TNN online “สลากดิจิทัล” พลิกโฉม อุตสาหกรรม 1.92 แสนล้าน

TNN ONLINE

Wealth

“สลากดิจิทัล” พลิกโฉม อุตสาหกรรม 1.92 แสนล้าน

“สลากดิจิทัล” พลิกโฉม อุตสาหกรรม 1.92 แสนล้าน

อุตสาหกรรมสลากกินแบ่งรัฐบาล ที่มีมูลค่ากว่า 1.9 แสนล้านบาท มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ นับตั้งแต่ 2 มิถุนายน 2565 ด้วยตัวแปรที่ชื่อว่า "สลากดิจิทัล" ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีจากผู้ซื้อ ผ่านแอพพลิเคชั่น "เป๋าตัง" เพียง 5 วันก็หมดกว่า 5 ล้านฉบับ ในขณะที่การขายแบบปกติ ผู้ค้ารายย่อยยังไม่เริ่มจำหน่ายด้วยซ้ำ นี่อาจเป็นการเปลี่ยนโฉมครั้งใหญ่ ทำให้ 4 หรือ 5 เสีอ อาจต้องปิดตำนานได้ 



พาคุณผู้ชมไปดูภาพรวมของอุตสาหกรรมสลากกินแบ่งรัฐบาล รอบ 1 ปี  ปกติแล้วสลากจะออกเดือนละ 2 งวด ดังนั้น 12 เดือน จะมี 24 งวด งวดหนึ่งพิมพ์ 100 ล้านฉบับ ฉบับละ 80 บาท เท่ากับงวดละ 8,000 ล้านบาท ถ้า 24 งวด ในรอบ 1 ปี ก็เท่ากับมูลค่า 1.92 แสนล้านบาท นี่คือการคิดเฉพาะการขายราคาหน้าสลากที่ 80 บาทต่อฉบับเท่านั้น หากคิดราคาผู้ค้าปลีกที่ระดับ 90-100 บาท แน่นนอนทะลุ 2 แสนล้านบาทต่อไป จนเกิดทั้ง 5 เสือในอดีต โยงมาปัจจุบันไม่รู้มีกี่เสือแล้ว ที่สร้างรายได้จากส่วนต่างสลากฉบับละ 1-2 บาท ก็ทำให้กลายเป็นเสือนอนกินได้ทันที 

“สลากดิจิทัล” พลิกโฉม อุตสาหกรรม 1.92 แสนล้าน


ลองมาดูโครงสร้างโควต้า หรือ ระบบการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลในแต่ละงวด การกำหนดให้มีการพิมพ์ไม่เกิน 100 ล้านฉบับ เพื่อเหตุผลทางด้านสังคม ไม่ให้เกิดการมอมเมา แต่ก็มีรายได้เพียงพอในการเข้ารัฐบาล โดยแบ่งเป็น 2 ระบบ คือ ระบบตัวแทนจำหน่าย ให้ไว้ 31 ล้านฉบับ ประกอบไปด้วย สมาคม / องค์กร / มูลนิธิ , บุคคลทั่วไป และคนพิการ กลุ่มนี้จะมีลักษณะการได้ประจำ หรือ เรียกว่าโควต้า 


ส่วนระบบที่ 2 คือ ระบบซื้อ-จองล่วงหน้า 69 ล้านฉบับ กลุ่มนี้เป็นผู้ค้ารายย่อย ที่มีการเปิดให้ลงทะเบียนเป็นผู้ค้ารายย่อยที่สามารถซื้อ-จองล่วงหน้า ผ่านธนาคารกรุงไทย จองเท่าไร สำนักงานสลาก จะพิมพ์เท่านั้น ไม่จำเป็นต้องครบ 100 ล้านฉบับทุกงวด แต่ส่วนใหญ่ภาพที่เห็นจากการแย่งกันซื้อ-จองล่วงหน้า ไม่กี่นาทีก็ครบ 69 ล้านฉบับ ซึ่งทำให้สำนักงานสลาก ส่วนใหญ่จะพิมพ์เต็มโควต้า 100 ล้านฉบับเกือบทุกงวด ยกเว้นในช่วงการแพร่ระบาดโควิด-19 ที่บางครั้งพิมพ์ 90 ล้านฉบับ เพราะกับการแพร่ระบาดในช่วงปี 64 


“สลากดิจิทัล” พลิกโฉม อุตสาหกรรม 1.92 แสนล้าน


โดยปกติแล้ว สลาก 100 ล้านฉบับในแต่ละงวด ก็จะมีการจำหน่ายแบบออฟไลน์ หรือ ตั้งแผงค้า เดิน ปั่นจักรยาน เพื่อจำหน่ายกัน 100% แต่มาช่วงหลังๆ ที่เริ่มมีระบบจำหน่ายสลากผ่านออนไลน์ของภาคเอกชน เข้ามาทำให้มีการตื่นตัวในการซื้อขายแบบออนไลน์ จากที่มีแนวคิดสลากออนไลน์ ไม่ต่ำกว่า 10 ปี แต่เพิ่งมาเกิดในปีนี้ เริ่มจากภาคเอกชน 


อย่างไรก็ตาม ด้วยความเป็นภาครัฐ แม้จะมีแนวความคิดในการจำหน่ายสลากออนไลน์มาซักระยะ แต่ต้องใช้ระยะเวลา จนกระทั่งประกาศจากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เรื่อง วิธีการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล

 ผ่านแพลตฟอร์มจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล หรือสลากดิจิทัล ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 30 พฤษาคม 2565 ที่ผ่านมา ก่อนเริ่มจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดวันที่ 16 มิถุนายน 2565 เมื่อวันที่ 2 มิถุนายนที่ผ่านมา หรือ ออกสลากงวด 1 มิถุนายนเสร็จ เริ่มจำหน่ายงวดถัดไปได้ทันที โดยแนวทางที่ดำเนินการได้ เนื่องจากการค้าเป็นของรายย่อย ตัวสำนักงานสลาก เป็นเพียงแพลตฟอร์มให้ผู้ค้าเข้ามาใช้ช่องทางตามสมัครใจ จึงไม่ขัดต่อกฎหมายสำนักงานสลาก ที่ต้องการช่วยผู้ค้ารายย่อย ทั้งผู้มีรายได้น้อย ผู้พิการ 


ซึ่งการมาของสลากดิจิทัลนี้ ทำให้ผู้บริโภคตื่นตัวเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นแพลตฟอร์มของภาครัฐ มีความน่าเชื่อถือ ใช้เวลา 5 วัน จำหน่ายหมด 5.17 ล้านฉบับ 


ในขณะที่การจำหน่ายรูปแบบเดิม ผู้ค้ารายย่อยจะเริ่มทยอยได้รับสลากทั้งหมด 94.83 ฉบับ เราแทบจะยังไม่เห็นการตั้งแผงของงวด 16 มิถุนายน 2565 ด้วยซ้ำ เนื่องจากผู้ค้าทั้งระดับองค์กร และรายย่อย จะทยอยได้รับสลากภายในวันที่ 3-4 และต้องใช้เวลาเตรียมแผง 1 วัน ก่อนออกจำหน่าย 

จึงเกิดคำถามสำคัญ ในเมื่อ สลากดิจิทัล ได้รับความสนใจมากขนาดนี้ จะมีการเพิ่มจำนวนสลากดิจิทัลหรือไม่ เพราะดูจากสัดส่วนแล้ว 5.17 ล้านฉบับ ก็เท่ากับ 5.17% ของจำนวนสลากทั้งหมดที่มีการพิมพ์ต่องวดนั้นเอง ยังน้อยมากเมื่อเทียบกับออฟไลน์ที่มีอยู่อีก 94.83 ล้านฉบับ 


เรื่องนี้ นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการแก้ไขปัญหาการจำหน่ายสลากเกินราคา ออกมายืนยันว่า จะมีการพิจารณาในการประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) สลากกินแบ่งรัฐบาล ในวันที่ 23 มิถุนายนนี้ หากมีการอนุมัติจะเพิ่มโควต้าสลากดิจิทัลได้ งวดแรก 16 กรกฎาคมทันที 


นอกจากนี้ยังมีการเตรียมเพิ่มฟีเจอร์ลดราคาสลากหากสลากจำหน่ายไม่หมด เมื่อใกล้ถึงวันออกรางวัลด้วย ไปฟังเสียง คุณอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการแก้ไขปัญหาการจำหน่ายสลากเกินราคา


ทำไม สลากดิจิทัล ถึงถูกคาดการณ์ว่า จะมาปราบเสือนอนกินทั้งหลาย เพราะสลากดิจิทัล เป็นการทำให้ง่ายต่อการเข้าถึง เลือกได้ทุกเลข ทั้ง 6 หลัก และซื้อได้จำนวนมาก แต่ไม่สามารถนำไปจำหน่ายต่อได้ เพราะซื้อแล้วสลากจะอยู่ในฟีเจอร์ส "สลากของฉัน" ไม่สามารถโอนให้ใคร หรือ ขายต่อได้ ส่วนสลากใบจริง สำนักงานสลาก จะเก็บเอาไว้ เพื่อกรณีผู้ถูกสลากมาขอเพื่อขึ้นเงินรางวัลด้วยตัวเอง ทีนี้ก็เหลือแต่สำนักงานสลาก จะจูงใจอย่างไรให้ผู้ค้าเข้ามาจำหน่ายในรูปแบบสลากดิจิทัล 


“สลากดิจิทัล” พลิกโฉม อุตสาหกรรม 1.92 แสนล้าน

แล้วเงินในการจำหน่ายสลาก 80 บาท แต่ละใบ ไปอยู่ส่วนไหนบ้าง ส่วนแรก ส่วนที่ใหญ่ที่สุด และเป็นส่วนที่สำคัญที่สุด คือ 60% เป็นเงินรางวัล คำนวนออกมาอยู่ที่ 48 บาท เอาไปรวมจ่ายเงินรางวัล ในทุกๆ รางวัล 


ส่วนที่ 2 สำคัญไม่แพ้กัน และใหญ่เป็นอันดับ 2 คือ 23% นำมาเป็นรายได้แผ่นดิน หรือ ส่งเข้ารัฐนั้นเอง อยู่ที่ 18.40 บาทต่อใบ , ส่วนที่ 3 คือ ส่วนลดให้กับตัวแทนจำหน่าย 12% หรือ 9.60 บาทต่อใบ นี่คือ กำไรของผู้ค้ารายย่อย แต่ถ้าส่งให้หน่วยงานต่างๆ ทั้งสมาคม องค์กร และจังหวัด สำนักงานสลากจะให้ส่วนแบ่งที่ 2% หรือ 1.60 บาทต่อใบ เป็นรายได้ของหน่วยงานนั้นๆ ที่เป็นผู้ช่วยกระจายสลาก ให้กับสำนักงานสลาก และส่วนสุดท้าย 3% หรือ 2.40 บาท ต่อใบ เป็นรายได้เข้าสำนักงานสลาก 

“สลากดิจิทัล” พลิกโฉม อุตสาหกรรม 1.92 แสนล้าน


23% หรือ 18.40 บาทต่อใบ นี่แหละทำให้ระยะหลัง สำนักงานสลากเป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจที่ส่งรายได้เข้ารัฐมากที่สุดแซงหน่วยงานด้านพลังงาน ทั้งการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หรือ กฟผ. และ ปตท. ขึ้นมายืนหนึ่ง ด้วยความห่างระดับหมื่นล้านบาทขึ้นไป 


ปีงบประมาณ 2557 ขณะนั้น สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ยังไม่ใช่เบอร์ 1 ของรัฐวิสาหกิจที่ส่งรายได้เข้ารัฐ แต่เบอร์ 1 เป็นฝั่งของรัฐวิสาหกิจสาขาพลังงานเป็นหลัก อันดับ 1 คือ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ปีงบประมาณ 2557 นำส่งรายได้เข้ารัฐ 19,085 ล้านบาท ตามมาด้วย ปตท. ที่ 18,978 ล้านบาท และ สำนักงานสลากฯ ส่งรายได้ราว 15,433 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.52% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา แต่ในช่วงเวลาดังกล่าว ตั้งยอมรับว่าจำนวนสลาก 37 ล้านฉบับ อาจจะน้อยกว่าความต้องการไปมาก ทำให้สลากกินแบ่งรัฐบาลในเวลานั้น ค่อนข้างแพง 120-140 มีให้เห็นโดยทั่วไป 


และจากการเข้ามาของ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จึงมีแนวคิดเพิ่มปริมาณการผลิต หรือ พิมพ์สลากเพิ่มมากขึ้น ในปี 2558 ปริมาณการพิมพ์ 50 ล้านฉบับ การนำส่งรายได้เพิ่มเปฌน 15,433 ล้านบาท หรือ เพิ่มขึ้น 0.79% ถัดมาปี 2559 เพิ่มการพิมพ์เป็น 60-65 ล้านฉบับ ส่งรายได้เข้ารัฐเพิ่ม 25,919 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 67.95% 


ในปี 2560 ปริมาณการพิมพ์สลากเพิ่มขึ้นอีกเป็น 68-71 ล้านฉบับ มีเงินนำส่งเข้ารัฐ 30,948 ล้านบาท เพิ่มขึ้นอีก 19.40% , ปี 2561 ปริมาณการพิมพ์เพิ่มขึ้นอีก เป็น 80-90 ล้านฉบับ ทำให้สำนักงานสลากมีรายได้ส่งแผ่นดิน 40,850 ล้านบาท หรือ เพิ่มขึ้น 32%  และปี 2562 เป็นปีสุดท้ายที่มีการเพิ่มขึ้นของการพิมพ์สลากกินแบ่งรัฐบาล เต็มเพดานอยู่ที่ 100 ล้านฉบับ ทำให้สำนักงานมีรายได้ส่งเข้ารัฐ 41,915 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.61% ปิดฉากการเพิ่มปริมาณการพิมพ์ 5 ปีติด เพิ่มไป 63 ล้านฉบับ 


ปี 2563 แม้ประเทศไทยจะเผชิญโควิด-19 แพร่ระบาดอย่างหนักในระลอกเดือนเมษยน 2563 ทำให้เกิดการเลื่อนการออกรางวัล และยกเลิกการออกรางวัลไป 3 งวด คือ งวด 16 เม.ย. , 1 พ.ค. , และงวด 16 พ.ค.63 แต่รายได้ตลอดทั้งปี 2563 ยังคงเพิ่มขึ้น 11.17% หรือ 46,598 ล้านบาท ขณะที่ปี 2564 ท่ามกลางการแพร่ระบาดแต่ก็ไม่ทำให้คอหวยหมดความหวัง สำนักงานสลากส่งรายได้เข้ารัฐ 51,124 ล้านบาท หรือ เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 9.71% เท่ากับว่า ใน 8 ปี ที่กราฟฟิกนี้แสดง รายได้ของสำนักงานสลาก ที่มีการนำส่งรัฐไม่ลดลงเลยแม้แต่ปีเดียว ทำให้ช่วง 3 ปี หลัง สำนักงานสลาก เป็นรัฐวิสาหกิจที่นำส่งรายได้เข้ารัฐมากที่สุด เป็นอันดับ 1 ต่อเนื่อง 


“สลากดิจิทัล” พลิกโฉม อุตสาหกรรม 1.92 แสนล้าน

สุดท้ายพาคุณผู้ชมไปดูผลการดำเนินงานของสำนักงานกินแบ่งรัฐบาล ปี 2564 มีการสร้างรายได้ 167,910 เพิ่มขึ้น 16.22% จากปีที่ผ่านมา เป็นยอดจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล และต้นทุน ส่วนสำคัญของต้นทุนคือ เงินนำส่งเข้ารัฐ เงินรางวัล ต่างๆ อยู่ที่ 158,800 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.20% จากปีที่ผ่านมา ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน 3,140 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 36.85% เมื่อรวมกับรายได้อื่นๆ 257 ล้านบาท แม้จะติดลบ 37.40% แต่กำไรเบ็ดเสร็จของสำนักงานสลาก อยู่ที่ 6,227 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 8.30% กัน 


นี่คือ ภาพรวมของอุตสาหกรรมเฉียดๆ 2 แสนล้านบาทต่อปี ซึ่งกำลังเปลี่ยนโฉมไป แต่ยังต้องติดตามว่า นโยบายจะต่อเนื่องมากน้อยแค่ไหน และความจริงจังของรัฐบาลนี้ จะปราบเหล่าเสือสำเร็จหรือไม่

ข่าวแนะนำ