ผู้นำยูเครนชี้ ใกล้ยอมรับว่าจะไม่เข้าร่วมนาโตแล้ว เจรจากับรัสเซียมีความคืบหน้า
ท่ามกลางการต่อสู้กันอย่างดุเดือด และการโจมตีเมืองหลวงของยูเครนที่หนักขึ้นจากรัสเซีย แต่ในการเจรจาสันติภาพระหว่างทั้งสองฝ่าย ดูเหมือนจะมีความคืบหน้าขึ้น
ผู้นำยูเครน ระบุว่า การเจรจาสันติภาพครั้งล่าสุดระหว่างยูเครนกับรัสเซีย ดูจะใกล้ความจริงมากขึ้น พร้อมกับแสดงท่าทีประนีประนอม ว่าควรยอมรับที่จะไม่เข้าร่วมเป็นสมาชิกนาโต
ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน กล่าวในวิดีโอที่เผยแพร่เช้าวันนี้ (16 มีนาคม) ว่าตำแหน่งของยูเครนและรัสเซียในการเจรจาสันติภาพดูใกล้ความเป็นจริงมากขึ้น แต่ยังต้องการเวลาในการตัดสินใจ เพื่อผลประโยชน์ของยูเครน
เจ้าหน้าที่อาวุโสของยูเครน เปิดเผยว่า ว่าการเจรจากับรัสเซียเป็นเรื่องยากมาก แต่ยังมี ช่องทางสำหรับการประนีประนอมอย่างแน่นอน และจะยังมีการเจรจากันต่อในวันนี้
ส่วน ทมิทรี เปสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลินของรัสเซีย กล่าวว่า ยังเร็วเกินไปที่จะคาดการณ์ความคืบหน้าในการเจรจากัน เพราะถือว่าภารกิจนี้ยังยาก และในสถานการณ์ปัจจุบัน ความจริงที่ว่า การเจรจากำลังดำเนินต่อไป อาจเป็นไปในเชิงบวก
ผู้นำยูเครนยัง เรียกร้องให้เพื่อนของยูเครนมาเยือนกรุงเคียฟ แม้ว่าจะมีอันตราย เนื่องจากนาโตไม่มีการบังคับใช้เขตห้ามบินเหนือยูเครน และชาติตะวันตกไม่เต็มใจที่จะจัดหาเครื่องบินขับไล่ให้กับยูเครนเพิ่มเติม
เขาระบุว่า ทุกคนที่มาอยู่กับเราจะได้รับความขอบคุณ ไม่เพียงแต่จากยูเครน แต่ยังจากชาติอื่น ๆด้วย
นอกจากนี้ เซเลนสกียังประณามการทิ้งระเบิดของกองทัพรัสเซียในยูเครน โดยเรียกว่าเป็น "อาชญากรรมสงคราม" ระบุว่า รัสเซียพุ่งเป้าไปที่เมืองที่สงบสุข รวมถึงโครงสร้างพื้นฐานของพลเรือน และจำนวนขีปนาวุธที่รัสเซียใช้กับยูเครนมีมากกว่า 900 ลูกแล้ว
ท่ามกลางเสียงเรียกร้องจากผู้นำยูเครน ที่ต้องการให้พันธมิตรของตนมาเยือนกรุงเคียฟ ล่าสุด ผู้นำโปแลนด์, เช็กและสโลวีเนีย ได้เดินทางไปเยือนกรุงเคียฟ เพื่อหารือกับผู้นำยูเครน และแสดงพลังสนับสนุนยูเครนแล้ว
คือ นายกรัฐมนตรีของโปแลนด์, ปีเตอร์ เฟียลา นายกรัฐมนตรีของสาธารณรัฐเช็ก และ ยาเนซ ยานชา นายกรัฐมนตรีของสโลวีเนีย เดินทางไปถึงกรุงเคียฟ เมืองหลวงยูเครนในวันอังคาร (15 มีนาคม) เพื่อแสดงพลังสนับสนุนระดับสูง แก่ประธานาธิบดี เซเลนสกี
ผู้นำทั้ง 3 คน ซึ่งเดินทางโดยรถไฟ เป็นผู้นำต่างชาติกลุ่มแรกที่เดินทางเยือนกรุงเคียฟตั้งแต่รัสเซียบุกยูเครนเมื่อเดือนที่แล้ว
สาธารณรัฐเช็ก และโปแลนด์ อดีตประเทศคอมมิวนิสต์ ซึ่งทั้งสองเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป หรืออียู และองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ หรือนาโต อยู่ในกลุ่มที่สนับสนุนยูเครนอย่างแข็งแกร่งที่สุดในยุโรป ตั้งแต่รัสเซียบุกยูเครน
ด้านเดนิส ชมิเกล นายกรัฐมนตรีของยูเครน ยกย่องชื่นชมสิ่งที่เขากล่าวว่า “เป็นความกล้าหาญของเพื่อนแท้” และกล่าวว่า บรรดาผู้นำหารือเกี่ยวกับการสนับสนุนยูเครนและมาตรการคว่ำบาตรเพิ่มเติม
นายกรัฐมนตรีของสาธารณรัฐเช็ก กล่าวว่า การตัดสินใจเยือนกรุงเคียฟครั้งนี้ ได้มีการปรึกษาหารือกับชาร์ลส์ มิเชล ประธานมนตรียุโรป และนางเออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรปแล้ว
ทางด้านประธานาธิบดีเซเลนสกีของยูเครน กล่าวขอบคุณการสนับสนุนของผู้นำทั้งสาม พร้อมระบุด้วยว่า เอกอัครราชทูตต่างชาติจำนวนมาก ได้หนีออกจากกรุงเคียฟไปแล้ว
และในการหารือครั้งนี้ผู้นำยูเครน แสดงท่าทีถึงความเป็นไปได้ในการประนีประนอม กล่าวว่า ยูเครนพร้อมยอมรับหลักประกันด้านความมั่นคงจากชาติตะวันตก เพื่อหยุดความประสงค์ระยะยาวในการเข้าร่วมเป็นสมาชิกนาโต
เซเลนสกี กล่าวว่า หากเราไม่สามารถผ่านเข้าทางประตูที่เปิดกว้างอยู่ได้ ดังนั้น เราก็ต้องร่วมมือกับองค์กรต่าง ๆ เท่าที่สามารถทำได้ ซึ่งจะช่วยเรา ปกป้องเรา และมีหลักประกันแยกต่างหาก
ทั้งนี้รัสเซียมองว่า เป็นภัยคุกคาม และเรียกร้องให้รับประกันว่า ยูเครนจะไม่เข้าร่วมเป็นสมาชิกนาโต
รองนายกรัฐมนตรี จาโรสลอว์ คาซินสกี ของโปแลนด์ แถลงข่าวที่กรุงเคียฟ เมืองหลวงยูเครนเมื่อวานนี้ (15 มีนาคม) ในระหว่างการเยือนกรุงเคียฟ ว่า ควรมีการส่งทหารรักษาสันติภาพนานาชาติเข้าไปในยูเครน และทหารรักษาสันติภาพควรได้รับมอบสิ่งที่จะใช้ป้องกันตัวเองได้ด้วย ทั้งนี้ รองนายกรัฐมนตรีคาซินสกี เป็นผู้นำพรรครัฐบาลโปแลนด์ และถือเป็นผู้มีอำนาจในการตัดสินใจที่สำคัญของรัฐบาลโปแลนด์
—————
ติดตามสถานการณ์ยูเครน-รัสเซียอย่างใกล้ชิด
https://bit.ly/TNNRussiaInvasion
—————
แปล-เรียบเรียง: สุภาพร เอ็ลเดรจ
ภาพ: Handout / UKRAINIAN PRESIDENTIAL PRESS SERVICE / AFP