หุ้นไทยพักฐาน ! สารพัดปัจจัยลบรุมเร้า ส่อง 5 หุ้นหลบภัย

นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี  (ประเทศไทย)  เปิดเผยว่า ภาวะตลาดหุ้นไทยสัปดาห์หน้าคาดว่าผันผวน  หลังจากตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)เดือนพ.ค. พุ่ง 8.6%  สูงสุดครั้งใหม่ในรอบ 40 ปี  ซึ่งมากกว่านักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 8.3%หนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในวันที่ 14-15 มิ.ย.นี้ 0.5% และก.ค.ต่ออีก0.5% แต่ในช่วงที่เหลือในการประชุมอีก 3 ครั้ง คาดว่าจะขึ้นดอกเบี้ยมากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ 0.25%

นอกจากนี้ธนาคารกลางยุโรป(อีซีบี) เตรียมขึ้นดอกเบี้ยในเดือนก.ค.นี้ 0.25% และก.ย.อีก 0.25% กดดันตลาดหุ้น ประกอบกับจีนสั่งล็อกดาวน์เขตมินหัง ในมณฑลเซี่ยงไฮ้หลังโควิดแพร่ระบาดหนักทำให้สินค้าโภคภัณฑ์ โดยเฉพาะน้ำมันปรับตัวลง

ทั้งนี้หากดัชนีหลุด 1,630 จุด ซึ่งเป็นแนวรับสำคัญเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน มีโอกาสลงต่อจากปัจจัยลบที่ปกคลุม  ขณะที่ค่าเงินบาทอ่อนค่ากดเงินไหลออก  ประเมินกรอบการเคลื่อนไหว1,580 จุด -1,655 จุด 

กลยุทธ์การลงทุนเน้นหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะนำโดยกลุ่มแบงก์ชื่นชอบ KBANK รับผลบวกจากทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้นถัดมาเป็นกลุ่มพลังงานเลือก TOP  ค้าปลีกแนะนำ CPALL ท่องเที่ยวได้ผลดีจาก ยกเลิกระบบ Thailand Pass

สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยให้มีผลวันที่ 1 กรกฎาคม นี้ เป็นต้นไปชอบ SHR และหุ้น LH ราคายังแลกการ์ดมองแนวโน้มครึ่งหลังดีนอกจากนี้ต้องติดตามหุ้นที่ประกาศเข้า SET50 และ SET100 เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์การลงทุนที่น่าสนใจในช่วงนี้ เพราะใกล้ถึงรอบการประกาศรายชื่อหุ้นชุดใหม่ประจำงวดครึ่งหลังปี 2565 (1 ก.ค.-31 ธ.ค. 2565) คาดว่าหุ้นเข้า เช่น BLA,JMT,JMART  ส่วนหุ้นที่ออก เช่น COM 7,RATCH,STGT

ที่มา   บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี  (ประเทศไทย) 

ภาพประกอบ   บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี  (ประเทศไทย)