TNN online ไทยพาณิชย์ลุยหุ้นกู้อนุพันธ์แฝง ชูผลตอบแทน 2.50%

TNN ONLINE

Wealth

ไทยพาณิชย์ลุยหุ้นกู้อนุพันธ์แฝง ชูผลตอบแทน 2.50%

ไทยพาณิชย์ลุยหุ้นกู้อนุพันธ์แฝง ชูผลตอบแทน 2.50%

ไทยพาณิชย์เปิดจำหน่ายหุ้นกู้อนุพันธ์แฝงอ้างอิงดอกเบี้ย THOR Link Binary Note เป็นรายแรกของประเทศไทย เสนอขายระหว่างวันที่ 17 -21 ต.ค.นี้ อายุโครงการ 2 ปี จ่ายผลตอบแทนทุก 3 เดือน รับผลตอบแทนสูงสุด 2.50% ต่อปี คุ้มครองเงินต้น 100% เจาะกลุ่มนักลงทุนรายใหญ่

นายแพททริก ปูเลีย Head of Financial Markets Function   ธนาคารไทยพาณิชย์   เปิดเผยว่า   ธนาคารฯ เปิดจำหน่าย หุ้นกู้ที่มีอนุพันธ์แฝงอ้างอิงกับอัตราดอกเบี้ย ประเภท  THOR Link Binary Note   รุ่น SCB24OE เป็นรายแรกของประเทศ   เสนอขายระหว่างวันที่  17 – 20 ต.ค. อายุการลงทุน 2  ปี  ( 21 ต.ค.2565 – 21 ต.ค. 2567)  และคุ้มครองเงินต้น 100% เมื่อถือจนครบกำหนดไถ่ถอน    


โดยจ่ายผลตอบแทนทุก 3 เดือน ซึ่งธนาคารจะจ่ายผลตอบแทนทั้งสิ้นจำนวน   8 งวด เริ่มจ่ายงวดแรกในวันที่ 23  ม.ค.  66 และสิ้นสุดงวดสุดท้ายในวันที่  21  ต.ค. 67 มีเงื่อนไขการจ่ายผลตอบแทนที่อัตราดอกเบี้ยอ้างอิง THOR ดังนี้ 

 

1.หากอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยแบบ Compound ของ THOR ระยะเวลา 3 เดือน น้อยกว่าหรือเท่ากับ 2.25% ผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทน 2.50% ต่อปี  

2.หากอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยแบบ Compound ของ THOR ระยะเวลา 3 เดือนมากกว่า 2.25% ผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทน 0% ต่อปี   


ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ย  THOR มีความเคลื่อนไหวใกล้ชิดกับดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ปัจจุบัน ดอกเบี้ยนโยบายอยู่ที่ 1.00% และ THOR อยู่ที่ 0.98995% ณ วันที่ 12 ตุลาคม 2565  


นายศรชัย  สุเนต์ตา   ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงาน Investment Office and Product  และผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารฝ่าย SCB Chief Investment Office  (SCB CIO ) ธนาคารไทยพาณิชย์    กล่าวว่า หุ้นกู้ที่มีอนุพันธ์แฝงอ้างอิงกับอัตราดอกเบี้ย ประเภท  THOR Link Binary Note จะ เน้นเสนอขายกลุ่มผู้ลงทุนรายใหญ่ ( High Net Worth )  เงินลงทุนขั้นต่ำ  5  ล้านบาท ทวีคูณครั้งละ 1  ล้านบาท   


สำหรับจุดเด่นของหุ้นกู้อนุพันธ์แฝงดังกล่าว เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่มองว่า อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นจะปรับตัวเพิ่มขึ้นแบบไม่รุนแรงในช่วงอายุของการลงทุน และเป็นการเพิ่มโอกาสในการรับผลตอบแทนที่สูงกว่าเงินฝากประจำ   และสามารถยอมรับได้กรณี Worst case ที่ผลตอบแทนบางงวดหรือทุกงวดอาจได้รับเท่ากับอัตราดอกเบี้ยขั้นต่ำที่ 0% ต่อปี ถ้าดอกเบี้ยเป็นขาขึ้นอย่างต่อเนื่อง 


ทั้งนี้เห็นว่าดอกเบี้ยนโยบายของไทย มีโอกาสปรับขึ้นได้ไม่มากนัก การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.)ในเดือนธันวาคมนี้ ผลการประชุมอาจมีมติขึ้นดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.25% สู่ระดับ1.25% และ THOR มีโอกาสที่จะปรับขึ้นไปสู่ในระดับใกล้เคียงกัน  


ซึ่งทิศทางอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยในปี 2566 จะเป็นขาขึ้นตามทิศทางของโลก แต่คาดว่า กนง. น่าจะปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบายในอัตราที่ช้ากว่าดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐ เพราะประเทศไทยแม้เศรษฐกิจกำลังขยายตัวดี แต่มีหนี้สินครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง การขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากๆจะกระทบกับการบริโภค และส่งผลกระทบกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่กำลังเริ่มดีขึ้น  


ดังนั้น จึงมองว่า อัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยในปีหน้า คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ  1.75% - 2.00% และในปี 2567 มองว่าอัตราเงินเฟ้อโลกน่าจะปรับตัวลดลง สหรัฐจะหยุดการขึ้นดอกเบี้ย ซึ่งจะช่วยลดแรงกดดันการขึ้นดอกเบี้ยของไทย และคาดว่าไม่น่าจะขึ้นดอกเบี้ยต่อ โดยจะทำให้ทิศทางดอกเบี้ยนโยบายของไทยจะเข้าสู่จุดสมดุล  


ทั้งนี้เห็นว่าการลงทุนในหุ้นกู้อนุพันธ์แฝงดังกล่าว นับว่าเป็นหลุมหลบภัยที่ดี ในการเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนให้กับพอร์ตการลงทุนในช่วงภาวะตลาดโลกมีความผันผวน หรืออาจเผชิญกับภาวะถดถอยของเศรษฐกิจโลกก็ตาม

         

  คำเตือน

  • การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
  • การลงทุนในผลิตภัณฑ์ในตลาดทุนที่มีความเสี่ยงสูงหรือมีความซับซ้อนซึ่งมีปัจจัยอ้างอิง มีความแตกต่างจากการลงทุนในปัจจัยอ้างอิงโดยตรง จึงอาจทำให้ราคาของผลิตภัณฑ์ในตลาดทุนดังกล่าวมีความผันผวนแตกต่างจากราคาของปัจจัยอ้างอิงได้ ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจเงื่อนไขการจ่ายผลตอบแทนและความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องและขอคำแนะนำเพิ่มเติมจากผู้ประกอบธุรกิจก่อนทำการลงทุน

ที่มา  ธนาคารไทยพาณิชย์

ภาพประกอบ  ดีพร้อม

ข่าวแนะนำ