"พลิษฐ์ อัครนันท์กรณิศ" ปรับกลยุทธ์ สร้างโอกาสใหม่ธุรกิจ

พลิษฐ์ อัครนันท์กรณิศ" ปรับกลยุทธ์ สร้างโอกาสใหม่ธุรกิจ

ธุรกิจสแน็ก ขนมขบเคี้ยว หลายคนอาจมองว่าช่วงวิกฤติโควิดที่ผ่านมา ไม่น่าจะได้รับผลกระทบอะไร แต่จริงๆ แล้ว "พสิษฐ์ อัครนันท์กรณิศ" ผู้อำนวยการใหญ่ประจำประเทศไทย บริษัท มอนเดลีซ อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด บอกว่า ยอดขายหายไปเยอะเลย

"พสิษฐ์" เล่าว่า ช่วงที่เข้ามารับตำแหน่งเมื่อ 1 ก.ค.2563 เป็นช่วงที่โควิดส่งผลกระทบ ยอดขายหายไปมากพอสมควร เนื่องจากการบริโภคสินค้าของมอนเดลีซ เกิดจากการเดินทาง การท่องเที่ยว การเจอหน้ากัน การประชุม งานอีเว้นท์ แต่พอล็อคดาวน์ ไตรมาสแรกของปี 2563 ธุรกิจของมอนเดลีซจึงได้รับผลกระทบเยอะในกลุ่มสินค้าลูกอม หมากฝรั่ง

จากการศึกษาตลาดและโอกาสของโปรดักส์ "พลิษฐ์" จึงเริ่มปรับวิกฤติเป็นโอกาส สร้างโอกาสให้แก่ธุรกิจภายใต้นโยบาย ‘Empower People To Snack Right’ พร้อมเปิดบ้านมอนเดลีซโฉมใหม่ จากเดิมที่ลูกอม หมากฝรั่ง มีสัดส่วนมากกว่า 70% ของการขาย ก็พยายามปรับลดลง ให้เหลือ 45% ขยับบิสกิต ช็อกโกแล็ต และชีส ให้มีสัดส่วนประมาณ 35% ที่เหลือเป็นสินค้าอื่นๆ

"ลักษณะพฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไป เราเลยอาศัยจังหวะนี้ในการปรับพอร์ตฟอริโอ บิสกิตซึ่งคนจะซื้อทานกันที่บ้าน ขณะที่ลูกอม หมากฝรั่ง ที่เป็นพอร์ตใหญ่ ก็ปรับให้เล็กลง ทำให้มีสัดส่วนใกล้เคียงกัน เราเริ่มปรับสมดุลย์ให้มันใกล้เคียงกันมากขึ้น"

"พลิษฐ์" ปรับพอร์ตโครงสร้างสินค้า ปรับวัฒนธรรมองค์กร ที่เริ่มไม่เฮลตี้เพราะการต้องทำงาน Work Form Home อยู่นาน ให้มีความกระชับกระเฉงมากยิ่งขึ้น โดยยึด 3 C เป็นหลัก คือ Connect เป็นการสร้างวัฒธรรมองค์กร ให้พนักงานได้เข้ามาคุยกัน Collaboration มาเตรียมงาน ต้องคุยกับลูกค้าอย่างไร และ Create มีการทำเวิร์คช้อปร่วมกัน

รูปแบบการทำงานก็ปรับให้เป็นไฮบริด ไม่ได้ฟิคว่าพนักงานจะต้องเข้าออฟฟิศวันไหน เน้นที่ความยืดหยุ่นในการทำงาน ให้โอกาสพนักงานในการเลือก เพื่อเลี่ยงกับปัญหารถติด ปัญหาการติดเชื้อโควิด พนักงานของมอนเดลีซ สามารถทำงานที่บ้านหรือที่ไหนก็ได้ เรามีความเชื่อใจกัน และเข้าใจกัน ซึ่งดูได้จากผลงานที่ออกมา

"เราบริหารงาน ด้วย base on trust ใหัความไว้วางใจกับพนักงาน เราจะทำให้เขาเสริมสร้างวินัยตัวเองมากขึ้น มันพิสูจน์แล้ว ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา"

ส่วนของพื้นที่ออฟฟิศ ก็ปรับให้เล็กลง ปรับเลย์เอ้าท์ออฟฟิศใหม่ ผู้บริหารไม่มีห้องทำงานส่วนตัว เป็นโอเพ่นสเปซ เป็น work place of the future เป็นสมาร์ทโคเวอร์กิ้งสเปซไอเดีย ให้คนสามารถคอนเน็คกันได้มากขึ้น คุยกันมากขึ้น หากต้องเข้ามานั่งทำงานในออฟฟิศ พนักงานก็จะรู้สึกผ่อนคลายและสดชื่น

ในมุมของการทำงาน มอนเดลีซเลิกการทำเป็นไซโลแบบต่างคนต่างทำ ปรับเปลี่ยนเป็นการทำงานแบบ One Term One Vision ทุกคนมีเป้าหมายร่วมกัน ยอดขายต้องมา มาร์เก็ตแชร์ต้องถึง กำไรต้องได้ ทุกคนมีส่วนร่วมผลักดันให้ได้ตามเป้าหมาย

"พลิษฐ์" เล่าทิ้งท้ายว่า หลังการปรับเปลี่ยน บริษัทฯ ได้ทำ Employee Survey พบว่าสกอร์ความพึงพอใจของพนักงานดีขึ้น พนักงานแฮปปี้ การประสานงานดี การทำงานมีความคล่องตัว ทุกคนซัพพอร์ตซึ่งกันและกัน ส่วนของสินค้าที่บาลานซ์พอร์ต พร้อมเติมนวัตกรรมสร้างสินค้าที่ตอบโจทย์ตลาด และยังเข้มข้นเรื่องแผนส่งเสริมการขาย ทำทั้งแคมเปญการตฃาดและการจัดดิสเพลย์ที่สะดุดตา ส่งผลให้ผลดำเนินการโดยรวมปรับตัวดีขึ้น ทำให้ปีที่ผ่านมา มอนเดลีซเติบโตได้แล้วกว่า 7% ทั้งๆ ที่มีการล็อคดาวน์หลายรอบ ส่วนปี 2565 คาดว่าจะเติบโตได้ราว 5-6%