ตุรกีชูบทบาทสำคัญต่ออียู-นาโต เดินหน้าเป็นตัวกลางเจรจาสันติภาพยูเครนต่อ

สำนักข่าว RT ของรัสเซีย รายงานว่า ประธานาธิบดีเรเจป ทายยิป แอร์โดกัน ผู้นำตุรกีกล่าวว่า ความขัดแย้งระหว่างยูเครน-รัสเซีย ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของตุรกีที่มีต่อทั้งสหภาพยุโรปและนาโต

ผู้นำตุรกีกล่าวว่า การพัฒนาล่าสุดในบริบทของยูเครนได้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงความสำคัญของตุรกีภายในนาโต และตุรกีได้พิสูจน์ครั้งแล้วครั้งเล่าเช่นกัน ว่าเป็นพันธมิตรที่ขาดไม่ได้ในนาโต

เขายังได้ย้ำถึงเป้าหมายของตุรกีในการทำหน้าที่เป็นสื่อกลางระหว่างรัสเซียและยูเครน หลังเมื่อปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ตุรกีเป็นเจ้าภาพจัดการเจรจาระดับสูงระหว่างตัวแทนของรัสเซียและยูเครนที่อันตัลยา เมืองตากอากาศที่มีชื่อเสียง โดยทั้งสองฝ่ายระบุถึงความคืบหน้าบางอย่างหลังการเจรจา แต่ท้ายที่สุดแล้วการเจรจากลับล้มเหลวในการให้ผลลัพธ์ที่จับต้องได้

---ตุรกีจะพยายามต่อไป---

อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีตุรกี ระบุว่า จะพยายามต่อไปเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจสำหรับประเทศคู่ขัดแย้งและประชาคมโลกการเจรจาในนครอิสตันบูล พร้อมบอกเป็นนัยถึงการเจรจารอบใหม่ที่อาจเกิดขึ้น

อย่างไรก็ตาม ทั้งรัสเซียและยูเครนไม่ได้ดำเนินการใด ๆ หรือ ประกาศเกี่ยวกับแนวโน้มของการเจรจาดังกล่าวที่เป็นรูปธรรม

ท่าทีของผู้นำตุรกีมีขึ้น ในการกล่าวสุนทรพจน์ที่สำนักงานใหญ่ของพรรค AK ในกรุงอังการา โดยมีสมาชิกอาวุโสของพรรคไปรวมตัวกันเพื่อรับประทานอาหารหลังพระอาทิตย์ตกในช่วงเดือนรอมฎอน สื่อท้องถิ่นรายงานว่ามีนักการทูตจากรัสเซียและยูเครนเข้าร่วมด้วย

---ยูเครนไม่คงเส้นคงวา?---

ก่อนหน้านี้ สื่อต่าง ๆ รายงานว่า คณะผู้เจรจาสันติภาพของยูเครนและรัสเซีย ประชุมแบบเจอหน้ากันครั้งแรกในรอบ 2 สัปดาห์ ที่นครอิสตันบูลของตุรกี โดยมีประธานาธิบดีทำหน้าหน้าที่เป็นผู้ไกล่เกลี่ย ถือเป็นการเจรจาสันติภาพที่มีความคืบหน้าที่สุด

ฝ่ายรัสเซียระบุว่าคณะผู้แทนยูเครนได้ร่างข้อเสนอเกี่ยวกับวิธีการแก้ไขข้อขัดแย้งให้แก่รัสเซียเป็นลายลักษณ์อักษรฉบับแรก

ผู้เจรจาของยูเครนเสนอในอิสตันบูลว่า ยูเครนกลายจะเป็นประเทศที่ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดเพื่อแลกกับการรับประกันความปลอดภัยที่มีผลผูกพันทางกฎหมาย

เมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว (7 เมษายน) เซอร์เกย์ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียกล่าวว่า ยูเครนได้ส่งข้อเสนอใหม่เป็นลายลักษณ์อักษร ซึ่งเบี่ยงเบนไปจากสิ่งที่เสนอระหว่างการเจรจาแบบตัวต่อตัวที่นครอิสตันบูล โดยไม่ได้กล่าวถึงการค้ำประกันการรักษาความปลอดภัยที่ยูเครนต้องการได้รับจากมหาอำนาจชั้นนำของโลก และไม่ครอบคลุมถึงประเด็นเกี่ยวกับคาบสมุทรไครเมีย

---การเจรจาถึงทางตันแล้ว?---

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว สำนักข่าว RT ของรัสเซียรายงานว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย เผยว่า การเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียกับยูเครน ได้มาถึงทางตันแล้ว เนื่องจากยูเครนไม่ทำตามที่ตกลงกันไว้ในการเจรจาแบบพบหน้าระหว่างคณะผู้แทนของทั้งสองฝ่ายที่นครอิสตันบูล ของตุรกีเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา

ผู้นำรัสเซียระบุว่า ยูเครนปฏิเสธที่จะยอมรับว่า คาบสมุทรไครเมียเป็นของรัสเซีย และไม่ยอมรับอธิปไตยของสาธารณรัฐลูฮันสก์และโดเนสตก์ ในภูมิภาคของดอนบาสทางตะวันออกของยูเครน

ขณะทีประธานาธิบดีตุรกีจะกล่าวย้ำถึงความสำคัญของตุรกีที่มีต่อสหภาพยุโรปและนาโต เหนือวิกฤตยูเครน-รัสเซีย

---รัสเซียชูเบลารุส เป็นตัวกลางที่ดี---

ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีปูติน ได้ขอบคุณ ประธานาธิบดีอเล็กซานเดอร์ ลูกาเชนโก ของเบลารุสสำหรับบทบาทของเขา ที่ทำให้การเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครนเป็นไปได้ตั้งแต่แรก

ทั้งนี้ ก่อนการเจรจาในอิสตันบูลของตุรกี ผู้แทนของรัสเซียและยูเครนได้จัดการประชุมแบบเห็นหน้ากันสามครั้งในเบลารุส

การเจรจาเริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ในภูมิภาคโกเมล จากนั้นก็ดำเนินต่อในเดือนมีนาคม และตามมาด้วยการหารือทางออนไลน์อีกหลายครั้ง ก่อนจะนำมาสู่การเจรจาแบบพบหน้ากันที่นครอิสตันบูลของตุรกี นับว่าเป็นการเจรจาที่มีความคืบหน้ามากที่สุด

ล่าสุด ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน เผยถึงความคืบหน้าในการเจรจาสันติภาพว่า ในขณะที่การเจรจาในระดับสูงยังคงดำเนินต่อไป แต่น่าเสียดายที่ฝ่ายยูเครนไม่ต่อเนื่องสอดคล้องกันในแง่ของประเด็นที่ตกลงกันไว้ และมักเปลี่ยนจุดยืนและแนวโน้มของกระบวนการเจรจา

—————

ติดตามสถานการณ์ยูเครน-รัสเซียอย่างใกล้ชิด

https://bit.ly/TNNRussiaInvasion

—————

แปล-เรียบเรียง: สุภาพร เอ็ลเดรจ

ภาพ: Reuters