รับมือสภาวะ "ฝนทิ้งช่วง" กรมชลประทานวางแผนบริหารจัดการน้ำ
กรมชลประทาน วางแผนบริหารจัดการน้ำ รับมือสภาวะฝนทิ้งช่วง โดยบูรณาการความร่วมมือกับทุกจังหวัดในการช่วยเหลือประชาชนและขอความร่วมมือเกษตรกรปรับแผนการปลูกข้าวนาปี
กรมชลประทาน วางแผนบริหารจัดการน้ำ รับมือสภาวะฝนทิ้งช่วง โดยบูรณาการความร่วมมือกับทุกจังหวัดในการช่วยเหลือประชาชนและขอความร่วมมือเกษตรกรปรับแผนการปลูกข้าวนาปี
นายทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยถึงภาพรวมปริมาณน้ำในปัจจุบันทั้งเขื่อนขนาดใหญ่และขนาดกลางทั่วประเทศมีทั้งหมด 470 แห่ง ว่า มีปริมาณน้ำ 39,780 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 52 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว(2565) มีปริมาณน้อยกว่า 2,700 ล้านลูกบาศก์เมตร
ทั้งนี้กรมชลประทาน ได้วางแผนบริหารจัดการน้ำ ตาม 12 มาตรการรับมือฤดูฝนปี 2566 หลังจากกรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ช่วงเดือนมิถุนายนถึงปลายเดือนกรกฎาคมฝนนี้ จะเกิดภาวะฝนทิ้งช่วง ขณะที่เดือนสิงหาคมและกันยายนจะมีฝนตกชุก ประกอบกับมีพายุหมุนเขตร้อนพัดผ่านประเทศไทย 1-2 ลูก โดยบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ลุ่มต่ำ ทบทวนเกณฑ์บริหารจัดการน้ำในแหล่งน้ำ เขื่อนระบายน้ำ ซ่อมแซมบำรุงรักษาระบบชลประทาน จนถึงกระบวนการสร้างการรับรู้และประชาสัมพันธ์
นอกจากนี้ในช่วงสิ้นสุดการบริหารจัดการน้ำในช่วงหน้าแล้งที่ผ่านมา กรมชลประทานได้สำรองน้ำ 2 หมื่นล้านลูกบาศก์เมตร พร้อมวางมาตรการจัดสรรน้ำเพื่อการอุปโภค- บริโภค การเกษตร การรักษาระบบนิเวศน์ รวมทั้งประชาสัมพันธ์ให้ท้องถิ่น-ท้องที่ที่มีแหล่งน้ำ กักเก็บน้ำให้มากที่สุด รองรับปรากฎการณ์เอลนีโญ โดยยืนยันว่า แม้จะเกิดภาวะฝนทิ้งช่วงในปีนี้มีน้ำอุปโภค-บริโภคเพียงพอตลอดทั้งปี
ส่วนในบางพื้นที่มีการประกาศเป็นพื้นที่ภัยแล้ง กรมชลประทาน ได้บูรณาการความร่วมมือกับจังหวัด บริหารจัดการน้ำตาม 12 มาตรการรับมือฤดูฝนเพื่อช่วยเหลือประชาชน รวมทั้งแจ้งไปยังโครงการชลประทาน ขอความร่วมมือเกษตรกรปรับเปลี่ยนแผนการเพาะปลูกทำนาปี
สำหรับแผนการเพาะปลูกทำนาปีทั่วประเทศมีประมาณ 16 ล้านไร่ ขณะนี้ได้เพาะปลูกไปแล้ว 6 ล้านไร่ หรือร้อยละ 35 ส่วนของพื้นที่ลุ่มต่ำ-ลุ่มเจ้าพระยา มีการเพาะปลูกไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของพื้นที่ โดยเฉพาะลุ่มเจ้าพระยา มีแผนเพาะปลูก 8 ล้านไร่ ได้เพาะปลูกไปแล้วกว่า 4 ล้านไร่
ภาพจาก TNN ช่อง 16