เอลนีโญ พ่นพิษ! ภาพรวม "ฝน" ปี 2566 น้อยกว่าค่าเฉลี่ย 6%

กรมชลประทาน เผย ปรากฎการณ์เอลนีโญ ส่งผลให้ปริมาณฝนในปีนี้น้อยกว่าค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 6 % ซึ่งภาพรวมน้ำกักเก็บทั่วประเทศอยู่ที่ 79 % ใกล้เคียงกับปีก่อนหน้า 

นายธเนศร์ สมบูรณ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารจัดการน้ำและอุทกวิทยา กรมชลประทาน เปิดเผย ภาพรวมฝนในปี 2566 น้อยกว่าค่าเฉลี่ยร้อยละ 6 ซึ่งสาเหตุเกิดจากปรากฏการณ์เอลนีโญค่อนข้างรุนแรง ทำให้ช่วงต้นฤดูฝนมีปริมาณฝนน้อย และฝนเพิ่มขึ้นในในช่วงเดือนกันยายนถึงตุลาคม ส่งผลให้ 4 เขื่อนหลัก ได้แก่ เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ กลับมามีน้ำกักเก็บถึง 12,000 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งมากกว่าที่ได้มีการคาดการณ์เอาไว้ถึงเกือบเท่าตัว  

ทั้งนี้ ทำให้กรมชลประทานสามารถวางแผนบริหารจัดการน้ำฤดูแล้งในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2566 ไปจนถึงกุมภาพันธ์ 2567 โดยอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่จำนวน 35 แห่งในขณะนี้ มีปริมาณน้ำเก็บกักอยู่ที่ร้อยละ 79 น้อยกว่าปีก่อนที่มีอยู่ที่ร้อยละ 82

แต่หากดูปริมาณน้ำกักเก็บแนกเป็นพื้นที่จะพบว่า 4 เขื่อนหลักลุ่มภาคกลาง ยังคงมีน้ำน้อยกว่าปีที่ผ่านมาราว 2,000 ล้านลูกบาศก์เมตร ขณะที่อ่างเก็บน้ำในภาคอีสานตอนบนมีปริมาณน้ำเกินร้อยละ 80 จึงทำให้สามารถเพาะปลูกนาปรังได้ จะมีเพียงพื้นที่ของอีสานล่างเพียงเท่านั้น ที่ได้รับผลกระทบจากปรากฏการณ์ของเอลนีโญ ทำให้มีฝนน้อย โดยเฉพาะ จ.นครราชสีมา อ่างเก็บน้ำในพื้นที่ในขณะนี้ มีน้ำใช้เพียงร้อยละ 60 จากปีที่แล้วที่มีถึงร้อยละ 80 จึงทำให้พื้นที่ดังกล่าวไม่สามารถเพาะปลูกข้าวนาปรังได้

ปัจจุบันถือว่าอยู่ในช่วงของฤดูหนาว จึงคาดว่าสถานการณ์ของฝนในพื้นที่ตอนบนของประเทศจะน้อยลง ดังนั้นการบริหารจัดการน้ำในช่วงนี้จะใช้น้ำจากอ่างเก็บน้ำเป็นหลัก  ซึ่งกรมชลประทานจะบริหารจัดการน้ำโดยเฉพาะน้ำสำหรัยอุปโภคบริโภคไม่ให้ขาดแคลน 

ส่วนในเรื่องของการเกษตรที่ได้มีการเพาะปลูกเกินจากที่คาดการณ์ไว้ อาจจะต้องมีการปรับการระบายน้ำให้เหมาะสม เพราะฝนปีอาจจะล่าช้าอย่างเช่นปีที่ผ่านมา ซึ่งคาดการณ์ว่าจะต้องมีการสำรองน้ำไว้ก่อนช่วงฤดูฝนในปีถัดไปราว 6,000 ล้านลูกบาศก์เมตร เผื่อกรณีของฝนทิ้งช่วงในช่วงเดือนพฤษภาคม 2567  

ภาพจาก AFP