นาซาเฝ้าระวัง! ดาวเคราะห์น้อยขนาดหอไอเฟล พุ่งเข้าใกล้โลกช่วง 11 ธ.ค. นี้

วันนี้ ( 10 พ.ย. 64 )องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ หรือนาซ่าเปิดเผยว่า ดาวเคราะห์น้อย 4660 เนรีอุส ที่มีความสูงเท่ากับหอไอเฟล หรือประมาณกว่า 330 เมตรและถูกจัดให้เป็นดาวเคราะห์น้อยที่อาจเป็นต่ออันตรายต่อโลกกำลังจะโคจรพุ่งมาใกล้โลกในวันที่ 11 ธ.ค.2564 นี้ ด้วยความเร็วกว่า 6,400 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

 ทั้งนี้ ดาวเคราะห์ 4660 เนรีอุส ถูกค้นพบเมื่อปี 1982  มีขนาดใหญ่เท่ากับสนามฟุตบอล 3 เท่า  องค์การนาซ่าเปิดเผยว่า หากดาวเคราะห์น้อยดวงนี้พุ่งชนโลก จะสร้างความเสียหายอย่างมาก อย่างไรก็ดี องค์การนาซ่าบอกว่าไม่ต้องเป็นกังวล เนื่องจากดาวเคราะห์น้อย 4660 เนรีอุส จะไม่เป็นภัยคุกคามกับโลก  เพราะมันไม่ได้พุ่งเข้าหาโลกแบบตรงๆ แต่ถากไปด้วยระยะทางที่ห่างจากโลกราว 3.9 ล้านกิโลเมตร ซึ่งมากกว่าระยะห่างจากโลกถึงดวงจันทร์เกินกว่า 10 เท่า ดังนั้นก็ถือว่าน่าจะสบายใจได้  

อย่างไรก็ดี ดาวเคราะห์น้อย 4660 เนรีอุส  จะโคจรกลับมาใกล้โลกอีกครั้งก็ต้องรอไปถึง 2 มีนาคม 2031 ครั้งถัดไปก็คือ พฤศจิกายน 2050  ซึ่งการที่ดาวเคราะห์น้อยเฉียดโลก จะช่วยให้นักวิทยาศาสตร์มีโอกาสสำรวจหินอวกาศที่กำลังเคลื่อนที่

ในวันที่ 24 พฤศจิกายน องค์การนาซ่าจะเปิดตัวยานอวกาศจากฐานทัพอวกาศ Vandenberg ของแคลิฟอร์เนีย ในภารกิจปกป้องโลก กับปฏิบัติการที่ชื่อว่า  DART  (Double Asteroid Redirection Test ) ซึ่งใช้งบประมาณสูงถึง 330 ล้านดอลลาร์ เป็นส่วนหนึ่งของ โครงการป้องกันโลกจากภัยพิบัติอวกาศ   

ซึ่งขณะนี้กำลังเตรียมความพร้อมขั้นสุดท้าย เพื่อให้พร้อมปล่อยยานอวกาศ ดาร์ท (DART) ขึ้นสู่ท้องฟ้า โดยมีจุดหมายปลายทางคือตั้งใจทดสอบการพุ่งชนดาวเคราะห์น้อยดวงหนึ่ง

ชื่อว่าดีมอร์ฟอส (Dimorphos) มีเส้นผ่าศูนย์กลาง ขนาดประมาณ 170 เมตร  อายุ 4,500 ล้านปี  ซึ่งเป็นดวงจันทร์ ที่โคจรอยู่รอบดาวเคราะห์น้อยดีดิมอส ( Didymos) ซึ่งอยู่ห่างจากโลก 6.8 ล้านไมล์ (ประมาณ 11 ล้านกิโลเมตร)

จริงๆแล้ว ทั้งดีดิมอสและดีมอร์ฟอส ไม่ใช่วัตถุที่จะพุ่งชนหรือเข้ามาเฉียดโลก แต่จะเป็นตัวทดสอบที่ดีสำหรับการเบี่ยงเบนวงโคจรของดาวเคราะห์น้อยโดยยานดาร์ทจะพุ่งเข้าชน  จะเหลือน้ำหนักประมาณ 550 กิโลกรัม  คาดการณ์ว่าจะใช้ความเร็วในการชนอยู่ที่ 6.6 กิโลเมตรต่อวินาที  

นาซามีแผนติดตามความเคลื่อนไหวหลังการกระแทกและผลกระทบหลังจากนั้น โดยใช้กล้องโทรทรรศน์บนภาคพื้น และผ่านดาวเทียมที่ติดตั้งกล้องขนาดเล็ก ซึ่งจะดีดตัวออกจากยานอวกาศก่อนพุ่งชนดาวเคราะห์น้อย จากนั้นพวกนักวิทยาศาสตร์จะสามารถทราบได้ว่าการเปลี่ยนเส้นทางมีความเป็นไปได้หรือไม่ และจำเป็นต้องใช้เวลานานแค่ไหนในการป้องกันในกรณีที่เกิดหายนะของจริง

ภาพจาก :  AFP