่าสุดคือ BBL 

2.) วันนี้ติดตามการลดค่าไฟลงบวกต่อการบริโภคและต้นทุนธุรกิจ  ประเมินกลุ่มนำตลาดวันนี้ คือ กลุ่มสื่อ,  กลุ่มธนาคาร, กลุ่ม Domestic play (วันนี้แนะนำหุ้นเด่น :  AMATA (กระแสต่างชาติลงทุน),  PLANB (เม็ดเงินโฆษณานอกบ้านโต, กระแสเลือกตั้ง) และ BBL (งบดี)


ด้านบล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) ระบุว่าตลาดระยะสั้นอาจตอบรับเชิงลบต่อการปรับประมาณการและแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ ภาพรวมปัจจัยภายนอกระยะสั้นอาจผันผวนจากสหรัฐฯ เนื่องจาก 

1) แนวโน้มผลประกอบการโดยรวมที่ยังไม่สดใส โดยเฉพาะในกลุ่มเทคโนโลยี ที่ทั้งรายได้และกำไรออกมาต่ำกว่าตลาดคาด 

2) ตัวเลขภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง และอาจเป็นสัญญาณเตือนของการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย 

3) เงินกู้ฉุกเฉินที่เฟดให้ธนาคารพาณิชย์สามารถกู้ไปใช้แก้ปัญหาสภาพคล่อง ขยับเพิ่มขึ้นครั้งแรก หลังลดลงมาตั้งแต่กลาง มี.ค.66


ปัจจัยในประเทศ ระยะสั้นผันผวนจาก 3 ปัจจัยหลัก ได้แก่ 

1) การปรับลดลงแรงของราคาหุ้นหลายตัว ลดลงจนไปถึงระดับที่ trigger ให้เกิดการบังคับขายสำหรับลูกค้าในบัญชีมาร์จิ้น 

2) ความไม่แน่นอนของผลการเลือกตั้ง ทำให้เกิดการปรับพอร์ตการลงทุน 

3) ความเสี่ยงของหุ้น STARK ทีอาจนำไปสู่การผิดนัดชำระหนี้ อาจกระทบต่อการตั้งสำรองของธนาคารใหญ่ 


อย่างไรก็ตาม KBANK รายงานผลประกอบการไตรมาส 1/66 ที่ 10,741 ล้านบาท (ดีกว่าคาดการณ์ของ Concensus ที่ 10,808 ล้านบาท)


ภาพรวมกลยุทธ์: คาดผลประกอบการหุ้นธนาคารที่ดีหนุนบรรยากาศลงทุนระยะสั้น นอกจากนี้ตลาดน่าจะตอบรับเชิงลบมากไปต่อข่าวการปรับลดค่า Ft ของกลุ่มไฟฟ้า ซึ่งภาพใหญ่ผลดีจากต้นทุนที่ลดลงจะเร็วและมากกว่ารายได้ Ft ที่ลดลง  ขณะที่การลงทุนเน้น selective buy กลุ่มที่น่าจะเห็นการฟื้นตัวได้ชัดเจนในปี 2566 และยังมีการถือครองที่ต่ำ (Underowned) โดยเฉพาะสาธารณูปโภคและค้าปลีก


ข่าวแนะนำ