(คลิป)ลุ้นไม่ขึ้น! 'เดอะตุ๊ก' ชี้หนึ่งสโมสรไทยน่าผิดหวังใน ACL

วันนี้ (9 ก.ค. 64) ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน ตำนานกองหน้าทีมชาติไทย ชำแหละผลงานของสี่ทีมสโมสรไทยในการลุย เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก 2021 โดยทั้ง เชียงราย ยูไนเต็ด , บีจี ปทุม ยูไนเต็ด และ ราชบุรี เอฟซี ล้วนแล้วแต่ทำผลงานได้ดีทั้งสิ้น แม้ว่า กว่างโซ้ง กับ ราชันมังกร จะตกรอบแรกไปแล้วก็ตาม ส่วนการท่าเรือ เอฟซี เป็นทีมที่ผลงานแย่ที่สุด ไม่มีพัฒนาการที่ดีขึ้นเลย เล่นรูปแบบเดิมๆทั้งที่ไม่ได้เปรียบ ต้องปรับปรุงอีกเยอะมาก

ศึกฟุตบอล เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก 2021 รอบแบ่งกลุ่มของฝั่งตะวันออก เดินทางมาถึงโค้งสุดท้าย โดยบางกลุ่มจบการแข่งขันไปแล้ว ซึ่งจนถึงตอนนี้ เชียงราย , ราชบุรี และ การท่าเรือ ตกรอบไปแล้ว ส่วน บีจี ยังมีลุ้นอันดับสองที่ดีที่สุด เป็นทีมเดียวจากไทยที่ยังมีลุ้นเข้ารอบ ล่าสุด เดอะตุ๊ก ได้กล่าวถึงผลงานทั้งสี่ทีมผ่านช่อง แตงโมลง ปิยะพงษ์ยิง ชนิดที่เรียกว่าเดือดถึงพริกถึงขิงเลยทีเดียว

"ผมขอพูดทั้ง 4 ทีมเลยนะ เชียงราย ต้องชื่นชมโค้ช ทั้งฮั่น และทีมงานที่เค้ามีแนวทางการเล่นที่ดีมาก แนวทางการเล่นทำให้รู้เลยว่าต้องวางระบบแบบไหน เล่นแบบไหนกับทีมที่ใกล้เคียงกัน เล่นแบบไหนกับทีมที่อ่อนกว่า ทีมที่อ่อนกว่าแน่นอน มันก็ต้องอุดใส่เค้าเหมือนกัน นี่คือสิ่งที่เชียงรายได้รับบทเรียนจากการเล่นเอเอฟซี เเชมเปี้ยนส์ลีก ปีที่แล้ว และสามารถทำได้ดีตั้งแต่ปีที่แล้วต่อยอดมาถึงปีนี้ เชียงรายเป็นอีกทีมที่ทำการบ้านมาอย่างยอดเยี่ยม ขยับมาตรฐานของคุณดีขึ้นไปเรื่อยๆ มีศูนย์หน้าตัวเป้า โจมตีเร็ว ให้บิลล์พักบอล แล้วขึ้นไปโจมตี สไตล์ของเชียงรายมีการพัฒนาทั้งความคิดและวิธีการเล่น"

"ในส่วนของบีจี ต้องบอกเลยว่า บีจีได้โค้ชที่มีประสบการณ์ในเรื่องของเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีกมา นักฟุตบอลทั้งทีมมีประสบการณ์ทั้งระดับชาติและเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก นักฟุตบอลรู้วิธีการเล่นอยู่แล้ว โค้ชรู้วิธีการจัดการ สำคัญที่สุดคือยังรักษาวิธีการเล่นที่ชัดเจนของสโมสร อันนี้สำคัญ ไม่เตะทิ้งเตะขว้าง แม้จะเจอทีมที่แข็งแกร่งกว่า ผมบอกเลย แม้จะเป็นทีมเกาหลีใต้ หรือญี่ปุ่น นอกเหนือจากการเคลื่อนที่ที่รวดเร็วแล้ว สิ่งที่พวกเขากลัวคือ กลัวครองบอล กลัวเลี้ยง แต่เราไม่ทำ เพราะความสามารถเราสู้เขาไม่ได้ และเขามีวิธีดักบอลที่ดีกว่า เขาบังคับให้เราเตะทิ้ง ถ้าเราทำได้นะ เขาจะกลัวเราขนขึ้นหัวเลยแหละ ถ้าเราได้บอลแล้วเตะทิ้ง เตะทิ้ง เขาจะชอบ แต่ถ้าเราได้บอล แล้วแก้ไขสถานการณ์โดยการเลี้ยงกินตัว เคลื่อนที่เร็ว เขาจะกลัวสะดือปลิ้น"

"ราชบุรี นัดแรกออกทะเล เพราะว่าหนึ่ง ทีมรวมตัวกันน้อย นักเตะมาจากคนละทิศคนละทาง เล่นแบบเตะทิ้ง เตะทิ้ง คู่ต่อสู้สบาย แต่พอยิ่งเล่น ต้องชื่นชมโค้ชนะ ทั้งโค้ชสมชาย และ โค้ชเศกสรร ค่อยๆปรับวิธีการเล่น ให้มีการครองบอล แล้วก็มีรุ่นพี่สองคนที่เข้ามาช่วย ต้องชื่นชมนะ จักรพันธ์ พรใส กับ สรรวัชญ์ เดชมิตร พวกนี้ครองบอลเหนียว พอได้บอล สังเกตได้เลยว่าคู่ต่อสู้จะถอย เพราะสองคนนี้ครองบอลได้ คุณเข้ามา มันทำชิ่ง มีความเฉลียวฉลาด ทำให้คู่ต่อสู้มีความกลัว นั่นทำให้ ราชบุรี ยกระดับขึ้นมา ในเรื่องของ เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก รู้วิธีคิด ตอนแรกอาจจะยังไม่รู้ จากระบบวิธีการ ค่อยๆ แล้วทำให้ความสัมพันธ์ในทีมเริ่มมา แรงเริ่มมา คุณไม่เตะทิ้งเตะขว้าง เสมอ โปฮังฯ ได้ เพราะคุณครองบอล คุณได้บอล นักเตะเกาหลียังเดินถอยหนี เพราะเข้ามา คุณเลี้ยงกินตัวทำชิ่ง คุณจะไปกลัวอะไรเค้า ในเมื่อคุณทำได้ดี ราชบุรี ผมชื่นชมโค้ชคุณ" 

"สุดท้าย การท่าเรือ เป็นทีมที่เล่นอย่างไรก็เล่นอย่างนั้น โยนอย่างเดียว คุณจะไปโยนหาเตี่ยรึไง ผมเห็น โก ซุลกิ เคลื่อนตัว นึกว่านักฟุตบอลอายุ 40-50 ปี เคลื่อน ซึ่งมันเล่นในไทยลีกได้ แต่พอในระดับ เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก เขาจะเคลื่อนตัวช้ากว่าคู่ต่อเสมอ พอเคลื่อนตัวช้า ก็จะทำให้ถูกประกบได้ ทำให้เวลาเขาได้บอลก็ชอบฝากกับเพื่อน และสวิตช์ ให้คนใกล้ซัพพอร์ท เอาตัวรอดคนเดียว แล้วให้เพื่อนตาย ทิ้งภาระให้คนอื่น เพราะตัวเองยืนเป็นตัวกลาง เซฟแรงได้ ผมว่าท่าเรือมีปัญหาแดนกลาง เพราะ โก นี่แหละ ผิดกับ ศิวกรณ์ ที่เคลื่อนไหวดี แต่ต้องมีคนที่ดีกว่า โก มาช่วยเขา แล้วอีกอย่างทีมก็โยน ก็โยน ตัวกองหน้าคุณคือ บาจโจ้ ตัวนิดเดียว ไปเล่นลูกโยน ลูกกลางอากาศแบบนี้ก็สลบสิครับ กองหน้าตัวเล็ก วิธีการอื่นคุณยังมีมากกว่านี้เยอะแยะ จะมาอาศัยลูกยิงทิงนองนอย แบบยิงญี่ปุ่นลูกนั้นตลอดมันไม่ได้ มันต้องมีวิธีการเล่นที่ดีกว่านี้ ผมว่าส่วนหนึ่งอะ โก ซุลกิ คือจุดบอด"

เชิญชมคลิป