"เคน&ซน" คู่หูสุดอันตรายด้วยน้ำมือ "เฮียมู"

จากสถิติดังกล่าวของ "เคน-ซน" ทำให้เป็นคู่หูที่ปั้นกันและกันมากสุดเป็นอันดับ 2 ในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก โดยเป็นรองแค่ แฟร้งค์ แลมพาร์ด กับ ดีดิเย่ร์ ดร็อกบา ทำไว้รวมกัน 36 ประตูสมัยค้าแข้งกับเชลซี

โดย 5 อันดับคู่หูที่ประสานงานกันทำประตูมากสุดตลาดการในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ

36 - ดีดีเย่ร์ ดร็อกบา กับ แฟร้งค์ แลมพาร์ด (เชลซี)

31 - แฮร์รี่ เคน กับ ซน ฮึง มิน (สเปอร์ส)

29 - ดาบิด ซิลบา กับ เซร์คิโอ "กุน" อเกวโร่ (แมนฯ ซิตี้)

29 - โรแบร์ ปิแรส กับ เธียร์รี่ อองรี (อาร์เซน่อล)

27 - ดาร์เรน แอนเดอร์ตัน กับ เท็ดดี้ เชอริงแฮม (สเปอร์ส)

จาก 31 ลูกที่คู่หู "เคน-ซน" ทำได้นั้นเป็น 11 ลูกในซีซั่นนี้ซึ่งเกิดจากการเล่น 11 เกม

นอกจากนี้หนึ่งประตูที่ อาซน ทำได้ในเกมทุบปืนใหญ่ยังทำให้ดาวเตะโสมขาวทำประตูในลีก ได้ถึง 10 ลูกก่อนแฮร์รี่ เคน เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ย้ายมาร่วมทีมสเปอร์สเมื่อปี 2015 โดยล่าสุด ซน ยิง 10 จ่าย3 ส่วนเคน ยิง 8 จ่าย10

ขณะที่ 1 ประตูของแฮร์รี่ เคน ทำให้เขากลายเป็นเป็นดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลในศึกนอร์ท ลอนดอน ดาร์บี้ (สเปอร์ส พบ อาร์เซน่อล) ที่ 11 ประตูจาก14นัดรวมทุกรายการ

นอกจากนี้ยังเป็นประตูที่ 250 ของคนในอาชีพการค้าแข้งทั้งกับสโมสรและทีมชาติ แบ่งเป็นกับสเปอร์ส 202 ประตู , มิลล์วอลล์ 9 ประตู , เลย์ตัน โอเรียนท์ 5 ประตู , เลสเตอร์ 2 ประตู และทีมชาติอังกฤษ 32 ลูก และยังเป็นประตูที่ 100 ของเคนที่ยิงในบ้านให้กับสเปอร์สรวมทุกรายการด้วย

เท่านั้นไม่พอ 1 แอสซิสต์ของ เคน ที่จ่ายให้ ซน ยิงในเกมเมื่อวันอาทิตย์ ทำให้ เคน เป็นนักเตะคนแรกใน 5 ลีกดังยุโรป ที่ทำแอสซิสต์ในเกมลีกซีซั่นนี้ไปแล้วถึง 10 ครั้งจากการลงเล่น 11เกมเท่านั้น และนับเป็นการทำ 10 แอสซิสต์ที่เร็วที่สุดของพรีเมียร์ลีก เทียบเท่ากับที่เมซุต โอซิล เคยทำได้กับอาร์เซน่อลเมื่อซีซั่น 2015-16

โดยทำเนียบนักเตะที่ทำ 10 แอสซิสต์ เร็วสุดในพรีเมียร์ลีก 6 ซีซั่นหลังสุดประกอบด้วย

2015-16 เมซุต โอซิล (11นัด)

2016-17 คริสเตียน เอริคเซ่น (25นัด)

2017-18 เควิน เดอ บรอยน์ (24นัด)

2018-19 เอแดน อาซาร์ (21นัด)

2019-20 เควิน เดอ บรอยน์ (17นัด)

2020-21 แฮร์รี่ เคน (11 นัด)

จากที่เคยค่อนขอด โชเซ่ มูรินโญ่ ว่าเป็นเจ้าพ่อรถบัส ถึงคราวที่คงต้องเปลี่ยนมุมมองกันใหม่ได้แล้ว

โอเคว่า "เฮียมู" ยังคงเน้นสไตล์รัดกุมตามแบบฉบับงานถนัดเพียงแต่กับสเปอร์สซีซั่นนี้เขาใส่เกมโต้กลับที่ดุดันเด็ดขาดเสริมเข้าไป เกมนี้ที่ต้องเปิดเกมบุก "ไก่เดือยทอง" ตัวนี้ก็เล่นได้อย่างดุดัน ไหลลื่น

ถามว่าทำไมเกมรุกแบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นที่แมนฯ ยูไนเต็ดสมัยกุนซือโปรตุกีสคุมทัพ

คำตอบคือตัวนักเตะ

อย่างที่บอกเฮียมูนัดเกมรับกุมซึ่งไม่ใช่เน้นแต่แผงหลังที่ต้องแน่น แดนกลางตัวตัดเกมต้องเป็นผึ้งงานคอยปัดกวาดให้คู่เซนเตอร์ก่อน

ที่ยูไนเต็ดเฮียมูไม่สามารถหาได้จากนักเตะอย่างไมเคิล คาร์ริค, ปอล ป็อกบา, อันเดร เอร์เรร่า, เนมานย่า มาติช รวมทั้ง สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ แต่ที่สเปอร์สซีซั่นนี้ซึ่งเป็นซีซั่นที่เขาได้คุมเต็มตัวเขาหวังได้จาก ปิแอร์-เอมิล ฮอยเบิร์ก ทำให้เขาไม่จำเป็นต้องถอยตัวรุกลงมาต่ำเกินความจำเป็น

ที่เรอัล มาดริด เขามี ซามี่ เคดิร่า เป็นผึ้งงานจนทำให้ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ยิงไป 120 ประตู กับ 33 แอสซิสต์ จาก 106 เกม ขณะที่ คาริม เบนเซม่า ซัดไป 47 ประตู กับ 23 แอสซิสต์ จาก 97 เกม

จากตัวเลขข้างบนของซน ฮึง มิน และ แฮร์รี่ เคน บ่งบอกได้ดีว่า เฮียมูกำลังสร้างทั้งคู่ให้เป็นยอดดาวยิงพร้อมๆกัน

โชเซ่ มูรินโญ่ กำลังป่าวประกาศว่าเขาเป็น "เจ้าพ่อรถบัสสายบันเทิง" ไม่ใช่สายจอด!

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ดุเดือด! นักข่าวชื่อดังเฉ่งโอซิลพร้อมเปรียบเป็นป็อกบาของอาร์เซน่อล

มองจากผลงาน! นอยเออร์ชูเมนดี้ขึ้นแท่นโกลเวิลด์คลาส

ยอมรับในโชคชะตา! "ลินการ์ด"เก็บกระเป๋าเตรียมย้ายจากแมนยู ช่วงมกราคมนี้ 

เกาะติดข่าวที่นี่