เปิดวิสัยทัศน์ "วิทูร เลิศพนมวรรณ" ผู้สร้างความต่างธุรกิจ Wealth Tech

 เปิดวิสัยทัศน์ "วิทูร เลิศพนมวรรณ"

ผู้สร้างความต่างธุรกิจ Wealth Tech

Wealth Tech หรือ Wealth Architects ธุรกิจการออกแบบความมั่งคั่ง ที่ไม่ได้จำกัดตัวเองอยู่แคค่การเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน หรือการลงทุนทั่วไป แต่เป็นการนำนวัตกรรมเทคโนโลยีทางการเงิน เข้ามาตอบโจทย์ แก้ Pain Point ของทั้งผู้ประกอบการ บุคคลทั่วไป รวมทั้งผู้ให้บริการที่ปรึกษาทางการเงิน ได้มีช่องทางและเครื่องไม้เครื่องมือในการสร้างความมั่งคั่งในชีวิตอย่างน่าสนใจ

"วิทูร เลิศพนมวรรณ" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร iFCG เล่าว่า ได้ก่อตั้งธุรกิจมาได้ราว 13 ปี ร่วมกับพาร์ทเนอร์ ด้วยเงินลงทุนเริ่มต้น 1 ล้านบาท ในขณะที่ตัวเขาเองอยู่ในแวดวงที่ปรึกษาการเงินการลงทุนมากกว่า 20 ปี

ในการเปิดธุรกิจ iFCG เริ่มต้นธุรกิจด้วยการรับเป็นที่ปรึกษาทางการเงินและการลงทุนให้กับส่วนบุคคลและคอร์ปอเรท ในขณะที่มีสถาบันการเงินมากมายทั้งรายเล็กรายใหญ่ ให้บริการรูปแบบเดียวกันนี้อยู่เต็มตลาด "วิทูร" ต้องคิดให้ต่างและเด่น ไม่งั้นธุรกิจก็รอดยาก

สิ่งที่เขาทำคือ ศึกษาตลาด ศึกษาจุดแข็งของตัวเอง ดูว่าคู่แข่งเป็นอย่างไร ตลาดไหนที่ยังมีช่องว่าง มีสนามไหนที่น่าจะพอเข้าไปเล่นได้บ้าง และสิ่งที่เขาพบคือ Pain Point ของที่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ที่ผู้ซื้อจะประสบปัญหา ซื้อมาแล้วขายไม่ออก ราคาตก หรือไปดาวน์คอนโด จ่ายเงินไปแล้ว รอกว่าจะสร้างเสร็จ ไม่มีผลตอบแทนอะไรเลย

"การวางดาวน์ ถามว่า 1. เงินดาวน์มันไม่ได้รีเทิร์น 2. ตอนโอนจะมีค่าโอนเกิดขึ้น ลูกค้าก็ต้องจ่าย 3. ตอนที่เราโอนแล้วปล่อยเช่า แต่มาเจอโควิด จากยิวได้ 7%. เหลือไม่ถึง 3% หรือ 4. ถ้าจะขาย เจอจังหวะไม่ดี ขายไม่ได้หรือขายได้ในราคาที่ไม่ต้องการ Pain Point เหล่านี้คือปัญหาของคนลงทุน ที่ไม่มีใครเข้าไปแแก้"

วิธีการของ "วิทูร" คือ การเข้าไปต่อรองกับดีเวลลอปเปอร์หรือเจ้าของโครงการ หาดิวที่ดีที่สุด และลงตัวที่สุดให้กับทั้ง 2 ฝ่าย ด้วยการคิดนอกกรอบ ซื้อโครงการจากดีเวลลอปเปอร์ล็อตใหญ่ ทำให้ได้ราคาที่ดี และให้ลูกค้าวางดาวน์ 30-50% ดีเวลลอปเปอร์ก็จะแฮปปี้ ได้เงินและเอาเงินรีเทิร์นบางส่วนมาจ่ายให้ลูกค้าได้ 7% โดยดีเวลลอปเปอร์มีสัญญาให้ผู้ซื้อว่า เขาจะเลิกและขายคืนได้เมื่อไร รวมถึงการได้ค่าเช่า แนวคิดนี้ ทำให้ win win ทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย โดยมี iFCG เป็นคนกลาง

"เราต้องคิดนอกกรอบ และพยายามสื่อสาร ทำให้สามารถสร้างโมเดลธุรกิจที่น่าสนใจได้...เราไปตรงไหนที่คิดว่าเราสู้ได้ เช่นเดียวกับ wealth cafe ทำคาเฟ่ที่ไม่ได้ขายกาแฟ แต่เรามีการวางแผนการเงิน วางแผนเสร็จ ก็ไปดูในพอร์ตจะซื้ออะไรแพ็คเกจอะไร มันเวิร์ค เราเลยไปเปิดที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ภูเก็ต และจะเปิดอีก 30 สาขา"

นั่นคิดวิธีคิดที่แตกต่าง และนำส่ิงที่เห็นมาต่อยอด สร้างเป็นโมเดลธุรกิจที่ไม่เหมือนใคร แต่..."วิทูร" กล่าวว่า แต่ไม่ว่าจะทำอะไร ก็ต้องกลับมาดูที่เรื่องของ trust การทำธุรกิจของ iFCG ไม่ได้ทำแค่เรื่องการเงิน แต่ทำเรื่องของ trust เรื่องความเชื่อมั่น และคอนเนคชั่นไปด้วยพร้อมๆ กัน

วิธีการสร้างความเชื่อมั่นของ "วิทูร" เขาบอกว่า มันคือการแสดงความจริงใจ และซื่อสัตย์ เวลาลูกค้าลงทุน 7-10 ตัว เมื่อมีตวหนึ่งที่เสีย iFCG ต้องชัวร์ว่า ใน 7-10 ตัวที่ลงไป ต้องสามารถคัฟเว่อร์ให้ลูกค้าได้ มันเป็นวิธีการบริหารจัดการ หรือ ด้วยนโยบายส่วนตัว ที่ทุกการลงทุนที่บริษัททำ เราจะเป็นลูกค้าคนแรกเสมอ เพราะฉะนั้นเมื่อลูกค้าเจ็บตัวนั่นหมายความว่า เราก็เจ็บด้วย...นี่คือวิธีการสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า ที่ซีอีโอ iFCG ทำ และเขาย้ำว่า “ความน่าเชื่อถือ และคอนเนคชั่น” เป็นเรื่องสำคัญมากๆ สำหรับคนทำธุรกิจ

อีกหนึ่งความคิดต่างที่ "วิทูร" ได้ทำร่วมกับพาร์ทเนอร์ คือ การลงทุนในโครงการ Phill Collection เปิดบริษัท ครีเอทีฟ ไลฟ์สไตล์ เวนเจอร์ จำกัด (Creative Lifestyle Ventures-CLV) สร้างโมเดลธุรกิจ Lifestyle Club ริมแม่น้ำเจ้าพระยาและพัทยา เจาะกลุ่มนักธุรกิจและคนรุ่นใหม่ ชื่อ “Phill Club” ภายใต้ Phill Collection ด้วยโมเดลธุรกิจใหม่ ภายใต้แนวคิด Sharing Economy ซึ่ง Phill Collection จะเป็นศูนย์รวมไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย โดยเฉพาะกิจกรรมทางเรือ

"วิทูร" แชร์แนวคิดทิ้งท้ายว่า การจะเริ่มต้นธุรกิจอะไร พาร์ทเนอร์ที่ดีเป็นสิ่งสำคัญ หากสามารถสร้างเกมใหม่ที่ทุกคนในอีโคซิสเต็มเป็นพาร์ทเนอร์กันได้ เกมนั้นก็จะสามารถเล่นได้ในระยะยาว แต่ก่อนจะเริ่ม ต้องเซอร์เวย์ให้ดีก่อนว่า มันเวิร์คจริงไหม และมีคนเห็นด้วยมากน้อยแค่ไหน หากพูดกับคน 8-10 คน 9 คนไม่เห็นด้วย ก็พับโครงการได้เลย