TNN ไขข้อข้องใจ "ตาปลา" คืออะไร เปิดสาเหตุ อาการ และวิธีการดูแลเบื้องต้น

TNN

Health

ไขข้อข้องใจ "ตาปลา" คืออะไร เปิดสาเหตุ อาการ และวิธีการดูแลเบื้องต้น

ไขข้อข้องใจ ตาปลา คืออะไร เปิดสาเหตุ อาการ และวิธีการดูแลเบื้องต้น

ไขข้อข้องใจ "ตาปลา" คืออะไร เปิดสาเหตุ อาการ และวิธีการดูแลเบื้องต้น

เคยไหม? รู้สึกเจ็บตื้อๆ บริเวณเท้า มองดูแล้วพบตุ่มแข็งๆ คล้ายหูด แต่มีขนาดใหญ่กว่าเจ้าสิ่งนี้คือ "ตาปลา" ปัญหากวนใจที่พบได้บ่อย เกิดจากการเสียดสีซ้ำๆ ส่งผลให้ผิวหนังหนาตัวขึ้น ซึ่งบทความนี้พาทุกคนไปรู้จักกับสาเหตุ อาการ และวิธีการดูแลเกี่ยวกับตาปลาเบื้องต้น เพื่อให้สามารถรับมือกับปัญหานี้ได้อย่างถูกต้อง และเหมาะสมยิ่งขึ้น


ตาปลา คืออะไร?

ตาปลา คือ ความผิดปกติทางผิวหนังชนิดหนึ่ง ที่เกิดการหนาตัวขึ้น มักมีลักษณะแข็งเป็นก้อน และส่วนมากจะเกิดขึ้นบริเวณเท้า ฝ่าเท้า และนิ้วเท้า โดยการเป็นตาปลาไม่อันตราย แต่ก็สามารถสร้างความรำคาญให้แก่ผู้ที่เป็นได้ไม่น้อย และในบางครั้งอาจสร้างความเจ็บปวดได้อีกด้วย


สาเหตุของโรคตาปลา

• การเสียดสีหรือกดทับบริเวณผิวหนังที่เดิมซ้ำๆ

• การใส่รองเท้าที่คับเกินไป หรือหลวมเกินไป

• การเดินหรือยืนนานๆ 

• โครงสร้างของเท้าผิดปกติ เช่น นิ้วเท้าคด กระดูกเท้าผิดรูป เป็นต้น

• ผิวหนังแห้ง ขาดความชุ่มชื้นเป็นเวลานาน 


อาการของโรคตาปลา

• รู้สึกเจ็บหรือปวดตื้อบริเวณที่เป็น

• ผิวหนังบริเวณนั้นหนาและแข็งขึ้น

• มีตุ่มนูนขึ้นมา

• ผิวหนังบริเวณที่นูนอาจลอกเป็นขุย


วิธีการดูแลเบื้องต้น

• แช่น้ำอุ่น ผสมเกลือ Epsom 15-20 นาที วันละ 2-3 ครั้ง

• ทายา เช่น ยาทาแผ่นแปะยา ยาทาครีม ยาหยอด

• ใช้หินขัดส้นเท้า ขัดผิวหนังที่หนาและแข็งออกอย่างเบามือ

• ใส่แผ่นแปะกันตาปลา

• ทาครีมบำรุงผิวเท้า เป็นประจำ


ข้อควรระวัง

• ไม่ควรแคะ แกะ เกา หรือตัดตาปลาด้วยตัวเอง เพราะอาจทำให้เกิดการติดเชื้อรุนแรงขึ้นได้

• ไม่ควรใช้ยาที่มีกรดซาลิไซลิกความเข้มข้นสูง เพราะอาจทำให้ผิวหนังระคายเคือง จนเกิดการแสบคันได้

• ไม่ควรใช้ยาโดยไม่ปรึกษาแพทย์


เมื่อไหร่ควรไปพบแพทย์?

• ตาปลาไม่หายไปด้วยวิธีการดูและรักษาเบื้องต้น

• ตาปลาอักเสบ บวม แดง หรือมีหนอง ซึ่งอาจเสี่ยงติดเชื้อ

• ตาปลาอยู่บริเวณที่เสียดสีหรือกดทับ สร้างความเจ็บปวดมากกว่าปกติ


ที่มาข้อมูล : โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์, pobpad

ข่าวแนะนำ