TNN online BGRIM สยายปีกลงทุนใน-นอกประเทศ เทเม็ดเงินลงทุน 1.4 แสนล้าน

TNN ONLINE

Wealth

BGRIM สยายปีกลงทุนใน-นอกประเทศ เทเม็ดเงินลงทุน 1.4 แสนล้าน

BGRIM สยายปีกลงทุนใน-นอกประเทศ เทเม็ดเงินลงทุน 1.4 แสนล้าน

BGRIM เดินหน้าขยายการลงทุนทั้งใน-นอกประเทศใช้งบลงทุนกว่า 1.4 แสนล้านบาทใน 5 ปี คาดปีนี้มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 1,000 เมกะวัตต์

นายฮาราลด์ ลิงค์ ประธาน บี.กริม และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน)  เปิดเผยว่า  บริษัทฯ  ตั้งเป้าขยายการลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงร่วมทุนกับพันธมิตรต่าง ๆ โดยวางงบลงทุนทั้งหมด  140,000 ล้านบาท สำหรับการลงทุน 5 ปี เพื่อใช้สำหรับการพัฒนาโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าที่มีสัญญาซื้อขายไฟ (PPA) ตามแผนในปัจจุบัน และโครงการใหม่ที่อยู่ระหว่างการเจรจาอีกหลายโครงการทั้งที่เป็นโครงการใหม่ (กรีนฟิลด์) และการซื้อกิจการ (M&A) โดยในปีนี้คาดว่าจะมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 1,000 เมกะวัตต์ และมีลูกค้าอุตสาหกรรมใหม่ที่ซื้อไฟฟ้าเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 55 เมกะวัตต์


นอกจากนี้ บี.กริม เพาเวอร์ ได้มีการบริหารจัดการต้นทุนโดยเตรียมนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ภายใต้สัญญาระยะยาวตั้งแต่ปี 2566 เป็นต้นไป ราว 500,000 ตันต่อปี สำหรับใช้ในโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม 18 โครงการเพื่อช่วยในการบริหารต้นทุนการผลิตไฟฟ้าสำหรับลูกค้าอุตสาหกรรม 


ขณะเดียวกันอยู่ระหว่างการสร้างโรงไฟฟ้าใหม่ที่มีประสิทธิภาพสูงเพื่อทดแทนโครงการที่จะหมดอายุสัญญาลง 5 โครงการ คิดเป็น กำลังการผลิตติดตั้งรวม 700 เมกะวัตต์ ซึ่งจะเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) ในครึ่งปีหลังของปี 2565 โดยคาดว่าจะช่วยประหยัดการใช้ก๊าซธรรมชาติต่อหน่วยลง 15%


ปัจจุบัน บี.กริม เพาเวอร์ มีโครงการที่เปิดดำเนินการแล้วทั้งหมด 56 โครงการ คิดเป็นกำลังการผลิตติดตั้งรวมที่ 3,342 เมกะวัตต์ คงเป้าหมายการมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้า 7,200 เมกะวัตต์ ภายในปี 2568 และ 10,000 เมกะวัตต์ภายในปี 2573


นอกจากนี้ล่าสุดได้การวางวางศิลาฤกษ์ โรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ (อ่างทอง) 2 จำกัด และ บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ (อ่างทอง) 3  จำกัดว่า  โครงการดังกล่าวตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรม เอส อ่างทอง ดำเนินกิจการโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง มีกำลังการผลิตไฟฟ้าโครงการละ 140 เมกะวัตต์ 


ด้วยเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพ ในการผลิตไฟฟ้ามากขึ้น  มีกำหนดการเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ ในปี 2566 โดยจะจำหน่ายไฟฟ้าให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย จำนวน 90 เมกะวัตต์ต่อโครงการ เป็นระยะเวลา 25 ปี และจำหน่ายไฟฟ้าที่เหลือทั้งหมดรวมทั้งไอน้ำให้กับลูกค้าภายในนิคมอุตสาหกรรม เอส อ่างทอง



ดร.ชญานิน เทพาคำ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า   โรงไฟฟ้าระบบพลังงานความร้อนร่วมทั้ง 2 แห่งนี้ ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงในการผลิตกระแสไฟฟ้า ซึ่งนอกจากจะเป็นเชื้อเพลิงที่สะอาด ช่วยลดมลภาวะที่จะเกิดกับ สิ่งแวดล้อมแล้ว ยังจะช่วยส่งเสริม เอส อ่างทอง ซึ่งเป็นนิคมอุตสาหกรรมด้านอาหาร (World food valley) ของสิงห์ เอสเตท ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงไฟฟ้า ให้เป็นนิคมอุตสาหกรรมเชิงนิเวศที่สมบูรณ์ มีการใช้พลังงานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญ สอดรับกับเทรนด์อุตสาหกรรมโลก ที่ให้ความสำคัญกับการลงทุนในนิคมสีเขียว


ที่มา  บี.กริม เพาเวอร์  

ภาพประกอบ บี.กริม เพาเวอร์  




 


ข่าวแนะนำ