กำลังการผลิตคุณภาพสูงใหม่ ... การเปลี่ยนเลนส์แซงครั้งใหญ่ของจีน (ตอน 2) โดย ดร.ไพจิตร วิบูลย์ธนสาร
กำลังการผลิตคุณภาพสูงใหม่ ... การเปลี่ยนเลนส์แซงครั้งใหญ่ของจีน (ตอน 2) โดย ดร.ไพจิตร วิบูลย์ธนสาร รองประธานและเลขาธิการหอการค้าไทยในจีน
จากประสบการณ์ของผม จีนตั้งเป้าหมายใหม่ของการพัฒนาที่ท้าทายยิ่งขึ้นอยู่ตลอดเวลา อาทิ การกำหนดเป้าหมายการลงทุนในนวัตกรรมและการวิจัยขั้นพื้นฐานเป็น 7% ของมูลค่าการวิจัยและพัฒนาโดยรวม ณ สิ้นแผนพัฒนา 5 ฉบับที่ 14 (2025)
ขณะเดียวกัน เป้าหมายมูลค่าทางเศรษฐกิจของอุตสาหกรรมใหม่เชิงกลยุทธ์ที่เกี่ยวข้องต่อจีดีพีจะขยับขึ้นเป็นกว่า 17% ภายในปี 2025
การลงทุนในนวัตกรรมและการวิจัยขั้นพื้นฐานคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็นถึง 10% ในระยะกลาง พร้อมกับการประกาศว่า จีนจะเป็นผู้นำปัญญาประดิษฐ์ (AI) โลกภายในปี 2030 ซึ่งถึงตอนนั้นเศรษฐกิจจีนก็ถูกคาดหมายว่าจะทาบชั้นและแซงหน้าสหรัฐฯ ก้าวขึ้นเป็นอภิมหาอำนาจทางเศรษฐกิจโลกแล้ว
ยิ่งไปกว่านั้น จีนยังกล้าประกาศว่า จีนจะเป็นผู้นำนวัตกรรมโลกในทุกด้านภายในปี 2050 เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการฉลอง 100 ปีของการสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีน
นี่แสดงถึงการตั้งเป้าหมายที่สูงของการพัฒนาอุตสาหกรรมแห่งโลกอนาคต และตระหนักดีว่าจีนต้องสร้างกำลังการผลิตคุณภาพสูงรูปแบบใหม่เพื่อใช้ในการก้าวแซงการพัฒนาของประเทศอื่น
กำลังการผลิตคุณภาพใหม่นี้อาศัยข้อมูล กำลังการประมวลผล เอไอ และอื่นๆ เป็นตัวขับเคลื่อนใหม่ นำไปสู่การผลิตคุณภาพที่มีเทคโนโลยีสูง มีประสิทธิภาพ และมีคุณภาพสูง
เรากำลังพูดถึงการผลิตรูปแบบใหม่ที่มีความล้ำสมัย อัจฉริยะ และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ซึ่งนั่นสะท้อนว่า การเปลี่ยนแปลงนี้มีความสําคัญต่อการปรับปรุงประสิทธิภาพการทํางาน อันจะนำไปสู่ผลผลิตอย่างก้าวกระโดดและมีขีดความสามารถในการแข่งขันระหว่างประเทศที่สูงขึ้น
การผลักดันจีนไปสู่ “การขุดอัจฉริยะ” นับเป็นตัวอย่างของการเปลี่ยนแปลงที่ดีในกรณีนี้ ด้วยการแนะนําเทคโนโลยีขั้นสูงในอุตสาหกรรมเหมืองถ่านหิน
ก่อนหน้านี้ เราอาจได้ยินข่าวอุบัติเหตุ “เหมืองถ่านหินถล่ม” ที่นำไปสู่ความสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินมาเป็นระยะ จีนจึงต้องการเพิ่มความปลอดภัยและประสิทธิภาพการผลิต ควบคู่ไปกับการลดการปลดปล่อยมลพิษ ด้วยการนำเอาการขุดอัจฉริยะมาใช้
คำถามสำคัญที่เกิดขึ้นตามมาก็คือ กำลังการผลิตที่มีคุณภาพใหม่ในอนาคตจะมีหน้าตาอย่างไร?
กำลังการผลิตคุณภาพสูงใหม่ที่เกิดขึ้นจากการนำเอาเทคโนโลยีควอนตัม (Quantum) เอไอพลัส (AI+) บล็อกเชน (Blockchain) และอื่นๆ มาบูรณาการเข้าด้วยกันบนพื้นฐานของปรัชญาการพัฒนารูปแบบใหม่ที่ให้ความสําคัญกับนวัตกรรมและความยั่งยืน
กลุยทธ์ใหม่ที่พัฒนาผ่านการบูรณาการเทคโนโลยีล้ำสมัยดังกล่าวมีเป้าหมายที่ต้องการนำไปสู่ผลลัพธ์ที่รวดเร็วแบบก้าวกระโดดและไร้ขอบเขต ซึ่งจะส่งผลต่อโครงสร้างทางเศรษฐกิจของจีนอย่างมีนัยสำคัญ ช่วยขับเคลื่อนการเติบโตของภาคการผลิต และนำไปสู่การพัฒนาอุตสาหกรรมใหม่เชิงกลยุทธ์ในที่สุด
อาทิ เศรษฐกิจดิจิตัล เศรษฐกิจสีเขียว อุปกรณ์ระดับไฮเอนด์ รถยนต์ไร้คนขับ พลังงานทางเลือก เทคโนโลยีชีวภาพ และวัสดุใหม่ รวมทั้งอุตสาหกรรมนวัตกรรมอื่น จึงนับเป็น “สายลมแห่งการเปลี่ยนแปลง” ของภาคการผลิตของจีนอย่างแท้จริง และของโลกในอนาคต
ท่านผู้อ่านอาจสงสัยว่า นอกเหนือจากการเลือก “เหลี่ยงฮุ่ย” เป็นเวทีในการประกาศกลยุทธ์สำคัญดังกล่าวแล้ว ทำไมจีนเลือกใช้ปีมังกรนี้เป็นวันประกาศกลยุทธ์ใหม่ดังกล่าว
ประการแรก ปี 2024 ถือเป็นปีครบรอบ 75 ปีของการก่อตั้งประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน
ประการที่ 2 ปีนี้ถือเป็นปีสําคัญสําหรับการบรรลุเป้าหมายของการปฏิรูปที่ลึกซึ้งและครอบคลุมที่ระบุไว้ในแผนพัฒนา 5 ปีฉบับที่ 14 (2021-25)
ประการที่ 3 ท่ามกลางการเตรียมแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 15 (2026-2030) กำลังการผลิตคุณภาพใหม่จะกลายเป็นศูนย์กลางของแผนพัฒนาฯ และจะต่อเนื่องไปอีกหลายฉบับในระยะยาว นี่เป็นเสมือนการส่งสัญญาณว่า กลุยทธ์นี้จะมีบทบาทสําคัญต่อวิสัยทัศน์การเป็นประเทศสังคมนิยมสมัยใหม่ที่ยิ่งใหญ่ของจีนในอนาคต
หลายฝ่ายเชื่อมั่นว่า กลยุทธ์นี้จะถูกใช้เป็นกลไกการขับเคลื่อนสู่เป้าหมายระยะกลางและระยะยาวของจีน ทั้งในแง่ต่อการอัพเกรดอุตสาหกรรมการผลิตภายในประเทศ การรองรับการลงทุนจากต่างประเทศ และการขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจของโลก
ปัจจุบัน จีนเป็นแหล่งรวมเทคโนโลยีชั้นสูง และเพียบพร้อมไปด้วยระบบนิเวศที่ดี รวมทั้งนโยบายและมาตรการส่งเสริมที่จริงจังและต่อเนื่อง ทำให้มีห่วงโซ่อุปทานและอุตสาหกรรมที่แข็งแกร่ง ยืดหยุ่น และหลากหลาย เช่น การเกษตร การก่อสร้าง การดูแลสุขภาพ การผลิตอัจฉริยะ และการพัฒนาสีเขียว
ความทันสมัยทางการเกษตรนับว่ามีความเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับการพัฒนากําลังการผลิตคุณภาพใหม่ที่เรากำลังพูดถึง
ความก้าวหน้าในด้านเทคโนโลยีการเกษตรและการเปิดรับในความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ช่วยแก้ไขปัญหาและลดจุดอ่อนในเครื่องจักรและอุปกรณ์ทางการเกษตรที่มีอยู่เดิมเพื่อมุ่งสู่การผลิตอุปกรณ์การเกษตรที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มีความเป็นอัจฉริยะ และจับตลาดระดับบน
อาทิ รถแทรกเตอร์ไร้คนขับที่ช่วยลดปัญหาการขาดแคลนเกษตรกร ทุ่นแรงงาน เพิ่มประสิทธิภาพ และหล่อเลี้ยงเทคโนโลยีการเกษตรสีเขียวไปพร้อมกัน
อ่านต่อตอนหน้า ...
ภาพจาก: AFP