ธุรกิจรายย่อยทุนต่ำกว่า 1 ล้านเจ๊งมากสุดก่อสร้างอาคารแชมป์

นายจิตรกร ว่องเขตกร รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า  เปิดเผยว่า ธุรกิจเลิกประกอบกิจการเดือนเม.ย. มีจำนวน 850 ราย โดยมีมูลค่าทุนจดทะเบียน  9,110  ล้านบาท โดยธุรกิจเลิกประกอบกิจการสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป จำนวน 95 ราย  คิดเป็น 11% รองลงมาคือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 35 ราย คิดเป็น 4% และธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร จำนวน 27 ราย คิดเป็น 3%  

 ทั้งนี้ธุรกิจเลิกประกอบกิจการแบ่งตามช่วงทุน  โดยช่วงทุนที่มีจำนวนรายธุรกิจเลิกประกอบกิจการทั่วประเทศ มากที่สุด ได้แก่ ช่วงทุนไม่เกิน 1 ล้านบาท จำนวน 593 ราย คิดเป็น 69.77% รองลงมาช่วงทุนมากกว่า 1- 5 ล้านบาท จำนวน 208 ราย คิดเป็น 24.47% ลำดับถัดไป คือ ช่วงทุนมากกว่า 5-100 ล้านบาท จำนวน 38 ราย      คิดเป็น 4.47% และช่วงทุนมากกว่า 100 ล้านบาท มีจำนวน 11 ราย คิดเป็น 1.29% ตามลำดับ 

สำหรับจำนวนธุรกิจจัดตั้งใหม่  มีผู้ประกอบธุรกิจยื่นขอจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ทั่วประเทศเม.ย.อยู่ที่  5,376 ราย โดยมีมูลค่าทุนจดทะเบียน 171,105.77 ล้านบาทโดยประเภทธุรกิจจัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป จำนวน 475 ราย คิดเป็น 9% รองลงมา คือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 303 ราย คิดเป็น 6% และอันดับ 3 คือ ธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร จำนวน 191 ราย คิดเป็น 3% 

อย่างไรก็ตาม  ธุรกิจจัดตั้งใหม่แบ่งตามช่วงทุน  โดยช่วงทุนที่มีจำนวนรายธุรกิจจัดตั้งใหม่ทั่วประเทศมากที่สุด ได้แก่    ช่วงทุนไม่เกิน 1 ล้านบาท มีจำนวน 3,859 ราย คิดเป็น 71.78% รองลงมาช่วงทุนมากกว่า 1-5 ล้านบาท จำนวน 1,424 ราย คิดเป็น 26.49% ลำดับถัดไป คือ ช่วงทุนมากกว่า 5-100 ล้านบาท มีจำนวน 77 ราย คิดเป็น 1.43% และช่วงทุนมากกว่า 100 ล้านบาท จำนวน 16 ราย คิดเป็น 0.30%

ทั้งนี้ธุรกิจดำเนินกิจการอยู่ทั้งสิ้น  (ณ วันที่ 30 เม.ย. 65) ธุรกิจที่ดำเนินกิจการอยู่ทั่วประเทศ จำนวน 833,124 ราย  มูลค่าทุน 19.83 ล้านล้านบาท จำแนกเป็นห้างหุ้นส่วนจำกัด/ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล จำนวน 201,500 ราย  คิดเป็น 24.19% บริษัทจำกัด จำนวน 630,282 ราย คิดเป็น 75.65% และบริษัทมหาชนจำกัด จำนวน 1,342 ราย  คิดเป็น 0.16%  

ส่วนธุรกิจดำเนินกิจการอยู่แบ่งตามช่วงทุน  ธุรกิจส่วนใหญ่มีช่วงทุนไม่เกิน 1 ล้านบาท จำนวน 494,237 ราย     คิดเป็น 59.32% รวมมูลค่าทุน 0.43 ล้านล้านบาท คิดเป็น 2.17% รองลงมา คือ ช่วงทุนมากกว่า 1-5 ล้านบาทจำนวน 247,258 ราย คิดเป็น 29.68% รวมมูลค่าทุน 0.84 ล้านล้านบาท คิดเป็น 4.24% ช่วงถัดไปคือ ช่วงทุนมากกว่า 5-100 ล้านบาท จำนวน 74,819 ราย คิดเป็น 8.98% รวมมูลค่าทุน 2.05 ล้านล้านบาท คิดเป็น 10.34% และช่วงทุนมากกว่า 100 ล้านบาท จำนวน 16,810 ราย คิดเป็น 2.02% รวมมูลค่าทุน 16.51 ล้านล้านบาท คิดเป็น 83.25%

การลงทุนประกอบธุรกิจในไทยภายใต้กฎหมายต่างด้าวเดือนเม.ย.  มีการอนุญาตให้คนต่างชาติประกอบธุรกิจทั้งสิ้น มีจำนวน 50 ราย แบ่งเป็นใบอนุญาตประกอบธุรกิจ จำนวน 20 ราย และหนังสือรับรองประกอบธุรกิจ จำนวน 30 ราย โดยมีเม็ดเงินลงทุนทั้งสิ้น 9,997 ล้านบาท 

 นักลงทุนต่างชาติที่เข้ามาลงทุนในไทยมากที่สุด ได้แก่ สิงคโปร์ จำนวน 15 ราย เงินลงทุน 6,715 ล้านบาทรองลงมา ได้แก่ ญี่ปุ่น จำนวน 10 ราย เงินลงทุน 1,218 ล้านบาท และสหรัฐอเมริกา จำนวน 8 ราย เงินลงทุน 457 ล้านบาท 

 

ที่มา :  กรมพัฒนาธุรกิจการค้า 

ภาพประกอบ : กรมพัฒนาธุรกิจการค้า