TNN online กูรูมองดัชนีหุ้นไทย 5 ปียืนเหนือ 2,000 จุด แนะถือหุ้น All Time High

TNN ONLINE

Wealth

กูรูมองดัชนีหุ้นไทย 5 ปียืนเหนือ 2,000 จุด แนะถือหุ้น All Time High

กูรูมองดัชนีหุ้นไทย 5 ปียืนเหนือ 2,000 จุด  แนะถือหุ้น All Time High

โบรกมองหุ้นไทย 5 ปีข้างหน้ามีโอกาสฟื้นตัวเป้าดัชนีทะลุ 2,000 จุดเน้นถือหุ้น All Time High สร้างผลกำไรในพอร์ต ด้าน"ปิยพันธ์"มองลงทุนเชื่อมต่อ Web 3.0 กับโลกยุคใหม่ดิจิทัลเติบโตเพิ่มขึ้น นักลงทุนรุ่นใหม่ชอบเสี่ยง ฝั่ง "กำพล"หวั่นเศรษฐกิจสหรัฐ-ยุโรปถดถอยฉุดเศรษฐกิจโลก ขณะที่"มนรัฐ"มองกองทุนหุ้นไทยให้ผลตอบแทนดีไม่แพ้ต่างประเทศ

นายณัฐวัฒน์ อ้นรัตน์Senior Executive Vice President บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย)  หรือCGS CIMB เปิดเผยภายในงานสัมมนา หัวข้อ “ก้าวต่ออย่างไรให้สง่างามกับความท้าทายของ Next Chapter”ในโอกาสก้าวเข้าสู่ปีที่ 15 ของสถานีโทรทัศน์ TNN ช่อง 16 ว่า การลงทุนในช่วงวิกฤติถือเป็นโอกาส โดยการซื้อหุ้นต้องดูกราฟ และปัจจัยพื้นฐานโดยมองตลาดหุ้น 5 ปีจากนี้ไปเป้าดัชนี 2,000 จุด  เน้นถือหุ้น All Time Highแนวโน้มปรับตัวขึ้นให้ถือยาว เพราะมองว่าตลาดหุ้น 5 ปีข้างหน้าปรับตัวขึ้นและ5ปีหลังจะปรับตัวลงเป็นวัฏจักรจากทฤษฏีเมื่อมีการปรับฐานหุ้นก็จะมีการดีดปรับตัวขึ้นทุกครั้ง และเชื่อว่านักลงทุนต่างชาติยังซื้อหุ้นไทยในช่วง 2-3 ปีต่อเนื่อง นอกจากนี้หากไทยมีการเลือกตั้งใหม่เชื่อว่ารัฐบาลอยู่ยาว



สำหรับปัจจัยที่ติดตามยังเป็นเศรษฐกิจประเทศยุโรป จีน สหรัฐ โดยวิธีการแก้ปัญหาจะเป็นตัวกำหนดทิศทางตัวเลขทุกอย่าง รวมถึงการเมืองระหว่างประเทศรัสเซีย-ยูเครน-ไต้หวันตะวันออกกลาง นอกจากนี้การลงทุนของคนรุ่นใหม่อายุ 30-40 ปีนิยมสินทรัพย์เสี่ยงเพิ่มขึ้น


ด้านกลยุทธ์การลงทุนแนะนำหุ้นโรงพยาบาล นำโดย BH,BDMS โรงไฟฟ้า เช่น GULFหุ้นที่เกี่วกับเทคโนโลยีใหม่ ๆ  เช่น BBIK,BE8 และ DR ตราสารใหม่ เช่น BYD ส่วนปีนี้คาดว่าดัชนีอยู่ที่ 1,780 จุด  


กูรูมองดัชนีหุ้นไทย 5 ปียืนเหนือ 2,000 จุด  แนะถือหุ้น All Time High


คนรุ่นใหม่ชอบความเสี่ยง


นายปิยพันธ์ วงศ์ยะรา CEO และผู้ก่อตั้ง stock2morrow  กล่าวว่า  Next Chapter ของสินทรัพย์ดิจิทัล ตอนนี้ความรู้สึกของคนที่เข้าไปลงทุนในคริปโตเคอร์เรนซี (Cryptocurrency)จะไม่ใช่ความรู้สึกกับปีก่อนหรือ 2 ปีที่แล้ว ข้อมูลที่เห็นได้อย่างชัดเจนเลยไม่ว่าจะเป็นจำนวนพอร์ตของคริปโตเคอร์เรนซี จะมีคนเปิดพอร์ตใหม่ทุกวัน แต่ยูเซอร์ที่มีการเคลื่อนไหวลดลง ซึ่งคล้ายๆ กับหุ้น 


"โดยส่วนตัวยืนยันว่ายังชอบหุ้นไทย จริงๆ แล้วสินทรัพย์เดิมไม่ว่าจะเป็นหุ้น กองทุน ทองคำ มีจุดดี มีโอกาส มีความเสี่ยงอยู่ตลอดเวลา อยู่ที่ว่าเราเข้าใจสินทรัพย์นั้น" นายปิยพันธ์ กล่าว


ทั้งนี้หากย้อนกลับไปเมื่อ 20 ปีที่แล้ว ผมเป็นคนหนึ่งที่มีโอกาสมาถึงตรงนี้ได้ด้วยหุ้น ทุกวันนี้ Stock2morrow ยังเป็นคอมมูนิตี้ ยังเป็นชุมชนของนักลงทุนที่มาให้ความรู้ สังเกตได้เลยว่าในช่วง 2-3 ปี ที่ผ่านมาสินทรัพย์ใหม่ๆ เกิดขึ้นมา ซึ่งหลายๆ คนอาจบอกว่า น่ากลัว มีความเสี่ยง แน่นอนว่าทุกสินทรัพย์ ทุกการลงทุนมีความเสี่ยงเสมอ 


สำหรับการลงทุน และ ธุรกิจ เมื่อโลกเคลื่อนสู่ Web 3.0 ในด้านอินเตอร์เน็ต เทคโนโลยี อย่าง Metaverse, Opensea,MetaMask, Discord, Al ด้านการลงทุน Digital Asset,Futures, Startup Crypto, NFT ด้านธุรกิจ เชื่อมต่อ Real กับ Digital


"THE GREAT RESET เริ่มต้นใหม่ในสิ่งที่มีอยู่แล้ว เพียงหาให้เจอและต่อยอดจากสิ่งนั้น ซึ่งหมายถึงว่าสิ่งที่จะมันเดินหลังจากนี้ไป ผมคิดว่าโลกไม่ได้เปลี่ยนไปไหน ทุกอย่างขับเคลื่อนตลอด สิ่งที่เราเจอไม่ว่าจะเป็นยุคไหน สมัยไหน ปีไหน จะวิกฤตเล็ก วิกฤตใหญ่ เพราะฉะนั้นเราหาจุดเชื่อมต่อให้เจอแค่นั้นเอง" นายปิยพันธ์ กล่าว


นายปิยพันธ์ กล่าวต่อถึงการวางแผน Next Chapter ในการลงทุนที่เชื่อมต่อ Web 3.0 กับโลกยุคใหม่ ดิจิทัลว่า สำหรับคนที่ยังไม่ได้เริ่มและจะเริ่มต้นอย่างไร การลงทุนในเรื่องความรู้ดีที่สุด Learning by Doing เหมือนการว่ายน้ำ ไม่มีตำราไหนสอนให้เราว่ายน้ำเป็นจนกว่าเราจะว่ายน้ำจริง ไม่มีทางเปิดตำรา อ่านศึกษาแล้วว่ายเป็น เรื่องการลงทุนก็เหมือนกัน 20 ปีเราเห็นเทรนด์การลงทุนเปลี่ยน หุ้นกลายเป็นเรื่องที่ทุกคนเข้าถึงง่าย เป็นการลงทุนที่ความเสี่ยงต่ำ ซึ่งภาพตรงนี้เปลี่ยนไปแล้ว ซึ่งไม่แปลกว่าถ้าวันนี้หลายคนมองว่าการลงทุนในคริปโตเคอร์เรนซีมันเสี่ยง ซึ่งความจริงความเสี่ยงมีมากมาย แต่สุดท้ายจริงๆ มันอยู่ที่คีย์เวิร์ดความรู้ การศึกษา 


"ถ้าเราคุมความโลภได้ ความกลัวได้ เรามีความรู้ เราลงทุนกับสิ่งที่เราจะทำในเรื่องของคริปโตเคอร์เรนซี เพื่อซื้อความรู้ คำว่าความรู้ไม่มีคำว่า "ขาดทุน" ถ้าเราได้ลงเงินไปกับความรู้ มีแต่สิ่งที่ได้กำไรทั้งสิ้น " นายปิยพันธ์ กล่าว



แนะศึกษาหาความรู้ก่อนโดดเข้าลงทุน


ท้งนี้ขอให้มองคริปโตเคอร์เรนซี เป็นหนึ่งในสินทรัพย์เลือก เป็นสิ่งหนึ่งที่เราควรจะเข้าไปศึกษา มันอาจจะไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คนอื่นพูดมา แต่สิ่งที่ควรต้องต้องกลัวคืออารมณ์หรือความรู้สึกของตัวเอง อย่าให้ตัวเองมีความโลภมากไป อย่าให้ตัวเองมีความกลัวมากไป มันเป็นหลักของการลงทุน ถ้าเราควบคุมเรื่องความโลภ ความกลัวได้ เราลงทุนได้ทุกสินทรัพย์ ขอให้เริ่มต้นกับความรู้ อย่าไปกลัวมันมาก เพราะความกลัวจะเป็นสิ่งที่ทำให้โอกาสมันหายไป ลองไปศึกษาอย่างค่อยเป็นค่อยไป 


"ถ้าไม่มีก้าวที่หนึ่งก็จะไม่มีก้าวที่สอง อย่าให้สิ่งหนึ่งสิ่งใดมาจวนตัว แล้วเราบอกว่ามันถึงเวลาแล้ว คนอื่นเดินหมดแล้วเราค่อยเดิน ในช่วงเวลาที่เรามีโอกาส ทำไมเราถึงไม่ก้าวเดินก่อนคนอื่น ถ้าหากใครจะเริ่มต้นคริปโตเคอร์เรนซี ค่อยเป็นค่อยไป โฟกัสกับเรื่องความรู้ ค่อยๆ เดินทีละก้าว เมื่อไหร่ที่เราเดินก้าวแรก เราเดินนำหน้าคนอื่นเสมอ" นายปิยพันธ์ กล่าว



นายปิยพันธ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ถ้าเรามีความรู้ มีประสบการณ์มากพอ เราจะรู้ว่าวิกฤติมันมีโอกาสเสมอและเราจะไม่กลัว เราควบคุมได้ในความเสี่ยงมันจะไม่มีความเสี่ยง ถึงวันนี้จะมาพูดอีกมุมหนึ่งถึงการลงทุนโลกใหม่ก็ไม่ได้หมายความว่าหุ้นไม่มีเสน่ห์แล้ว หุ้นยังเป็นหุ้นเสมอ เด็กรุ่นใหม่ที่อาจประสบความสำเร็จในเรื่องของคริปโตเคอร์เรนซีก็เริ่มหาความรู้เรื่องหุ้น การเปิดโลกตนเองหาสินทรัพย์ใหม่ๆ นอกจากการสร้างโอกาสให้ตนเองยังมองว่าอาจจะเป็นจิกซอร์ที่ทำให้ความแตกต่างของเจเนอเรชั่นหายไป ทุกสิ่งทุกอย่างเริ่มต้นได้ แบบค่อยเป็นค่อยไป "ขอฝากไว้ชีวิตคือการลงทุน การลงทุนมันจะไม่มีความเสี่ยงเลยถ้าเรามีความรู้ ความเข้าใจ แต่มันจะเสี่ยงมาก ถ้าเราลงไปด้วยสิ่งที่ไม่รู้จักมัน





กูรูมองดัชนีหุ้นไทย 5 ปียืนเหนือ 2,000 จุด  แนะถือหุ้น All Time High


ดร.กำพล อดิเรกสมบัติ  หัวหน้าทีม SCB Chief investment office กล่าวว่าในภาพรวมเศรษฐกิจและการลงทุน ประเด็นแรกคือเรื่องของเงินเฟ้อ ก่อนโควิดปริมาณเงินเฟ้อต่ำเกินไป ตอนนี้เริ่มมีปัญหาเงินเฟ้อมันสูงเกินไป ทั้งนี้เงินเฟ้อที่สูง ยังเป็นเงินเฟ้อที่มีความไม่แน่นอนประเด็นแรกที่เกิดขึ้น เงินเฟ้อที่เกิดขึ้นมาจากฝั่งอุปสงค์ และ อุปทาน ความผันผวนในราคาพลังงานและอาหาร  เกิดขึ้นจากสงครามรัสเซีย ยูเครน ซึ่งเราไม่รู้ว่าจะจบเมื่อไร และไม่มีใครรู้ว่าจะมีการใช้มาตรการคว่ำบาตรรุนแรง  


ประเด็นที่ 2 เรื่องของการเปิด-ปิดเมืองในประเทศต่างๆโดยเฉพาะจีน มีผลต่อการผลิต อย่างที่เราทราบกัน จีนเป็นผู้ผลิตที่สำคัญของโลก เมื่อเมืองถูกปิด สินค้าถูกส่งออกมาไม่ได้ ก็เกิดการขาดแคลน ภาพของเงินเฟ้อในระยะข้างหน้ายังอยู่ในระดับที่สูง แต่ยังมีความไม่แน่นอน ประเด็นเรื่องของเงินเฟ้อเป็นประเด็นหลักที่เราต้องอยู่กับมันไประยะหนึ่ง เรื่องของเงินเฟ้อสูงก็นำมาของการดอกเบี้ยสูง ประเด็นของดอกเบี้ยสูง ประเทศที่มีความเสี่ยงคือประเทศในยุโรป มีโอกาสยืดเยื้อ ซึ่งดอกเบี้ยในยุโรปอาจขึ้นแบบเร็วและแรง ไม่ใช่แค่อเมริหา หรือ ในเอเชีย 


ประเด็นที่ 3 เศรษฐกิจถดถอย ตอนนี้เป็นความเสี่ยงที่จะเกิดแต่มีหลายความรุนแรงเหมือนแผ่นดินไหวกระทบมาก หรือ น้อย  เป็นประเด็นที่อยู่กับเราในระยะหนึ่งแต่เป็นเพียงความเสี่ยง ภาวะเศรษฐกิจถดถอยหมายถึง 12 ถึง 24 เดือน  ด้วยดอกเบี้ย ตอนนี้สิ่งที่นักวิเคราะห์มองกันว่าโอกาสจะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย อยู่ที่ไหนมากที่สุด มองว่ากระจุกตัวอยู่ในยุโรป ซึ่งได้รับผลกระทบจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน ต่อมาเป็นประเทศเปราะบางที่อยู่ในกลุ่มประเทศละตินอเมริกา 

การกอบกู้และก้าวต่อของเศรษฐกิจไทยรอบนี้ใครเจ็บสุดหากเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย ถ้าเราดูจากโอกาสภาวะเศรษฐกิจถดถอยวันนี้เราต้องเรียนว่าเป็นยุโรป เงินเฟ้อ สูง และ ยืดเยื้อ จาก สงคราม การขึ้นดอกเบี้ยแบงก์กลางยุโรปถูกบีบจากเรื่องของเงินเฟ้อ ค่าเงินยูโร ถูกบีบให้ขึ้นดอกเบี้ย ในขณะที่เค้าไม่พร้อม 

แต่ถ้าภาวะเศรษฐกิจถดถอยเกิดขึ้นที่ไหนแล้วจะมีผลกระทบต่อโลกมากที่สุดต้องตอบว่าเป็นสหรัฐ  โอกาสที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยยังมีอยู่ แต่ตัวเลขเศรษฐกิจในประเทศส่วนใหญยังสะท้อนว่าภาวะเศรษฐกิจถดถอยน่าจะเป็นลักษณะ Techmical หรือ mild recession  สะท้อนจากตัวเลขด้านแรงงานที่ยังเติบโตได้ดี โดยเฉพาะในสหรัฐ เมื่อเทียบกับช่วงเริ่มต้นก่อนเกิดภาวะ เศรษฐกิจถดถอยในครั้งก่อนๆ และ ยังสะท้อนจากงบดุลของผู้บริโภคสหรัฐที่ยังอยู่ในระดับดี

ต่อมาคือประเทศที่เศรษฐกิจถดถอยและผลกระทบต่อโลกจะรุนแรงนั่นคือประเทศจีน แต่จีนอย่างที่เราทราบกันว่ายังใช้นโยบายโควิดเป็นศูนย์ เศรษฐกิจจะฟื้นแบบประคับประคองตัวเอง เราจะเห็นว่าในช่วงที่ผ่านมาในขณะที่ประเทศอื่นๆ กังวลเงินเฟ้อขึ้นดอกเบี้ย จีนทำตรงกันข้าม คือลดดอกเบี้ย ทั้งการอัดฉีดสภาพคล่อง ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทางการคลัง  เพื่อเลี้ยงเศรษฐกิจตัวเองไว้ก่อนขณะปิดเมือง 

ถ้าหาก 2 ประเทศนี้เศรษฐกิจถดถอย โลกอาจจะลำบาก แต่โอกาสเกิดขึ้นมีน้อย ถ้าทุกประเทศชะลอพร้อมกันจะมีความเสี่ยงที่น่ากังวล 

อย่างไรก็ตามอัตราเงินเฟ้อในระดับสูงและการขึ้นดอกเบี้ยส่งผลให้เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มชะลอตัวลงในปี 2022-2023 โดยเฉพาะในประเทศที่พัฒนาแล้ว ในขณะที่การทยอยเปิดเมือง เปิดประเทศในแถบเอเชีย ยังเป็นปัจจัย สนับสนุนให้เศรษฐกิจฟื้นตัวได้ 

ฝากนักลงทุน 

ในระยะ 2 - 3 ปีข้างหน้าเป็นช่วงของดอกเบี้ยขาขึ้นจากปัจจัยเฟดกดดันต้องการเงินฟ้อ 2%  ดอกเบี้ยอเมริกาขาขึ้นดอกเบี้ยที่อื่นก็ต้องขึ้นเช่นกัน เราจะสังเกตเห็นว่าตลาดการเงินโลกผันผวน ส่วนหนึ่งมาจากเงินเฟ้อ มีเรื่องของความเสี่ยงเชิงภูมิรัฐศาสตร์ ซึ่งทำให้มีโอกาสเกิดแรงฉุดจากความผันผวนที่เป็นปัจจัยลบ แต่ปัจจัยบวกจากการเปิดเมืองก็มี การปรับห่วงโซ่อุปทานของโลก การลงทุนในทรัพย์สินทรัพย์สินทรัพย์หนึ่งมีความเสี่ยงค่อนข้างสูง 


ซึ่งจะได้เห็นได้จากพันธบัตรและหุ้นให้ผลตอบแทนติดลบ ซึ่งไม่ได้เกิดขึ้นบ่อย การที่เราจะลงทุนอยากให้จัดเป็นพอร์ตฟอลิโอที่มีหลายๆแอสเซ็ทคลาส อย่างเรื่องของพันธบัตร ทุกวันนี้ถ้าเรามองกันบอนด์ยีล ที่ขยับขึ้น เริ่มน่าสนใจ แต่ต้องลงทุนในหุ้นกู้ หุ้นเอกชนที่มีคุณภาพสูง เน้นหุ้นใหญ่ที่มีความสามารถในการรักษากำไรค่อนข้างสูง การทำมาร์เก็ตไทม์มิ่งเป็นอะไรที่อยากมาก ดังนั้นควรจัดพอร์ตให้หลากหลาย มีสินทรัพย์หลายประเภท สร้างผลตอบแทนในระยะยาว








กูรูมองดัชนีหุ้นไทย 5 ปียืนเหนือ 2,000 จุด  แนะถือหุ้น All Time High


กองทุนหุ้นไทยโดดเด่นมีเสน่ห์ไม่แพ้ต่างประเทศ


นายมนรัฐ ผดุงสิทธิ์ กรรมการผู้อำนวยการ บลจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ กล่าวว่า  หุ้นในไทยหลายกองทุนยังน่าสนใจลงทุน  และให้ผลตอบแทนที่ดีเห็นได้จากกองทุนหุ้นที่บริหารให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 7% แม้ว่าเจอสภาพตลาดที่ไม่ดีในเดือนก.ค.ยังได้ผลตอบแทนถึง 2% นอกจากนี้ยังมองว่าการลดขนาดงบดุลหรือคิวทีของสหรัฐจาก 4.75  หมื่นล้านเหรียญสหรัฐต่อเดือน หลังจากนั้นจะเพิ่มเป็น 9.5 หมื่นล้านเหรียญต่อเดือน และคาดว่าเดือนก.ย.เฟดจะขึ้นดอกเบี้ย 0.5% โดยทุกครั้งที่ลด Balance Sheet จะมีผลต่อพีอี


สำหรับตลาดหุ้นไทยยังแลกการ์ด ถ้าเทียบกับตลาดหุ้นสหรัฐฯที่ปมีการปรับขึ้นมาก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะช่วงการเลือกตั้งตลาดไทยจะ active อย่าให้เสียโอกาสส่วนการลงทุนกองหุ้นในต่างประเทศหลายบริษัทมีการจ่ายปันผลสูง โดยเฉพาะบริษัทขนาดใหญ่  ขณะที่การใช้จ่ายหสหรัฐฯยังดีอยู่มองว่างบการเงินของบริษัทจดทะเบียนก็ยังเติบโต ถ้าหากเกิดปัญหาพลังงานขาดแคลนเงินเฟ้อพุ่ง แต่จีดีพี  สหรัฐฯยังเป็นบวกไม่ตีกลับแม้หลายคนกังวลว่าเกิดเศรษฐกิจถดถอยจากการปรับขึ้นดอกเบี้ย 


ที่มา สัมมนาก้าวเข้าสู่ปีที่ 15 ของสถานีโทรทัศน์ TNN ช่อง 16  

ภาพประกอบ TNN Online

 

ข่าวแนะนำ