"หลวงปู่พุทธะอิสระ" เปิดใจกลับมาห่มผ้าเหลือง เพราะศรัทธาชาวบ้าน สิ้นสุดคุมประพฤติ

อดีตพระพุทธะอิสระ พูดชัดเจน จะกลับมาห่มผ้าเหลืองอีกครั้งหนึ่งในวันที่ 5.ธ.ค. 62 เผยไมได้ละเมิดต่ออาบัติร้ายแรงจนทำให้ขาดความเป็นพระ จึงไม่ยินดีที่จะกล่าวคำลาสิกขา เตรียมเสนอเรื่องไปยังสำนักงานพระพุทธศาสนา หลังสิ้นสุดเวลาคุมประพฤติ

วันนี้ (19 ต.ค.62) มีความเคลื่อนไหวของอดีตพระพุทธะอิสระ หรือ อดีตพระสุวิทย์ ธีรธัมโม ผู้ก่อตั้งวัดอ้อน้อย (ธรรมอิสระ) อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม หลังถูกคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ในความผิดฐานร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังหรือกระทำด้วยการใดให้เจ้าพนักงาน ซึ่งกระทำการตามหน้าที่ฯ ให้รับอันตรายสาหัส, ร่วมกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไปข่มขืนใจให้ผู้อื่นกระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายฯ หรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายฯขณะชุมนุม ก่อนจะได้รับการประกันตัวศาลจากศาล เมื่อวันที่ 16 ส.ค. 62 ที่ผ่านมา โดยช่วงเวลาการคุมความประพฤติจะสิ้นสุดลงในวันที่ 29 ต.ค.62 นี้เช่นกัน จึงกำหนดเวลากลับไปบวชใหม่ ในวันที่ 5 ธ.ค.62

ผู้ใช้บัญชีเฟซบุ๊กชื่อ "คนหล่อ คนดีด้วยซึ่งเป็นหนึ่งในลูกศิษย์ของอดีตพุทธะอิสระ ได้โพสต์ข้อความแจ้งข่าวสารถึงญาติธรรม และคณะศิษย์วัดอ้อน้อย โดยมีข้อความว่าหลวงปู่พุทธะอิสระ จะครองผ้าเหลืองใหม่ใน วันที่ 5 ธันวาคม 62 จึงประกาศมาให้ทราบโดยทั่วกัน" หลังจากข่าวนี้ถูกโพสต์และแชร์ออกไป ได้มีคณะศิษย์วัดอ้อน้อยได้เข้าร่วมแสดงความคิดเห็นและร่วมอนุโมทนากันเป็นจำนวนมาก พร้อมกับกล่าวว่า "สาธุ"

หลวงปู่พุทธะอิสระ เปิดใจกลับมาห่มผ้าเหลือง เพราะศรัทธาชาวบ้าน สิ้นสุดคุมประพฤติ

สำหรับบรรยากาศที่วัดอ้อน้อย จ.นครปฐม ยังเป็นไปด้วยความปกติ หลังจากที่ อดีตพระพุทธะอิสระ หรืออดีตพระสุวิทย์ ธีรธัมโม ผู้ก่อตั้งวัดอ้อน้อย (ธรรมอิสระ) อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม และอดีตแกนนำ กปปส. ออกมาให้ความชัดเจนว่า จะกลับมาบวชอีกครั้งในวันที่ 5 ธ.ค.62 นี้ โดยให้เหตุผลของการกลับมาบวชว่า สิ้นสุดการคุมประพฤติ และได้รับการประกันตัวจากศาล ในคดีทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ตำรวจขณะชุมนุม และเพื่อน้อมถวายเป็นพระราชกุศล แด่ในหลวงรัชกาลที่ 9

โดยเมื่อวานนี้ อดีตพระพุทธะอิสระ ไปเยี่ยมศูนย์ปฏิบัติธรรม และให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน หลังจากที่สื่อมวลชนหลายแห่ง ติดต่อกลับมาและให้ความสนใจกับประเด็นของการกลับมาบวชอีกครั้งหนึ่ง โดยระบุว่า ไมได้ละเมิดต่ออาบัติร้ายแรงจนทำให้ขาดความเป็นพระ จึงไม่ยินดีที่จะกล่าวคำลาสิกขา พร้อมทั้งตั้งใจจะกลับมาห่มผ้าหลืองอีกครั้ง หลังจากมหาเถระสมาคมออกกฎขึ้นมาใหม่ว่า ภิกษุสงฆ์ผู้ต้องโทษอยู่ในขณะควบคุมความประพฤติของทางราชการห้ามกลับมาบวชอีกครั้ง จนกว่าจะหมดเวลาควบคุมความประพฤติ

ขณะที่ คดีดังกล่าวนั้น จะสิ้นสุดการควบคุมความประพฤติลงในวันที่ 29 ต.ค.62 จึงกำหนดการ กลับไปห่มผ้าไตรจีวร ในวันที่ 5 ธ.ค.62 เพื่อน้อมถวายเป็นพระราชกุศลแด่องค์พ่อหลวงรัชกาลที่ 9 ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐยิ่ง และไม่คิดว่าการกลับไปห่มผ้าเหลืองนั้น จะเป็นจุดสนใจของประชาชน เพราะตามหลักพระธรรมวินัย การที่พระภิกษุสงฆ์จะพ้นจากความเป็นพระภิกษุสงฆ์มีเหตุอยู่แค่ 3 ประการ คือ มรณภาพ(ตาย), อาบัติปาราชิก เรียกว่าอาบัติ ร้ายแรง ไม่สามารถกลับเข้ามาเป็นพระได้อีกตลอดชีวิต เช่น ฆ่าคน อวดอุตริมนุสธรรม อันไม่มีอยู่จริง และเสพเมถุน

ทั้งนี้ การกล่าวคำลาสิกขาห่มผ้าเหลืองของอดีตพระพุทธะอิสระนั้น ญาติโยมผู้ศรัทธาทั้งหลายก็มีความหวังความปรารถนาอย่างแรงว่าเมื่อไรอดีตพระพุทธะอิสระจะมาห่มผ้าเหลืองอีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ในวันที่ 27 ต.ค.62 ทางวัดอ้อน้อยจะมีการประชุมคณะสงฆ์ เพื่อเตรียมเสนอเรื่องไปยังสำนักงานพระพุทธศาสนาในการให้อดีตพระพุทธะอิสระกลับมาบวชอีกครั้ง

สำหรับกำหนดการห่มผ้าเหลืองของอดีตพระพุทธะอิสระ จะมีการประชุมสงฆ์นิมนต์พระ มาเป็นพยานยืนยันว่าอดีตพระพุทธะอิสระ มิได้กล่าวลาหรือไม่ และมีการประชุมคณะกรรมการวัดพร้อมญาติโยม เพื่อขอฉันทนาอนุมัติว่ามีข้อขัดข้องใดหรือไม่ ที่อดีตพระพุทธะอิสระจะห่มผ้าเหลือง และทางวัดอ้อน้อยมีการกำหนดการห่มผ้าเหลืองเวลา 9.00 น. จะมีการรับผ้าไตรจากญาติโยม และนำผ้าไตรเข้าพระอุโบสถ ท่ามกลางองค์ประชุมคณะสงฆ์ จากนั้น คณะสงฆ์แสดงความปาริสุทธิศีล เพื่อให้คณะสงฆ์ได้รับทราบและยอมรับเข้าหมู่พร้อมเปล่งวาจา เมื่อคณะสงฆ์ยอมรับจึงออกไปห่มผ้าไตรแล้วกลับมากล่าวคำบูชาพระรัตนตรัย ถ้ามีการแสดงอาบัติพร้อมขอปลงอาบัติกับคณะสงฆ์ เป็นการจบวิธีของกำหนดการห่มผ้าเหลืองของอดีตพระพุทธะอิสระ