ราคาทองคำวิ่งฉิวแค่ไหน ! หลังเศรษฐกิจสหรัฐฯ เข้าสู่โหมดถดถอย

นายวรุต รุ่งขํา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จํากัด เปิดเผยถึงทิศทางราคาทองคำในสัปดาห์หน้ากับ TNNONLINE ว่า  ฟื้นตัวหลังจากธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟดปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ตามตลาดคาดการณ์ ไม่ได้เซอร์ไพรส์ตลาดปรับขึ้น 1% เพื่อสกัดเงินเฟ้อที่ดีดปรับตัวสูงขึ้น

นอกจากนี้เศรษฐกิจสหรัฐฯเสี่ยงถดถอยทำให้นักลงทุนหันมาลงทุนทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยหลังจากการประกาศตัวเลขจีดีพีไตรมาส 2 สหรัฐติดลบ 0.9%  จากที่ไตรมาส 1 จีดีพีสหรัฐติดลบไปแล้ว 1.6% ซึ่งเป็นการติดลบ 2 ไตรมาสติด หนุนให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง

ทั้งนี้ในเดือนก.ย.คาดว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ย 0.5% ไม่ถึง 0.75% ตามที่ตลาดคาดการณ์มาก่อนหน้านี้ หลังจากเศรษฐกิจสหรัฐเริ่มถดถอย และมองว่าการประชุมในช่วงที่เหลืออีก 2 ครั้งจะขึ้นดอกเบี้ยครั้งละ 0.25% โดยเป็นการขึ้นดอกเบี้ยในอัตราที่ชะลอลง ดังนั้นตลาดมองว่าทองคำอาจไปได้ต่อแนวต้านอยู่ที่ 1,770 -1,773 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ และแนวต้านถัดไปที่ 1,789 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์

สำหรับเงินบาทที่อ่อนค่าจะทำให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้น แม้ว่าราคาต่างประเทศจะปรับตัวลงก็ตาม คาดว่าในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินวันที่ 10 ส.ค.กนง.ขึ้นดอกเบี้ย 0.25% เพื่อชะลอการอ่อนค่าของเงินบาท ซึ่งทำให้ส่วนต่างดอกเบี้ยสหรัฐฯและไทยแคบลงจะช่วยพยุงราคาทองคำไม่ให้ขึ้นมากนัก

"แนวโน้มเฟดยังเดินหน้าปรับขึ้นดอกเบี้ยต่อ เพราะเศรษฐกิจสหรัฐฯหากเทียบกับตลาดเกิดใหม่ยังมีความเหลื่อมล้ำแตกต่างกัน  ซึ่งเห็นว่าการขึ้นดอกเบี้ยนโยบายของไทยก็จะเป็นการช่วยพยุงราคาทองคำไม่ให้ปรับตัวสูงขึ้นมาก เพราะเงินบาทแข็งค่าขึ้น" 

อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำทำต่ำทำจุดต่ำสุดในปีนี้ที่ 1,680  ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์จากปี 64 อยู่ที่ 1,676 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ซึ่งต้องดูสถานการณ์อีกครั้งว่าในเดือนก.ย.นี้เฟดขึ้นดอกเบี้ย 50% หรือ 0.75% ถ้าขึ้นมากก็จะกดทองคำ แต่ถ้าน้อยกว่าคาดก็อาจทำให้ราคาทองคำขยับตัวขึ้นบ้าง 

ขณะที่ปัจจัยที่ติดตามสัปดาห์นี้เป็นตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรสหรัฐฯ ว่าจะปรับตัวสูงขึ้นหรือไม่ ถ้าสูงขึ้นก็เป็นปัจจัยกดดันทองคำ  ทั้งนี้หากราคาทองคำขึ้นไปแตะแนวต้านสำคัญที่ 1,789 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ อาจมีแรงเทขายทำกำไรออกมาเพื่อพักตัวและรอโอกาสดีดกลับขึ้นไปใหม่ ประเมินแนวรับแรกที่  1,733  ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ แนวรับต่อไปที่ 1,711 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์

ที่มา  นายวรุต รุ่งขํา 

ภาพประกอบ วายแอลจี