เอลนีโญกระทบ “จะงอยแอฟริกา” เกิดน้ำท่วมหนักหลังแล้งรุนแรง

สำหรับ “จะงอยแอฟริกา” หรือ Horn of Africa ซึ่งเป็นคาบสมุทรในแอฟริกาตะวันออกที่มีแผ่นดินยื่นเข้าไปในทะเลอาหรับหลายร้อยกิโลเมตรและตั้งอยู่ทางด้านใต้ของอ่าวเอเดนสำหรับจะงอยแอฟริกามีเนื้อที่ประมาณ 2 ล้านตารางกิโลเมตร ประกอบด้วย 4 ประเทศ คือ ประเทศเอธิโอเปีย ประเทศเอริเทรียประเทศจิบูตี และประเทศโซมาเลีย ตลอด 4 ปีตั้งแต่ปี 2561-2565 พื้นที่บริเวณจะงอยแอฟริกา รวมถึงประเทศใกล้เคียงอย่าง เคนยา ซูดาน ซูดานใต้และยูกันดา แล้งอย่างรุนแรง สัตว์ป่าล้มตาย เกิดวิกฤตขาดแคลนอาหารอย่างหนัก แต่ล่าสุดเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา วิกฤตสภาพอากาศทำให้ภาวะเอลนีโญรุนแรง องค์การอุตุนิยมวิทยาโลกเคยเตือนไว้ช่วงต้นปี ว่าเอลนีโญจะทำให้พื้นที่บริเวณนี้จากที่เคยแห้งแล้งอย่างหนัก จะฝนตกหนัก และต้องระวังการเกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่ โดยเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา สหประชาชาติ (UN OCHA) ระบุว่า โซมาเลียเกิดฝนตกลงมาหนักที่สุด หลังจากโซมาเลียประสบภัยแล้งครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบ 4 ทศวรรษ เนื่องจากปรากฏการณ์เอลนีโญ และคาดว่าจะมีฝนตกหนักไปจนถึงธันวาคม เช่นเดียวกับที่เคนยา เกิดฝนตกหนักในพื้นที่ทางตะวันออกเฉียงเหนือหลังจากประเทศเจอภัยแล้งติดต่อกันมาหลายปี ซึ่งเกิดจากปรากฏการณ์ธรรมชาติ 2 เหตุการณ์ รวมกัน คือปรากฏการณ์เอลนีโญ และปรากฏการณ์ "อินเดียน โอเชียน ไดโพล" ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวของกระแสน้ำอุ่นในมหาสมุทรอินเดีย ส่งผลให้อุณหภูมิพื้นผิวของมหาสมุทรได้รับผลกระทบ และทำให้ปริมาณน้ำฝนเพิ่มขึ้นจนสูงกว่าค่าเฉลี่ย โดยหลายประเทศในทวีปแอฟริกาน่าเป็นห่วง เหตุผลหนึ่งคือ ความสามารถในการปรับตัวเข้าของคนในทวีปแอฟริกาอยู่ในระดับต่ำ ด้วยปัญหาด้านความยากจน และการที่รัฐบาลในหลายประเทศไม่ค่อยให้ความสำคัญในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศนั่นเอง สำหรับทวีปแอฟริกา เป็นทวีปที่ตกเป็นเหยื่อของภาวะโลกร้อนที่ทั่วโลกเห็นใจ เพราะเป็นทวีปที่สร้างผลกระทบต่อภาวะโลกร้อนน้อยที่สุด แต่กลับเสี่ยงได้รับผลกระทบมากที่สุด