TNN online ดร.เสรีเผย “ฝนหลงฤดู” ไม่ใช่เรื่องปกติ เตือนธ.ค.นี้ พายุอีก 1 ลูกจ่อเข้าไทย

TNN ONLINE

Earth

ดร.เสรีเผย “ฝนหลงฤดู” ไม่ใช่เรื่องปกติ เตือนธ.ค.นี้ พายุอีก 1 ลูกจ่อเข้าไทย

ดร.เสรีเผย “ฝนหลงฤดู” ไม่ใช่เรื่องปกติ เตือนธ.ค.นี้ พายุอีก 1 ลูกจ่อเข้าไทย

ดร.เสรี ระบุ “ฝนหลงฤดู” ไม่ถือว่าเป็นเรื่องปกติ พร้อมเตือนว่าในช่วงเดือนธันวาคม อาจจะมีพายุอีก 1 ลูก เข้าสู่ประเทศไทย

วันนี้ ( 23 พ.ย. 65 )รศ.ดร. เสรี ศุภราทิตย์ รองประธานกรรมการมูลนิธิสภาเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ระบุถึงสาเหตุที่ทำให้เกิดปรากฏการณ์ฝนหลงฤดู จนทำให้ฝนตกหนักทั่วทุกภาค ตั้งแต่ 22- 25 พ.ย. ว่าปรากฏการณ์ฝนลงฤดูที่เกิดขึ้นนั้นถือว่าไม่ใช่ปรากฏการณ์ที่ปกติ เนื่องจากเดือนพฤศจิกายนมักจะเป็นช่วงที่พื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก จะต้องหมดฝน แต่สำหรับปีนี้ถือว่าเป็นปีที่ไม่ปกติ เพราะอุณหภูมิน้ำทะเลยังคงมีระดับอุณหภูมิที่สูง โดยเฉพาะฝั่งอ่าวไทยและทะเลจีนใต้ จึงทำให้โอกาสเกิดหย่อมความกดอากาศต่ำ เป็นไปได้ง่ายมากยิ่งขึ้น แต่หย่อมความกดอากาศต่ำเหล่านี้ เมื่อขึ้นมาสู่พื้นดินก็จะไม่มีพลังงานมากเพียงพอ ทำให้ฝนที่ตกไม่มีความรุนแรง แต่ก็อาจจะส่งผลให้เกิดปัญหากับพื้นที่ในเขตเมือง โดยเฉพาะพื้นที่ที่ไม่มีเครื่องสูบน้ำ ก็อาจจะเป็นปัญหาในเรื่องของน้ำรอการระบายได้ โดยเชื่อว่ากว่าที่อุณหภูมิของน้ำทะเลจะลดระดับลง น่าจะเข้าสู่ในช่วงของเดือนมกราคม จนถึงเดือนกุมภาพันธ์ 

นอกจากนี้ได้มีการคาดการณ์ว่า ในช่วงของเดือนธันวาคมโดยเฉพาะตั้งแต่วันที่ 3 เป็นต้นไปจะมีการก่อตัวของพายุในทะเลจีนใต้ซึ่งประเทศไทยอาจจะได้รับผลกระทบในช่วงวันที่ 5-6 ธันวาคมโดยพายุปัจจุบันยังคงอยู่ระหว่างการติดตามการก่อตัวและเส้นทางที่จะเคลื่อนที่

โดยมีการคาดการณ์ว่าพายุดังกล่าวน่าจะเคลื่อนที่มาบริเวณของภาคตะวันออก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และเข้าสู่พื้นที่ภาคกลางแต่เนื่องจากยังคงมีมวลความเย็นและอากาศที่แห้งอยู่ จึงทำให้ความรุนแรงของพายุลูกนี้อาจจะไม่รุนแรงมากเท่าใดนัก 

แต่หากพายุดังกล่าวเคลื่อนตัวเข้าสู่พื้นที่ของภาคใต้ ก็อาจจะมีการเพิ่มความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น ทำให้ยังคงต้องจับตาว่าพายุลูกนี้จะเคลื่อนเข้าสู่บริเวณใดของประเทศไทย แต่เชื่อว่า พายุดังกล่าวน่าจะเข้าสู่ประเทศไทยบริเวณพื้นที่ของภาคตะวันออก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และพื้นที่ของภาคกลาง ซึ่งถ้าหากเข้ามาในเส้นทางที่คาดการณ์ไว้ ก็อาจจะส่งผลให้ผลผลิตทางการเกษตรได้รับความเสียหาย

ส่วนปีหน้าอิทธิพลของลานินญ่าจะเบาลง ตั้งแต่เดือนมกราคมเป็นต้นไปทำให้จะเป็นปีที่ฝนไม่ค่อยจะดีมากนัก โดยฝนจะมีปริมาณน้อยกว่าปกติเล็กน้อย ซึ่งถือว่ายังโชคดีที่ในปีนี้มีการกักเก็บน้ำไว้ได้เป็นปริมาณมาก ซึ่งหากบริหารจัดการได้เป็นอย่างดี ก็เชื่อว่าแล้งในปีนี้จะยังไม่มีปัญหาสถานการณ์ของภัยแล้งแต่อย่างใด แต่ปัญหาภัยแล้งจะเริ่มเห็นผลในช่วงของเดือนมกราคม 2567 เป็นต้นไป โดยเฉพาะพื้นที่นอกเขตชลประทาน ที่อาจจะได้รับผลกระทบอย่างหนัก

ภาพจาก  : AFP

ข่าวแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง