TNN online เปิดวาร์ปสถานที่เที่ยวรับลมหนาว ต้องไปเยือนสักครั้ง!

TNN ONLINE

TNN Exclusive

เปิดวาร์ปสถานที่เที่ยวรับลมหนาว ต้องไปเยือนสักครั้ง!

เปิดวาร์ปสถานที่เที่ยวรับลมหนาว ต้องไปเยือนสักครั้ง!

รวมสถานที่เที่ยวรับลมหนาว สัมผัสสายหมอกและธรรมชาติของเมืองไทย ที่ต้องไปให้ได้สักครั้ง

เป็นอันที่รู้กันว่าช่วงฤดูหนาวในประเทศไทย ประชาชนจะนิยมท่องเที่ยวในเขตภาคเหนือ บริเวณแถบที่สูงและภูเขา เช่น เที่ยวชมทิวทัศน์บนดอยต่างๆและสัมผัสทะเลหมอกท่ามกลางอากาศหนาวเย็น ซึ่งหากอุณภูมิต่ำมากๆถึง 1 องศาเซสเซียสจะมีโอกาสได้ชมแม่คะนิ้ง หรือ น้ำค้างแข็ง อีกด้วย

วันนี้ TNN online ได้มีสถานที่เที่ยวน่าสนใจที่เหมาะสำหรับเที่ยวหน้าหนาวมาให้ดูกัน ซึ่งจะมีที่ไหนบ้างไปดูกันเลย

เปิดวาร์ปสถานที่เที่ยวรับลมหนาว ต้องไปเยือนสักครั้ง!

เปิดวาร์ปสถานที่เที่ยวรับลมหนาว ต้องไปเยือนสักครั้ง!

เปิดวาร์ปสถานที่เที่ยวรับลมหนาว ต้องไปเยือนสักครั้ง!

Cr. รูปอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ - Doi Inthanon National Park

1. อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่

เป็นที่เที่ยวติดอันดับต้นๆ ของการท่องเที่ยวในฤดูหนาว เป็นยอดดอยที่สูงที่สุดในประเทศไทย 2,599 เมตร จึงทำให้มีสภาพอากาศหนาวเย็นตลอดปีสถานที่น่าสนใจในอุทยานฯมี น้ำตกแม่ยะ น้ำตกแม่กลาง น้ำตกวชิรธาร น้ำตกสิริภูมิ ถ้ำบริจินดา โครงการหลวงอินทนนท์ และ เส้นทางศึกษาธรรมชาติ


เปิดวาร์ปสถานที่เที่ยวรับลมหนาว ต้องไปเยือนสักครั้ง!

เปิดวาร์ปสถานที่เที่ยวรับลมหนาว ต้องไปเยือนสักครั้ง!

เปิดวาร์ปสถานที่เที่ยวรับลมหนาว ต้องไปเยือนสักครั้ง!

Cr. รูป เช้านี้ที่อ่างขาง

2.ดอยอ่างขาง จังหวัดเชียงใหม่

นั้นเป็นที่ตั้งของสถานีเกษตรหลวงอ่างขาง ซึ่งมีโครงการวิจัยผลไม้ ดอกไม้เมืองหนาว สวนบอนไซ ตั้งอยู่ที่อำเภอฝาง อยู่ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ไป 137 กม. แถม ในสถานีฯมีที่พักและมีสถานที่กางเต็นท์บริการแก่นักท่องเที่ยว 


เปิดวาร์ปสถานที่เที่ยวรับลมหนาว ต้องไปเยือนสักครั้ง!

เปิดวาร์ปสถานที่เที่ยวรับลมหนาว ต้องไปเยือนสักครั้ง!

เปิดวาร์ปสถานที่เที่ยวรับลมหนาว ต้องไปเยือนสักครั้ง!

Cr. รูป อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง - Huai Nam Dang National Park

3. อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง จังหวัดเชียงใหม่

เป็นอุทยานแห่งชาติที่ตั้งอยู่ในจังหวัดเชียงใหม่และแม่ฮ่องสอนของประเทศไทย โดยในเขตอุทยาน มีภูมิทัศน์ต่าง ๆ ได้แก่ จุดชมวิวภูเขา น้ำตก และบ่อน้ำร้อน จุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ได้แก่ ดอยช้างและดอยแก้วลม ซึ่งเป็นจุดชมวิวทะเลหมอกในตอนเช้าของฤดูหนาว นอกจากนี้ยังมีน้ำตกห้วยน้ำดัง มีความสูง 4 ชั้น สูงประมาณ 50 เมตร และกว้าง 40 เมตร , น้ำตกอีกแห่งคือ น้ำตกแม่เย็น มีน้ำไหลตลอดทั้งปี ,  บ่อน้ำร้อนภายในอุทยานได้แก่ บ่อโป่งเดือด มีประมาณสามถึงสี่บ่อ และบ่อท่าปายในอำเภอปาย


เปิดวาร์ปสถานที่เที่ยวรับลมหนาว ต้องไปเยือนสักครั้ง!

เปิดวาร์ปสถานที่เที่ยวรับลมหนาว ต้องไปเยือนสักครั้ง!

เปิดวาร์ปสถานที่เที่ยวรับลมหนาว ต้องไปเยือนสักครั้ง!

4. เขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์

เป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงของจังหวัดเพชรบูรณ์ จุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจบริเวณเขาค้อมีหลายแห่ง โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับประวัติศาสตร์การสู้รบกับคอมมิวนิสต์ ได้แก่ อนุสาวรีย์จีนฮ่อ พิพิธภัณฑ์อาวุธ อนุสรณ์สถานผู้เสียสละเขาค้อ นอกจากนี้ ยังมี วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว พระบรมธาตุเจดีย์ พระตำหนักเขาค้อ น้ำตกศรีดิษฐ์ และเนินมหัศจรรย์ ฯลฯ


เปิดวาร์ปสถานที่เที่ยวรับลมหนาว ต้องไปเยือนสักครั้ง!

เปิดวาร์ปสถานที่เที่ยวรับลมหนาว ต้องไปเยือนสักครั้ง!

เปิดวาร์ปสถานที่เที่ยวรับลมหนาว ต้องไปเยือนสักครั้ง!

5. ภูทับเบิก จังหวัดเพชรบูรณ์

ภูทับเบิก หรือ ทับเบิก มีความสูงจากระดับทะเลประมาณ 1,768 เมตร เป็นจุดที่สูงที่สุดของเพชรบูรณ์ก็ว่าได้ เรียกว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวหน้าหนาว ยอดฮิตอีกแห่งหนึ่งที่นักท่องเที่ยวมักจะพากันไปอย่างต่อเนื่อง และยังเป็นที่ตั้งของหมู่บ้านชาวไทยภูเขาเผ่าม้ง และ ไร่กะหล่ำปลีที่ใหญ่ที่สุดในประเทศอีกด้วย


เปิดวาร์ปสถานที่เที่ยวรับลมหนาว ต้องไปเยือนสักครั้ง!

เปิดวาร์ปสถานที่เที่ยวรับลมหนาว ต้องไปเยือนสักครั้ง!

เปิดวาร์ปสถานที่เที่ยวรับลมหนาว ต้องไปเยือนสักครั้ง!

Cr. รูป อุทยานแห่งชาติภูกระดึง - Phu Kradueng National Park

6. ภูกระดึง จังหวัดเลย

ภูกระดึง ตั้งอยู่ในท้องที่ตำบลศรีฐาน อำเภอภูกระดึง จังหวัดเลย และได้รับการประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติ ลำดับที่ 2 ของประเทศไทย เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2505 มีระดับความสูงอยู่ระหว่าง 400 – 1,200 เมตร แต่ละปีมีนักท่องเที่ยวเข้ามาสัมผัสอากาศที่หนาวเย็นกว่า 100,000 คน ไฮไลท์สำคัญในหน้าหนาวคือการเดินเข้าป่าไปชมความงามของพืชพรรณนานาชนิด 

สำหรับจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจบนภูกระดึง คือ ผานกแอ่น ซึ่งเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่งดงามมากแห่งหนึ่งในไทยเลยก็ว่าได้


เปิดวาร์ปสถานที่เที่ยวรับลมหนาว ต้องไปเยือนสักครั้ง!

เปิดวาร์ปสถานที่เที่ยวรับลมหนาว ต้องไปเยือนสักครั้ง!

เปิดวาร์ปสถานที่เที่ยวรับลมหนาว ต้องไปเยือนสักครั้ง!

Cr. รูป วนอุทยานภูชี้ฟ้า

7. ภูชี้ฟ้า จังหวัดเชียงราย

ตั้งอยู่ที่ตำบลตับเต่า อำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย อยู่ระหว่างรอยตะเข็บชายแดนไทย–ลาว ลักษณะเป็นหน้าผาสูงเป็นแนวยาวไปตามแนวชายแดน บริเวณปลายสุดของหน้าผามีลักษณะแหลมคล้ายกับนิ้วมือชี้ยื่นออกไปในอากาศ จึงเป็นที่มาของชื่อ "ภูชี้ฟ้า" จุดที่สูงสุดของภูชี้ฟ้าอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 1,200 ถึง 1,628 เมตร เบื้องล่างของหน้าผาเป็นแอ่งหุบเขา เป็นที่ตั้งของหมู่บ้านเชียงตอง แขวงไชยบุรี ประเทศลาว


เปิดวาร์ปสถานที่เที่ยวรับลมหนาว ต้องไปเยือนสักครั้ง!

เปิดวาร์ปสถานที่เที่ยวรับลมหนาว ต้องไปเยือนสักครั้ง!

8. อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า จังหวัดพิษณุโลก

ภูหินร่องกล้าอันเป็นแหล่งกำเนิดของประวัติศาสตร์การสู้รบอันยาวนาน เป็นวีรกรรมของนักรบไทยที่เกิดขึ้น ณ ที่นี้ ตลอดจนสภาพสิ่งก่อสร้างในอดีตได้ถูกบันทึกเก็บรักษาไว้ สภาพภูมิประเทศเป็นเทือกเขาสลับซับซ้อน มีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,614 เมตร สภาพภูมิอากาศของภูหินร่องกล้า มีอากาศหนาวเย็นเกือบตลอดปี ในฤดูหนาวอุณหภูมิจะต่ำมากประมาณ 0-4 องศาเซลเซียส ฤดูร้อนอากาศจะเย็นสบาย และในฤดูฝนมีอุณหภูมิเฉลี่ยทั้งปีประมาณ 18-25 องศาเซลเซียส


เปิดวาร์ปสถานที่เที่ยวรับลมหนาว ต้องไปเยือนสักครั้ง!

เปิดวาร์ปสถานที่เที่ยวรับลมหนาว ต้องไปเยือนสักครั้ง!

Cr. รูป เที่ยวปายแม่ฮ่องสอน

9. ปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน

เป็นอำเภอขนาดใหญ่มากมากมามทางตอนเหนือของจังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นที่รู้จักกันดีในด้านความงามของธรรมชาติ เป็นที่ราบแอ่งกระทะ ล้อมรอบด้วยภูเขา มีดอยแม่ยะเป็นยอดดอยที่สูงที่สุด สูงประมาณ 2,005 เมตร อำเภอปาย มี 3 ฤดู คือ ฤดูหนาว อากาศหนาวจัดได้ถึง 2 องศาเซลเซียส บางวันมีหมอกลงหนาทึบ จนถึงเวลาประมาณ 11.00 น. ฤดูฝนเริ่มตั้งแต่เดือนมิถุนายนถึงเดือนกันยายนของทุกปี ฤดูร้อนเริ่มตั้งแต่เดือนมีนาคมถึงเดือนมิถุนายน


เปิดวาร์ปสถานที่เที่ยวรับลมหนาว ต้องไปเยือนสักครั้ง!

เปิดวาร์ปสถานที่เที่ยวรับลมหนาว ต้องไปเยือนสักครั้ง!

เปิดวาร์ปสถานที่เที่ยวรับลมหนาว ต้องไปเยือนสักครั้ง!

Cr. รูป ปางอุ๋ง at Maehongson ,Thailand

10. ปางอุ๋ง จังหวัดแม่ฮ่องสอน

ปางอุ๋ง มีลักษณะเป็นพื้นที่เป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่บนยอดเขาสูง ริมอ่างเก็บน้ำเป็นทิวสนที่ปลูกเรียงรายกัน ภาพอันสวยงามของไอหมอกที่ลอยเหนือทะเลสาป กับบรรยากาศอันหนาวเหน็บในยามเช้า ทำให้ ปางอุ๋ง กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวมาแรง ยอดฮิต สุดแสนโรแมนติกติดอันดับต้นๆของแม่ฮ่องสอน จนได้รับขนานนามว่าเป็น "สวิตเซอร์แลนด์แห่งเมืองไทย"


เปิดวาร์ปสถานที่เที่ยวรับลมหนาว ต้องไปเยือนสักครั้ง!

เปิดวาร์ปสถานที่เที่ยวรับลมหนาว ต้องไปเยือนสักครั้ง!

เปิดวาร์ปสถานที่เที่ยวรับลมหนาว ต้องไปเยือนสักครั้ง!

Cr. รูป บ้านทะเลหมอก ณ ภูลังกา อ.ปง จ.พะเยา

11. ภูลังกา จังหวัดพะเยา

เป็นภูเขาสูงชันอยู่ใน เทือกเขาสันปันน้ำ วางตัวอยู่ในแนวตะวันออก-ตะวันตก สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางประมาณ 900-1,720 เมตร ด้วยความที่เป็นยอดเขาสลับซ้อนกัน เลยทำให้เหมาะสำหรับการเดินท่องธรรมชาติพิชิตยอดดอยและการชมวิวในช่วงฤดูหนาวมากๆ


เปิดวาร์ปสถานที่เที่ยวรับลมหนาว ต้องไปเยือนสักครั้ง!

เปิดวาร์ปสถานที่เที่ยวรับลมหนาว ต้องไปเยือนสักครั้ง!

เปิดวาร์ปสถานที่เที่ยวรับลมหนาว ต้องไปเยือนสักครั้ง!

Cr. รูป อุทยานแห่งชาติศรีน่าน จังหวัดน่าน - Sri Nan National Park

12. ดอยเสมอดาว จังหวัดน่าน

เป็นที่ เที่ยวกางเต็นท์ยอดฮิตอีกแห่งหนึ่งในอุทยานแห่งชาติศรีน่าน อำเภอนาน้อย จังหวัดน่าน เป็นพื้นที่ที่มีลานกว้างโค้งไปตามสันเขาเหมาะสำหรับการพักผ่อนชมพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกในเวลาเดียวกัน และยังสามารถ ชมทะเลหมอกในยามเช้า ชมดาวและแสงไฟจากตัวอำเภอนาน้อยในยามค้ำคืนได้อย่างสวยงาม


เปิดวาร์ปสถานที่เที่ยวรับลมหนาว ต้องไปเยือนสักครั้ง!

เปิดวาร์ปสถานที่เที่ยวรับลมหนาว ต้องไปเยือนสักครั้ง!

เปิดวาร์ปสถานที่เที่ยวรับลมหนาว ต้องไปเยือนสักครั้ง!

Cr. รูป อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ - Khao Yai National Park

13.เขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา

เรียกว่าเป็นป่าที่มีความอุดมสมบูรณ์อีกแห่งหนึ่งในประเทศไทย และช่วงฤดูหนาวจะหนาวมาก และด้วยความใกล้กรุงเทพฯ ทำให้นักท่องเที่ยวแวะเวียนไปเที่ยวอย่างไม่ขาดสายสถานที่เที่ยวที่น่าสนใจ อาทิ เขาร่ม , เขาแหลม , เขาเขียว , เขาสามยอด , น้ำตกเหวนรก , น้ำตกเหวสุวัต , จุดชมวิวผาเดียวดาย ฯลฯ


เปิดวาร์ปสถานที่เที่ยวรับลมหนาว ต้องไปเยือนสักครั้ง!

เปิดวาร์ปสถานที่เที่ยวรับลมหนาว ต้องไปเยือนสักครั้ง!

Cr. รูป อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ - Thongphaphum National Park

14. เขาช้างเผือก จังหวัดกาญจนบุรี

ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ซึ่งใน 1 ปี จะเปิดให้คนเข้าไปท่องเที่ยวเพียงไม่กี่เดือนเท่านั้น เพื่อรักษาสมดุลของธรรมชาติ มีความสูงประมาณ 1,249 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง ซึ่งจะจำกัดจำนวนวันละไม่เกิน 60 คน และต้องจองล่วงหน้า 7 วัน พร้อมส่งชื่อ-สกุล เลขที่บัตรประชาชน และที่อยู่ให้ทางอุทยานฯ โดยจะใช้เวลาเดินเท้าประมาณ 6 ชั่วโมง เป็นระยะทาง 8 กิโลเมตร พร้อมกางเต้นท์ค้างคืนบนยอดเขา 1 คืน ซึ่งทางอุทยานฯจะจัดเจ้าหน้าที่นำทาง จุดไฮไลท์ของการเดินทางอยู่ที่ สันคมมีด สันเขาที่สวยงามและน่าหวาดเสียว เมื่อขึ้นไปถึงยอดเขาจะสามารถมองเห็นวิวได้รอบทิศทาง 360 องศา




เกาะติดข่าวที่นี่

website: www.TNNTHAILAND.com
facebook : TNNONLINE
facebook live : TNN Live
twitter : TNNONLINE
Line : @TNNONLINE
Youtube Official : TNNONLINE
Instagram : TNN_ONLINE
TIKTOK : @TNNONLINE

ข่าวแนะนำ