TNN online คลังชงครม.วันนี้ ! หั่นภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลแก้ปัญหาราคาแพง

TNN ONLINE

Wealth

คลังชงครม.วันนี้ ! หั่นภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลแก้ปัญหาราคาแพง

คลังชงครม.วันนี้ ! หั่นภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลแก้ปัญหาราคาแพง

คลังชงครม.ลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลแก้ปัญหาราคาน้ำมันแพงดันค่าครองชีพพุ่ง ขณะที่เบนซินจะช่วยเหลือเฉพาะกลุ่ม

กระทรวงการคลังระบุว่า ในการประชุม ครม. วันนี้ ( 15 ก.พ. ) กระทรวงการคลัง เตรียมเสนอที่ประชุมพิจารณาเห็นชอบการปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลลงไม่เกิน 3 บาทต่อลิตร  จากปัจจุบันกรมสรรพสามิตจัดเก็บภาษีน้ำมันดีเซลในอัตรา 5.99 บาทต่อลิตร สามารถจัดเก็บรายได้ประมาณเดือนละ 1.2 หมื่นล้านบาท หรือปีละประมาณ 1.44 แสนล้านบาท จากการใช้น้ำมันประมาณ 2 พันล้านลิตรต่อเดือน 

 

โดยออกเป็นร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตรารัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ซึ่งการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเชลครั้งนี้ เพื่อลดผลกระทบค่าครองชีพของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกยังคงมีแนวโน้มปรับสูงขึ้น  อย่างไรก็ตาม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้หารือกับนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน พร้อมกับนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเรียบร้อยแล้ว 


ทั้งนี้จะใช้กลไกของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง และภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล เข้ามาแก้ปัญหาควบคู่กัน เหมือนที่เคยมาในช่วงรัฐบาลก่อน   แต่ประเด็นที่กระทรวงการคลังเป็นห่วงไม่ใช่แค่การลดภาษีน้ำมันแล้วกระทบรายได้ของกรมสรรพสามิต แต่ยังห่วงไปถึงการปิดหีบรายได้ของรัฐบาลด้วย เพราะภาษีน้ำมันดีเซลก็ถือเป็นรายได้สำคัญ หากรายได้ส่วนนี้หายไป รัฐบาลจะนำรายได้ส่วนอื่นมาชดเชยได้อย่างไร


นอกจากนี้ได้หารือถึงแผนการกู้เงินของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งปัจจุบันยังติดปัญหาการกู้เงินไม่ได้ เนื่องจากสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ยังไม่ได้รับรองเรื่องการใช้เงิน และรายละเอียดของบัญชีกองทุนฯ ทำให้ขณะนี้ยังไม่สามารถดำเนินการกู้เงินในส่วนที่เหลือได้ ดังนั้นจึงต้องหารือกับ สตง.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เกิดความชัดเจนก่อน เพื่อให้การกู้เงินสามารถดำเนินการได้โดยไม่ขัดต่อข้อกฎหมาย  


ส่วน ภาษีสรรพสามิตน้ำมันเบนซินนั้น กระทรวงการคลังจะยังไม่พิจารณาปรับลดลงเหมือนกับภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล แต่จะมีการออกมาตรการช่วยเหลือเป็นแบบเฉพาะกลุ่ม เช่น กลุ่มผู้ประกอบการขนส่งสาธารณะ หรือจักรยานยนต์รับจ้าง โดยจะใช้กลไกช่วยเหลือผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เป็นต้น


 



ที่มา กระทรวงการคลัง

ภาพประกอบ  พิกซาเบย์




 

 

ข่าวแนะนำ