TNN online ตำแหน่งอาถรรพ์ของ 'แมนยู' ที่บอร์ดบริหารมองข้ามมาโดยตลอด

TNN ONLINE

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

ตำแหน่งอาถรรพ์ของ 'แมนยู' ที่บอร์ดบริหารมองข้ามมาโดยตลอด

ตำแหน่งอาถรรพ์ของ 'แมนยู' ที่บอร์ดบริหารมองข้ามมาโดยตลอด

จากผลงานชนะ 4 เกมรวดของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มันสะท้อนให้เห็นประสิทธิภาพของผู้เล่นหลายคน โดยเฉพาะแดนกลาง ที่ก่อนหน้านี้เป็นจุดอ่อนของทีมมาโดยตลอด กลางสนามของ ยูไนเต็ด ในยุคของ เอริค เทน ฮาก ลงตัวมากขึ้น

ซึ่งจะว่าไปในตำแหน่งมิดฟิลด์นี่แหละที่ว่ากันว่าเป็นตำแหน่งที่บอร์ดบริหารของทัพ ปีศาจแดง มองข้ามมากที่สุดมาตั้งแต่สมัยของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสันแล้ว โดยหลังหมดยุค เฟอร์กี้ แทบจะไม่มีมิดฟิลด์หน้าใหม่รายไหนเลยที่ยืนหยัด ยืนระยะได้จนเป็นตำนานของถิ่น โอแทรฟฟอร์ด


ในยุคของเซอร์ อเล็ก เฟอร์กูสัน เราแทบจะนึกถึงคู่มิดฟิลด์คู่กลาง เป็นใครไปไม่ได้ เลยนอกจาก พอล สโคลส์ และ และ รอย คีน โดยมี นิคกี้ บัตต์ เป็นตัวสอดแทรก ส่วนในยุคหลังก็มี ไมเคิล คาร์ริค ,ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ ที่พอจะจดจำผลงานกันได้ ส่วนที่เหลือนั้นแทบไม่ปรากฏความทรงจำใดๆในรั้ว โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด 


ในช่วงทศวรรษสุดท้ายของ เฟอร์กูสัน ในฐานะผู้จัดการทีมแมนฯ ยูไนเต็ด สโมสรหยุดเสริมความแข็งแกร่งในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวกลางทั้งที่ เฟอร์กูสัน เป็นฝ่ายร้องขอกับบอร์ดบริหาร แต่สุดท้ายไม่สำเร็จ โดยเป้าหมายที่ตกเป็นข่าวกับ แมนยู ณ ตอนนนั้น ก็มีอย่าง ลูก้า โมดริช ,ดาบิด ซิลบา รวมไปถึง มุสซ่า เดมเบเล่


อย่างไรก็ตาม เฟอร์กี้ ก็ใช้ผู้เล่นอย่าง ทอม เคลฟเวอร์ลี่ย์ และ แอนแดร์สัน ในตำแหน่งกองกลาง หรือแม้แต่ ราฟาเอล ดา ซิลวา ที่เป็นฟูลแบ็ค ก็เคยถูก ป๋า จับเล่นกองกลางมาแล้ว เพราะบอร์ดบริหารมองว่าไม่จำเป็น เช่นเดียวกับ ไรอัน กิ๊กส์ ที่เคยเล่นกองกลางกับ พอล สโคลส์ แม้ว่าจะไม่บ่อยนัก


ในช่วงระหว่างปี 2003 ถึง 2012 เฟอร์กูสัน เซ็นสัญญากับมิดฟิลด์ตัวกลางเพียง 8 คนสำหรับทีมชุดใหญ่ของแมนฯ ยูไนเต็ด อันประกอบไปด้วย เคลแบร์สัน ,เอริค เฌมบ้า-เฌมบ้า ,เลียม มิลเลอร์  ,ไมเคิ่ล คาร์ริค ,แอนแดร์สัน ,ชินจิ คากาวะ และ นิค พาว


ซึ่งจากรายชื่อที่พูดมาก็น่าจะมีเพียง ไมเคิล คาร์ริค คนเดียวเท่านั้นที่ถือว่าประสบความสำเร็จ โดย คาร์ริค ผ่านการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกและแชมเปี้ยนส์ลีก มาแล้ว ซึ่งที่ผ่านมามิดฟิลด์คู่กลางคือปัญหาที่ของ ยูไนเต็ด ที่ถูกมองข้ามมาโดยตลอด ซึ่งไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่ซื้อนักเตะใหม่เข้ามาเลย แต่พวกนักเตะที่เข้ามาในตำแหน่งนี้ ก็มักจะโดนอาถรรพ์ ยืนระยะไม่ได้เสียเป็นส่วนใหญ่ 

 

ทั้ง บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ ,มอร์กก็อง ชไนเดอร์แลง ,อันเดร์ เอร์เรร่า ,ปอล ป็อกบา ,มารูยาน เฟลไลนี่ รวมไปถึง เฟร็ด และแม้ว่าจะศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาลนี้จะเพิ่งออกสตาร์ทไปเพียงแค่ 6 เกม แต่วินาทีนี้ดูเหมือนว่า เอริค เทน ฮาก จะเจอแพ็คกองกลางในอุดมคติแล้ว และเป็นไปได้สูงเหลือเกินที่แฟนๆอาจจะไม่ได้เห็นการจับคู่กันของเฟร็ด กับ สก๊อต แม็กโทมิเนย์ อีกต่อไปจากการเข้ามาของ คาเซมิโร่ และ คริสเตียน เอริคเซ่น


โดยเกมล่าสุดที่ ปีศาจแดง เปิดบ้านต้อน  อาร์เซนอล เอริคเซ่น แสดงให้เห็น ถึงคุณภาพและคลาสฟุตบอลที่สุดแสนจะนิ่มนวลแต่แฝงไปด้วยความอันตราย เอริคเซ่น มีสถิติจ่ายบอลเข้าเป้ามากที่สุดของ ยูไนเต็ด ด้วยจำนวน 41 ครั้ง และยังมีส่วนร่วมกับประตูที่ 2 ของ ยูไนเต็ด ที่ยิงใส่ อาร์เซนอล ด้วย จากการจ่ายบอลอย่างชาญฉลาดให้ บรูโน่ ก่อนที่ บรูโน่ จะจ่ายให้ มาร์คัส แรชฟอร์ด หลุดไปยิงประตู


 อีริคเซ่น มีสถิติอยู่ใน 15 อันดับแรกของมิดฟิลด์ที่จ่ายบอลแนวลึกแม่นยำมากที่สุด ซึ่งนั่นคือสิ่งที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ขาดหายไปเป็นระยะเวลานาน โดยหลังจบเกมกับ อาร์เซน่อล เอริค เทน ฮาก ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงคุณภาพฟุตของ เอริคเซ่น ว่า 

 

“เราทำให้ เอริคเซ่น มีบทบาทการเล่นที่หลากหลายมากขึ้น เขาสามารถเล่นได้ทั้งบทบาท หมายเลข 6  และหมายเลข 8 เขามีอิสระมากมาย ที่เหลือก็คือการปรับตัว เอริคเซ่น เป็นผู้เล่นที่สามารถเปลี่ยนเกมได้”

 

“เขาเล่นบอลระหว่างไลน์ได้เยี่ยม และออกบอลได้เปรียบ เอริคเซ่น ยังต้องปรับปรุงเรื่องเกมรับ  เขายังมีความผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ อยู่ แต่สำหรับเกมนี้ เขาทำได้ยอดเยี่ยมมากๆ"


ในขณะที่ผู้สันทัดกรณีรวมไปถึงบรรดานักวิเคราะห์ลูกหนังจากแดนผู้ดีวิเคราะห์เอาไว้อย่างน่าสนใจว่า เอริคเซ่น เป็นผู้เล่นที่ ยูไนเต็ด กำลังตามหาอย่างแท้จริง โดยสามารถทำหน้าที่ในแบบของ รอย คีน ,ไมเคิล คาร์ริค รวมไปถึง พอล สโคลส์ ด้วยคาแรคเตอร์ของตัวเอง


นอกจากนี้เครื่องหมายการค้าของจอมทัพรายนี้ก็คือการออกบอล ทุกการจ่ายจากปลายสตั๊ด เอริคเซ่น มักจะทำให้เพื่อนร่วมทีมได้เปรียบและมักจะสร้างปัญหาให้บรรดาคู่แข่งอยู่เสมอ


การเข้ามาของ เอริคเซ่น ช่วยยกระดับแนวรุกของ ปีศาจแดง อย่างเห็นได้ชัด เขาเองทำให้ มาร์คัส แรชฟอร์ด มีโอกาสยิงประตูต่อเกมมากขึ้น จากเดิมที่มีค่าเฉลี่ยโอกาสยิง 4 ครั้งต่อ 1 เกม แต่พอมี อีริคเซ่น ในเกมล่าสุด แรชฟอร์ด มีโอกาสสับไกถึง 7 ครั้งและเปลี่ยนได้เป็น 2 ประตู


นอกจากนี้ เอริคเซ่น ยังทำให้ บรูโน่ เล่นได้อย่างมีชีวิตชีวาและสามารถสร้างสรรค์เกมรุกได้อย่างเต็มที่ โดยมิดฟิลด์ชาวโปรตุเกส สามารถพุ่งเข้าไปในพื้นที่อันตรายได้มากขึ้นเมื่อมี เอริคเช่น รอคุมจังหวะอยู่ข้างหลัง


ซึ่งประตูที่ บรูโน่ ซัดประตูชัยใส่ เซาท์แธมป์ตันเมื่อสัปดาห์ก่อน ก็แสดงให้เห็นแล้วว่า บรูโน่ ก็มีความอันตรายมากขึ้นเช่นเดียวกัน จากการเข้ามาของ เอริคเซ่น 


ดีลของ เอริคเซ่น นอกจากจะเป็นการซื้อขายที่ประสบความสำเร็จในแง่ของแท็กติกที่ตอบโจทย์ระบบของ เทน ฮาก แล้ว ยังเป็นดีลสุดคุ้มในรอบหลายๆปีของ ยูไนเต็ด เลยก็ว่าได้


เพราะอย่าลืมไปว่า ปีศาจแดง ไม่ต้องเสียเงินแม้แต่บาทเดียวกับการคว้า คริสเตียน เอริคเซ่น มาร่วมทีม ที่สิ่งที่ เอริคเซ่น มอบให้กับ แมนยู ในช่วง 6 เกมแรก ต้องยอมรับว่าคัมเกินคุ้ม


ที่มาภาพ : AFP

ข่าวแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง