TNN online "สีประจำเดือน" บอกโรคได้จริงหรือ เลือดออกผิดปกติแบบไหนที่ต้องระวัง?

TNN ONLINE

Health

"สีประจำเดือน" บอกโรคได้จริงหรือ เลือดออกผิดปกติแบบไหนที่ต้องระวัง?

สีประจำเดือน บอกโรคได้จริงหรือ เลือดออกผิดปกติแบบไหนที่ต้องระวัง?

สีเลือดประจำเดือนบอกโรคได้จริงหรือ เลือดออกผิดปกติแบบไหนที่ต้องระวัง สาเหตุของประจำเดือนที่ผิดปกติอาจเกิดจากอะไร?

สีเลือดประจำเดือนบอกโรคได้จริงหรือ เลือดออกผิดปกติแบบไหนที่ต้องระวัง สาเหตุของประจำเดือนที่ผิดปกติอาจเกิดจากอะไร?


จากกรณีที่มีการบอกต่อข้อมูลโดยระบุว่า สีเลือดของประจำเดือนสามารถบอกโรคได้ ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงกับโรงพยาบาลราชวิถี กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข พบว่า อาการผิดปกติของสีเลือดประจำเดือนสามารถบอกข้อมูลภาวะของโรคบางส่วนได้แต่จำเป็นต้องพิจารณาองค์ประกอบอื่น เช่น ปริมาณ ระยะเวลาการมีประจำเดือน ดังนั้นการพิจารณาแต่สีของเลือดประจำเดือนไม่น่าจะเพียงพอในการบอกความผิดปกติและสาเหตุของโรค

ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากโรงพยาบาลราชวิถี กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.rajavithi.go.th หรือโทร. 02 206 2900

บทสรุปของเรื่องนี้คือ : การพิจารณาแต่สีของเลือดประจำเดือนไม่น่าจะเพียงพอในการบอกความผิดปกติและสาเหตุของโรค



ประจำเดือนไม่ใช่เลือดเสีย และสีของประจำเดือนสามารถเปลี่ยนแปลงได้ 

ข้อมูลจาก อ.พญ.แสงศุลี ธรรมไกรสร ภาควิชาเวชศาสตร์ครอบครัว คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล โดย Rama Channel  ได้เผยแพร่ข้อมูลไว้ดังนี้


ประจำเดือน คืออะไร

เลือดและเนื้อเยื่อบุโพรงมดลูกที่หลุดออกมาทุกรอบเดือนของผู้หญิง ซึ่งจะแตกต่างกันไปในแต่ละคน ส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นทุก 21-35 วัน แต่ละรอบจะอยู่นาน 3-7 วัน การที่เราต้องมีการสร้างเนื้อเยื่อโพรงมดลูกใหม่เสมอก็เพื่อให้พร้อมต่อการฝังตัวของตัวอ่อน จึงทำให้เกิดวงโคจรของประจำเดือนแบบนี้ขึ้นมา ซึ่งก็จะขึ้นๆ ลงๆ ตามระดับของฮอร์โมนเพศด้วย


หลายคนจะเข้าใจว่าการที่มีประจำเดือน คือ การมีเลือดเสีย

และเมื่อตอนไหนประจำเดือนออกมาน้อย หรือว่านานๆ มีที ก็จะเกิดความกังวลว่าเราจะมีเลือดเสียคั่งในร่างกายหรือปล่าว ซึ่งตรงนี้แพทย์ย้ำมาว่าเป็นเรื่องที่ “ไม่จริง” ประจำเดือนไม่ใช่เลือดเสีย ประจำเดือน คือ เยื่อบุโพรงมดลูกที่ไม่ได้ใช้งานของรอบที่แล้ว เลยลอกหลุดออกมาพร้อมเลือดเท่านั้นเอง


สำหรับบทความของสีประจำเดือนบอกโรคที่เผยแพร่ออกมาในโลกอินเตอร์เน็ตนั้น ต้องบอกว่าเป็นข้อมูลที่ไม่เป็นความจริง

เพราะโดยปกติสีประจำเดือนก็จะเปลี่ยนไปไม่เหมือนกันในแต่ละครั้งแต่ละเดือนอยู่แล้ว ขึ้นอยู่กับความเก่าใหม่ของเลือดมากกว่า ถ้าหากเลือดออกมาในช่วงต้นๆ ที่จะออกมาเยอะเลือดก็จะเป็นสีแดงสด หากเข้าสู่ช่วงท้ายของประจำเดือนสีก็จะเข้มขึ้น เพราะว่าการไหลของเลือดจะลดลง รวมถึงมีเลือดค้างอยู่ในเยื่อบุโพรงมดลูก เมื่อถึงช่วงระยะเวลาหนึ่ง เมื่อเลือดสัมผัสกับอากาศก็จะเปลี่ยนเป็นสีคล้ำขึ้นได้

เพราะฉะนั้นช่วงท้ายๆ ของประจำเดือนก็จะมีสีที่เข้มขึ้นได้เป็นเรื่องปกติ เพราะฉะนั้นจึงสรุปได้ว่า สีของประจำเดือนขึ้นอยู่กับปริมาณเลือดและเยื่อบุที่หลุดลอกออกมามากกว่าที่จะไปสัมพันธ์กับโรคอะไรต่างๆ นานาเหล่านั้น


สิ่งที่เราควรสังเกตเกี่ยวกับประจำเดือน คือ

-ปริมาณเลือดที่ออก ตามปกติเลือดที่ออกมาจะมีปริมาณไม่มากนัก แต่หากท่านใดพบว่าต้องเปลี่ยนผ้าอนามัยทุก 2 ชม. อันนี้คือปริมาณเลือดออกมาเยอะจนเกินไปอาจมีความผิดปกติแนะนำให้มาตรวจกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับนรีเวช

-เลือดที่ออกมามีลักษณะเป็นก้อนเลือด เป็นลิ่มๆ สีแดงสด แดงเข้ม แดงคล้ำ อันนี้อาจเกิดความผิดปกติเช่นกันแนะนำให้มาตรวจกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับนรีเวช

-ความสม่ำเสมอของรอบเดือน ที่ต้องมาทุก 21-35 วัน ไม่มาเร็วกว่า 21 วัน หรือมาช้ากว่า 35 วัน


สาเหตุของประจำเดือนที่ผิดปกติอาจเกิดจาก

-ความเครียด ความวิตกกังวล

-อาหาร การอดอาหาร น้ำหนักที่เพิ่มหรือลดลงเร็วเกินไป

-การรับประทานยาคุมกำเนิด

-การเจ็บป่วยทางนรีเวช เช่น เนื้องอกในมดลูก ติ่งเนื้อในโพรงมดลูก โรคถุงน้ำในรังไข่ การตั้งครรภ์ ภาวะไข่ล้มเหลวก่อนวัยอันควร


เลือดออกผิดปกติแบบไหนที่ต้องระวังมากเป็นพิเศษ

-เลือดออกมากหลังมีเพศสัมพันธ์ เสี่ยงเป็นมะเร็งปากมดลูก

-ประจำเดือนขาดเกิน 3 เดือน(ไม่ท้อง) เสี่ยงเป็นไข่ไม่ตกเรื้อรัง ไทรอยด์

-เลือดออกกระปริดกระปรอย ไม่เป็นรอบ เสี่ยงเป็น มะเร็งปากมดลูก





ขอบคุณข้อมูลจาก Rama Channel / ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม

ภาพจาก AFP/TNN Online

ข่าวแนะนำ