ถูกโจมตีหนัก! ชาวยูเครนกว่า170,000คนในเมืองมารีอูโปลขาดน้ำ-อาหาร

วันนี้ (29มี.ค.65) ทางการยูเครน กล่าวหาว่า รัสเซียใช้กำลังบังคับอพยพพลเรือนหลายพันคนออกจากเมืองมารีอูโปล ซึ่งเป็นเมืองท่ายุทธศาสตร์ของยูเครน ที่ได้รับความเสียหายอย่างหนัก โดยรัสเซีย ตั้งค่ายพักชั่วคราวขึ้นรองรับผู้อพยพประมาณ 5,000 คนในเมืองเบซีเมนเน ทางตะวันออกของเมืองมารีอูโปล ซึ่งมีการเผยแพร่ภาพค่ายพักแห่งนี้จากภาพถ่ายดาวเทียมด้วย

ไอรีนา เวเรชชุค รองนายกรัฐมนตรียูเครน แถลงว่า มีชาวยูเครนประมาณ 40,000 คน ถูกอพยพออกจากยูเครนไปยังดินแดนที่รัสเซียยึดครอง โดยไม่ได้มีการประสานความร่วมมือใด ๆ กับรัฐบาลยูเครน   

ขณะที่มีพลเรือน 140,000 คน พากันหลบหนีออกจากเมืองมารีอูโปล ที่ถูกกองทัพรัสเซียปิดล้อม และยังมีประชาชนอีก 170,000 คน ติดอยู่ในเมือง  พลเรือนส่วนใหญ่ซุกซ่อนตัวอยู่ในห้องใต้ดิน ขาดแคลนทั้งน้ำ, อาหารและยารักษาโรค 

อย่างไรก็ตาม สื่อตะวันตกยังไม่สามารถยืนยันจำนวนพลเรือนที่อพยพจากเมืองมารีอูโปล  แต่มีพลเรือนในมารีอูโปล เพียงเล็กน้อยเท่านั้นที่อพยพผ่านเส้นทางมนุษยธรรมที่ทั้งสองฝ่ายตกลงกัน โดยยูเครนระบุว่า ทหารรัสเซียยังคงโจมตีเส้นทางอพยพดังกล่าว ทั้งที่น่าจะเป็นเส้นทางที่ปลอดภัย 

ด้านรองนายกรัฐมนตรียูเครน ระบุว่า ไม่มีแผนการที่จะอพยพพลเรือนผ่านเส้นทางมนุษยธรรม ขณะที่นายกเทศมนตรีเมืองมารีอูโปล กล่าวว่า เมืองมารีอูโปล ได้รับความเสียหายอย่างหนัก และต้องอพยพพลเรือนออกให้หมด

ด้านฮานนา มาเลียร์ รัฐมนตรีช่วยกลาโหมของยูเครน แถลงผ่านสถานีโทรทัศน์เมื่อวานนี้ ว่า กองทัพรัสเซียกำลังพยายามที่จะสร้าง “ระเบียง” หรือ เขตควบคุมรอบกรุงเคียฟ เมืองหลวงยูเครน เพื่อปิดกั้นเส้นทางขนส่ง ท่ามกลางการโจมตีพื้นที่ชานเมืองรอบกรุงเคียฟอย่างต่อเนื่อง 

อย่างไรก็ตาม การป้องกันกรุงเคียฟ ยังคงดำเนินไปอย่างแข็งขัน ทั้งกองทัพบก, กองทัพอากาศ, กองกำลังปฏิบัติการพิเศษ รวมถึง กองกำลังป้องกันดินแดน  

เกาะติดสถานการณ์รัสเซีย-ยูเครน ได้ที่นี่

https://www.tnnthailand.com/news/ukraine-russia-war

ภาพจาก AFP (แฟ้มภาพ)