TNN online สุดเวทนา! ด.ช.วัย 13 ถูกพ่อแม่ล่าโซ่ที่ขาปล่อยหิวโซ ต้องคุ้ยขยะหาข้าวกิน

TNN ONLINE

ภูมิภาค

สุดเวทนา! ด.ช.วัย 13 ถูกพ่อแม่ล่าโซ่ที่ขาปล่อยหิวโซ ต้องคุ้ยขยะหาข้าวกิน

สุดเวทนา! ด.ช.วัย 13 ถูกพ่อแม่ล่าโซ่ที่ขาปล่อยหิวโซ ต้องคุ้ยขยะหาข้าวกิน

เจ้าหน้าที่ตำรวจ และ เจ้าหน้าที่พัฒนาสังคม เข้าช่วย ด.ช.วัย 13 ปี ชาวจ.สตูล หลังถูกพ่อแม่ล่ามโซ่ที่ขาในสภาพผอมโซ

วันนี้ (25 ก.ย.62) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.ประสิทธิ์  ดำกระบี่ ผกก.สภ.ควนกาหลง พร้อมนางสาววัชรี ศิริ พัฒนาสังคมชำนาญการพิเศษ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสตูล และเจ้าหน้าที่จากบ้านพักเด็กละครอบครัวจังหวัดสตูล พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ รุดไปยังบ้านหลังหนึ่ง ตำบลควนกาหลง อำเภอควนกาหลง จังหวัดสตูล เพื่อเดินทางเข้าไปช่วยเหลือเด็กชายวัย 13 ปีที่ถูกล่ามโซ่ตรึงที่ขาข้างขวา พร้อมกับมีสภาพที่ผอม 

สุดเวทนา! ด.ช.วัย 13 ถูกพ่อแม่ล่าโซ่ที่ขาปล่อยหิวโซ ต้องคุ้ยขยะหาข้าวกิน

ทันทีเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่จากสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสตูล เข้าช่วยเหลือเด็กไม่มีสภาพที่ไม่ตกใจนั่งอยู่บนเปลห้อยอยู่ใต้ต้นมะข้ามใกล้กับสวนยางพารา โดยขาข้างขวาถูกล่ามโซ่จนสภาพขาเหมือนจะเดินตรงไม่ได้  และห่างจากบ้านประมาณ 100 เมตร ซึ่งพบนางภรนภัส อายุ 47 ปี แม่เลี้ยง กำลังอาบน้ำอยู่บ่อหน้าบ้าน ส่วนนายกิติศักดิ์ อายุ 37 ปี พ่อเด็กชายวัย 13 ปี ได้นอนอยู่ภายในบ้าน เมื่อทางเจ้าหน้าที่ไปถึงก็ตกใจออกมาดู โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ผู้เป็นพ่อไปนำลูกกุญแจมาไขที่ข้อเท้าของเด็ก จากนั้นก็เชิญทั้งสองไปที่สภ.ควนกาหลงทันที

สุดเวทนา! ด.ช.วัย 13 ถูกพ่อแม่ล่าโซ่ที่ขาปล่อยหิวโซ ต้องคุ้ยขยะหาข้าวกิน

เมื่อนำเด็กชายวัย 13 ปีไปถึงสถานีตำรวจ ในสภาพเปื่อนดินก่อนพาขึ้นไปที่ชั้น  2 เมื่อเห็นถังขยะเด็กได้วิ่งเข้าไปรื้อขยะกิน โดยเห็นข้าวกล่องที่เหลือทิ้งนำมาหยิบเข้าปากทันที ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ พมจ.สตูล ก็ได้ซื้อขนมและน้ำมาให้รับประทานจนเกิดการสำลักเพราะความหิวโซ 

สุดเวทนา! ด.ช.วัย 13 ถูกพ่อแม่ล่าโซ่ที่ขาปล่อยหิวโซ ต้องคุ้ยขยะหาข้าวกิน

พ.ต.อ.ประสิทธิ์  ดำกระบี่ ผกก.สภ.ควนกาหลง พร้อมนางสาววัชรี ศิริ พัฒนาสังคมชำนาญการพิเศษ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสตูล และเจ้าหน้าที่จากบ้านพักเด็กละครอบครัวจังหวัดสตูล ได้ประชุมโดยจะพาเด็กชายวัย 13 ไปตรวจสภาพร่างกาย และนำไปดูแลสภาพจิตใจที่บ้านพักเด็กและคนชราจังหวัดสตูลก่อน และจะสอบปากคำพ่อและแม่เลี้ยง รวมทั้งแม่แท้ๆ ของเด็ก เนื่องจากได้เลิกรากับพ่อของเด็กไปนานแล้ว โดยพ่อของเด็กจึงต้องเลี้ยงลูกชายและลูกของแม่เลี้ยงอีก 1 คน

อย่างไรก็ตาม การกระทำดังกล่าวเป็นการทารุณกรรมในการล่ามโซ่ที่ขาขวาเด็กแม้ว่าเด็กมีจะความพิการทางรายกายและสมองก็ไม่ควรทำแบบนี้ 


ข่าวแนะนำ