ดาวเคราะห์น้อยชนโลกก่อสึนามิยักษ์ถล่มไดโนเสาร์เมื่อ 66 ล้านปีก่อน

ดาวเคราะห์น้อยพุ่งชนโลกเมื่อ 66 ล้านปีก่อน คลื่นยักษ์สึนามิ สูง 1.6 กิโลเมตร ทำลายล้างชีวิตไดโนเสาร์
วันนี้ ( 1 ก.พ. 66 )กลุ่มนักวิจัยนานาชาติจากสถาบันและหน่วยงานต่างๆ ของรัฐบาล รวมถึงห้องปฏิบัติการสิ่งแวดล้อมทางทะเลแปซิฟิกขององค์การบริหารมหาสมุทร และชั้นบรรยากาศแห่งชาติ หรือ โนอา ในสหรัฐฯ ระบุว่า ดาวเคราะห์น้อยที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 6 ไมล์ หรือเกือบ 10 กิโลเมตร ได้พุ่งชนโลกเมื่อ 66 ล้านปีก่อน และกวาดล้างไดโนเสาร์เกือบหมด รวมถึงทำลายล้างพืช และสัตว์สายพันธุ์อื่น ราว 3 ใน 4 ของโลก เนื่องจากเกิดคลื่นยักษ์สึนามิความสูงราว 1 ไมล์ หรือประมาณ 1.6 กิโลเมตร
โดยมีการใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ เพื่อสร้างแบบจำลองรายละเอียดการไหลจากของเหลวที่เรียกว่า ไฮโดรโคด และมีการจำลองการเกิดสึนามิในช่วง 10 นาทีแรก พร้อมกับมีการใช้แบบจำลองที่พัฒนาโดยองค์การบริหารมหาสมุทร และชั้นบรรยากาศแห่งชาติของสหรัฐฯ จากนั้นทีมวิจัยได้วิเคราะห์ข้อมูลทางธรณีวิทยาในพื้นที่ต่างๆ มากกว่า 100 แห่งทั่วโลก และพบหลักฐานสนับสนุนการเกิดคลื่นยักษ์สึนามิขนาดใหญ่เมื่อ 66 ล้านปีก่อน ผลการศึกษานี้ ยังช่วยประเมินและบอกถึงความเสี่ยงของผลกระทบจากดาวเคราะห์น้อยขนาดใหญ่ในอนาคต
ขณะเดียวกัน นักวิทยาศาสตร์ยังกล่าวถึงกรณีที่พบดาวเคราะห์น้อย 2023 BU เพียงไม่กี่วัน ก่อนที่ดาวเคราะห์น้อยดวงนี้เคลื่อนตัวเข้าใกล้โลกเมื่อ 26 มกราคมที่ผ่านมา โดยพวกเขาบอกว่า โลกยังมีความผิดพลาดในการประเมินภัยคุกคามจากนอกโลก แม้ดาวเคราะห์น้อย 2023 BU ไม่สร้างอันตรายแก่ชาวโลกก็ตาม
องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติสหรัฐฯ (นาซา) ให้ความสำคัญต่อการตรวจจับดาวเคราะห์น้อยในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เนื่องจากว่า ดาวเคราะห์น้อย มีทั้งขนาดใหญ่ และขนาดเล็ก ซึ่งอาจมีอันตรายต่อโลก หากดาวเคราะห์น้อยเหล่านี้ เคลื่อนตัวเข้าใกล้โลก แต่มนุษย์ไม่สามารถรู้ล่วงหน้าได้ทันเวลา ก็จะสร้างความเสียหายต่อชาวโลก อันมีสาเหตุมาจากเครื่องมือตรวจจับในปัจจุบัน ไม่สามารถตรวจจับดาวเคราะห์น้อยได้ล่วงหน้าเป็นเวลาหลายวัน
เหมือนเหตุการณ์ที่อุกกาบาตขนาด 20 เมตรตกที่เมืองเชเลียบินสก์ในรัสเซียเมื่อปี 2013 ทำให้กระจกหน้าต่างของอาคารบ้านเรือนนับหมื่นได้รับความเสียหาย ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าว ไม่มีผู้ใดสามารถรู้ล่วงหน้า ก่อนที่ดาวตกเดินทางเข้าสู่ชั้นบรรยากาศโลก
ภาพจาก : AFP