ราคาทองคำย่อตัว ! ช่วงไหนควรเก็บสะสม
ราคาทองคำสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับตัวลง 50 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ แต่ในสัปดาห์นี้จะปรับตัวลง ต่อมากแค่ไหนและมีปัจจัยแวดล้อมที่กระทบต่อทองคำอย่างไรบ้าง ตามไปดูกันเลย
นายวรุต รุ่งขํา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จํากัด เปิดเผยถึงทิศทางราคาทองคำสัปดาห์หน้ากับ TNNONLINE ว่า ราคาทองคำยังปรับตัวลงต่อ แต่ไม่ได้ลงลึก หลังจากที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ หลายตัวออกมาดีกว่าที่ตลาดคาด เช่น ยอดขายบ้านมือ 2ดัชนีภาคการผลิตทำให้ตลาดคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ปรับตัวดีขึ้นส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟดยังเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
ขณะที่นายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟด สาขาเซนต์หลุยส์ สนับสนุนให้เฟดควรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมนโยบายการเงินในเดือนก.ย. เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐยังคงมีความแข็งแกร่ง และขึ้นต่อเนื่องอีก 2 ครั้งในเดือนพ.ย. และธ.ค.เดือนละ 0.75%
สอดรับกับนางแมรี ดาลี ประธานเฟด สาขาซานฟรานซิสโก ซึ่งสนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% หรือ 0.75% ในการประชุมเดือนก.ย. แม้ว่าเงินเฟ้อในเดือนก.ค.ชะลอแต่ยังไม่ได้ปรับตัวลง ขณะที่บอนด์ยีลด์พุ่ง และเงินดอลลาร์แข็งค่า
นอกจากนี้ตลาดหุ้นดาวโจนส์ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาบวก 230 จุด ซึ่งสะท้อนว่าเศรษฐกิจสหรัฐแข็งแกร่งเม็ดเงินไหลเข้าตลาดหุ้นสหรัฐฯ และไหลออกจาก
ตลาดทองคำทำให้ราคาทองคำย่อตัว นอกจากนี้ตลาดติดตามการประชุมธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟดที่ Jackson Hole ในวันที่ 27 ส.ค.นี้ ซึ่งเป็นการชี้นำการปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินในอนาคต
ขณะเดียวกันต้องติดตามเศรษฐกิจยุโรป เนื่องจากตลาดกังวลว่าเศรษฐกิจจะถดถอยเป็นปัจจัยทำให้สกุลเงินยูโรอ่อนค่าลงหนุนดอลลาร์แข็งค่า รวมถึงความเสี่ยงภูมิรัฐศาสตร์หลังจากจีนซ้อมรบรอบเกาะไต้หวัน
สำหรับราคาทองคำสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับตัวลง 40-50 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ซึ่งสัปดาห์นี้อาจย่อตัวลงอีกและย่ำฐาน โดยราคาทองที่ปรับตัวลงเป็นโอกาสซื้อสะสม
-แนวรับแรกที่ 1,736 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ราคาทองคำแท่งอยู่ที่ 29,400 บาท
-แนวรับถัดไปที่ 1,717 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ราคาทองคำแท่งอยู่ที่ 29,050 บาท
-แนวต้านแรกที่ 1,771 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ราคาทองคำแท่งอยู่ที่ 30,000 บาท
-แนวต้านต่อไปที่ 1,787 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ราคาทองคำแท่งอยู่ที่ 30,250 บาท
ทั้งนี้เห็นว่าราคาทองคำเดือนก.ค.ต่ำสุดอยู่ที่ 1,680 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ และจากนั้นดีดกลับไปที่ 1,807 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ขึ้นกว่า 100 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ การย่อวนกลับลงอาจไม่ถึง 1,680 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ถ้าไม่หลุด 1,717 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์มีโอกาสไซด์เวย์อัพระยะกลาง แต่ถ้าหลุดอาจจะลงไประดับต่ำสุดของปี 64 ที่อยู่ระดับ 1,676 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ก็จะหลุดยาวไปเลย ซึ่งหากราคาปรับตัวลงนักลงทุนค่อย ๆ ทยอยซื้อเก็บไว้ เพราะหากมีเหตุการณ์ฉุกเฉินเกิดขึ้นราคาทองคำก็พร้อมดีดกลับทันที
นอกจากนี้ตลาดคาดว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่องไปจนถึงไตรมาส 1/66 หลังจากนั้นเฟดอาจใช้นโยบายการเงินผ่อนคลายเข้ามาดูแลเศรษฐกิจ ซึ่งคาดว่าจะเป็นในช่วงไตรมาส 3/66อาจทำให้ทองคำดีดปรับตัวขึ้นได้
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าราคาทองคำจะไม่ปรับตัวลงมากนัก เนื่องจากค่าเงินบาทยังอ่อนค่าต่อเนื่อง หลังจากดอลลาร์แข็งจากเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ฟื้นตัว
ที่มา นายวรุต รุ่งขํา
ภาพประกอบ วายแอลจี