TNN มีอะไรในการประชุมสองสภาปี 2023 โดย ดร.ไพจิตร วิบูลย์ธนสาร

TNN

คอลัมนิสต์

มีอะไรในการประชุมสองสภาปี 2023 โดย ดร.ไพจิตร วิบูลย์ธนสาร

มีอะไรในการประชุมสองสภาปี 2023 โดย ดร.ไพจิตร วิบูลย์ธนสาร

มีอะไรในการประชุมสองสภาปี 2023 โดย ดร.ไพจิตร วิบูลย์ธนสาร รองประธานและเลขาธิการหอการค้าไทยในจีน

สุดสัปดาห์นี้ การประชุมสภาประชาชนแห่งชาติ (National People’s Congress) และการประชุมที่ปรึกษาทางการเมืองของประชาชนจีน (Chinese People’s Political Consultative Conference) ประจำปี 2023 ก็จะเริ่มต้นขึ้น ณ มหาศาลาประชาชน ถนนฉางอัน ใจกลางกรุงปักกิ่ง 

การประชุมในครั้งนี้มีประเด็นอะไรที่น่าสนใจบ้าง เราไปติดตามกันครับ ...

ประการแรก นี่จะเป็นการประชุมสองสภา หรือที่นิยมเรียกกันจนติดปากว่า “เหลี่ยงฮุ่ย” เป็นครั้งแรกในยุคหลังโควิด-19 และครั้งแรกหลังการต่อวาระที่ 3 ของสี จิ้นผิง โดยคาดว่าการประชุมครั้งนี้จะใช้เวลาประชุมยาวกว่าของ 3 ครั้งที่ผ่านมาเล็กน้อย 

ขณะเดียวกัน นอกจากตรงกับปีกระต่าย ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งความยืนยาว การสงบ และความเจริญรุ่งเรืองของชาวจีนแล้ว การประชุมในครั้งนี้ยังเป็นจังหวะเหมาะของการเปลี่ยนถ่ายอำนาจของคณะผู้บริหารระดับสูงครั้งใหญ่ตามวาระ 5 ปีอีกด้วย

จึงเป็นที่คาดการณ์กันว่า การประชุมครั้งนี้จะเป็นการ “ถ่ายเลือด” แต่งตั้งคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ทั้งนี้ นอกจากตำแหน่ง รมต. ต่างประเทศ ซึ่งปรับเปลี่ยนไปก่อนหน้านี้แล้ว ที่ประชุมก็คาดว่าจะมีการรับรองและรับส่งมอบ “ไม้ต่อ” ในหลายตำแหน่งสำคัญ ไล่ตั้งแต่

  • นายกรัฐมนตรี จาก หลี่ เค่อเฉียง (Li Keqiang) ไปสู่หลี่ เฉียง (Li Qiang)
  • รองนายกรัฐมนตรี สายเศรษฐกิจ จาก หลิ่ว เหอ (Liu He) ไปยัง เหอ ลี่เฟิง (He Lifeng) 
  • ผู้ว่าการแบ้งค์ชาติ จาก อี้ กัง (Yi Gang) ไปยัง จู เห้อซิน (Zhu Hexin) 

นอกจากนี้ เรายังน่าจะเห็นการปรับเปลี่ยนในอีกหลายตำแหน่งสำคัญอื่น และการโยกย้ายผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ของรัฐในระดับถัดลงไปอีกมากในช่วงหลายเดือนจากนี้ไป 

ขณะเดียวกัน โดยที่จีนพยายามเสริมสร้างความทันสมัยของระบอบสังคมนิยม (Socialist Modernization) ในปี 2035 ผมจึงคาดว่าจะเห็นการปรับปรุงโครงสร้างและอำนาจหน้าที่ในองค์กรของพรรคคอมมิวนิสต์และรัฐบาลจีนในอีกหลายส่วน 

มีอะไรในการประชุมสองสภาปี 2023 โดย ดร.ไพจิตร วิบูลย์ธนสาร

ภาพจาก :   Youtube New China TV


ยกตัวอย่างเช่น หน่วยงานด้านการพัฒนาระหว่างประเทศ และคณะกรรมการประสานนโยบายการเงิน รวมทั้งการปรับปรุงอำนาจหน้าที่ให้แบงก์ชาติจีนกำกับดูแลภาคการธนาคารและประกันภัยไปพร้อมกัน นั่นหมายความว่า ผู้ว่าแบงก์ชาติจีนคนใหม่จะต้องรับผิดชอบกับบทบาทใหม่ที่กว้างขวางมากขึ้น 

ประการถัดมา ที่ประชุมสองสภายังจะต้องพิจารณาให้ความเห็นชอบเกี่ยวกับการปรับปรุงกฎหมายที่กำกับดูแลกระบวนการและระบบกฎหมาย และตรวจสอบรายงานของศาลฎีกา อัยการสูงสุด และคณะกรรมการกฎหมายที่เกี่ยวข้อง คล้ายกับที่เราเห็นการจัดระเบียบหลากหลายธุรกิจ และการต่อต้านองค์กรอาชญากรรม หรือ “ทุนสีเทา” ที่กำลังโด่งดังในเมืองไทย

ประการสำคัญ ที่ประชุมคาดว่าจะรับทราบรายงานผลการดำเนินงานของรัฐบาลของปีที่ผ่านมา และพิจารณาให้ความเห็นชอบกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและเป้าหมายอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจในปี 2023 ซึ่งคาดว่าจะกำหนดไว้ที่ราว 5.5% เมื่อเทียบกับของปีก่อน 

นักวิเคราะห์คาดว่า จีนจะกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการบริโภคภายในประเทศ และการลงทุน ซึ่งจะเป็น “พระเอกคู่แฝด” ของเศรษฐกิจจีนในปีนี้ 

จากข้อมูลในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้ก็พบว่า “อุปสงค์” ที่เกิดขึ้นจากการจับจ่ายใช้สอยและการท่องเที่ยวภายในประเทศ ก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง 



นอกจากนี้ ผมเองยังคาดว่า หลังการประชุมสองสภาสิ้นสุดลง จีนจะประกาศเปิดวีซ่าท่องเที่ยวเข้าประเทศ เพิ่มจำนวนเที่ยวบิน และปลดล็อกรูปแบบการเดินทางและเงื่อนไขอื่น ซึ่งนั่นหมายความว่า ณ สิ้นปีนี้ จีนจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติราว 100 ล้านคน ซึ่งนั่นจะทำให้ภาคการท่องเที่ยวและการจับจ่ายใช้สอยภายในประเทศขยายตัวแรงยิ่งขึ้น

ในส่วนของภาคการผลิต เราเห็นการเติบโตแรงของ PMI ในอัตราที่สูงกว่าที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้ ขณะเดียวกัน ผมเชื่อมั่นว่า จีนจะมุ่งเน้นการเพิ่ม “ผลิตภาพ” และเสริมสร้าง “ความทันสมัย” และ “ความแข็งแกร่ง” ที่แฝงไว้ซึ่ง “ความยืดหยุ่น” ของห่วงโซ่อุปทานและอุตสาหกรรม เพื่อต่อสู้กับความท้าทายจากจำนวนประชากรจีนที่ลดลง การชะลอตัวของอุปสงค์โลก และสงครามการค้าและเทคโนโลยี เพื่อก้าวข้ามการพึ่งพาเทคโนโลยีของต่างชาติในที่สุด

และหากโมเมนตัมดังกล่าวยังคงดำเนินไปเช่นนี้ ก็หมายความว่า เศรษฐกิจจีนจะเติบโตจาก “ภายใน” ในสัดส่วนที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยของประเทศ ซึ่งสอดคล้องกับกลยุทธ์ “เศรษฐกิจวงจรคู่” (Dual Circular Economy) ที่จีนพยายามผลักดันอยู่ในแผนฯ 14

จึงไม่น่าแปลกใจที่หลายสำนักได้เริ่มปรับเพิ่มตัวเลขเป้าหมายอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจโดยรวมจาก “ต่ำกว่า 5%” เป็น “มากกว่า 5%” กันขนานใหญ่ บางรายขยับตัวเลขเป้าหมายทะลุ 6% ไปแล้ว

ส่วนผมเองอาจเห็นฐานการเติบโตทางเศรษฐกิจ “ที่ต่ำ” เพียง 3% ในปีก่อน และสัญญาณการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา รวมทั้งการยึดหลักการรักษาค่าเฉลี่ยการเติบโตต่อปีในแผนพัฒนาฉบับที่ 14 ที่ระดับ 5% จึงยอมเสี่ยง “หน้าแตก” กับการประเมินเป้าหมายการเติบโตในปีนี้ที่ 7-8%


มีอะไรในการประชุมสองสภาปี 2023 โดย ดร.ไพจิตร วิบูลย์ธนสาร

ภาพจาก :   Youtube New China TV


ผมยังเชื่อว่า “เหลี่ยงฮุ่ย” จะให้ความสำคัญกับการเสริมสร้าง “เสถียรภาพ” ของตลาดอสังหาริมทรัพย์ ทั้งนี้ นับแต่ต้นปีกระต่าย รัฐบาลจีนได้พยายามกระตุ้นอุปสงค์ “ที่อยู่อาศัยคุณภาพสูง” ผ่านการดำเนินงานตามนโยบาย “ลูก 3 คน” อาทิ การเปิดให้ “แฟน” หรือแม้กระทั่ง “พ่อแม่” สามารถยื่นขอสินเชื่อที่พักอาศัยร่วมกันได้ แถมยังเปิดให้สามารถผ่อนชำระสินเชื่อได้ถึงอายุ 100 ปี 

ในด้านหนึ่ง สะท้อนว่ารัฐบาลจีนประเมินว่า คนจีนจะมีอายุยืนยาวขึ้น และเศรษฐกิจจีนจะเติบโตอย่างมีเสถียรภาพในระยะยาว ซึ่งจะไม่ส่งผลให้อุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์จีนประสบปัญหาวิกฤติระลอกใหม่ในอนาคต

อย่างไรก็ดี การดำเนินมาตรการดังกล่าวก็ทำเอาวัยรุ่นจีนจำนวนมากแซวผ่านโลกสื่อสังคมออนไลน์ว่า รัฐบาลจีนในปัจจุบันดูจะเก่งมากกับการเล่นกับ “คนท้อง” และ “ที่อยู่อาศัย” แต่ก็ไม่อยากให้ลืมการพัฒนาในส่วนอื่น

นอกจากการลงทุนในด้านอสังหาริมทรัพย์ที่คาดว่าจะค่อยๆ ฟื้นตัวแล้ว จีนยังจะให้ความสำคัญกับการลงทุนของเอกชนจีนและต่างชาติ และการเพิ่มการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งอำนวยความสะดวกของภาครัฐ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเทคโนโลยีดิจิตัล 

ที่ประชุมสองสภาจะยังคงยึดแนวทาง “การเปิดกว้าง” ทางเศรษฐกิจผ่าน “การพัฒนาคุณภาพสูง” อยู่ต่อไป เราน่าจะได้เห็นมาตรการส่งเสริมการพัฒนาขีดความสามารถด้านนวัตกรรมจากรัฐบาลชุดใหม่ออกมาอีกมากในอนาคต ซึ่งนั่นจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาเศรษฐกิจจีนในระยะสั้น-กลาง-ยาว

ท่ามกลางการเติบโตแรงทางเศรษฐกิจในปีนี้ ที่ประชุมก็จะให้ความสำคัญกับ “เสถียรภาพ” และ “ความยั่งยืน” ในขณะเดียวกัน เราจึงน่าจะเห็นจีนเพิ่มระดับการพึ่งพาตนเองในด้านอาหารและพลังงาน และลดความเหลื่อมล้ำด้านเศรษฐกิจ การศึกษา สุขอนามัย และสิ่งแวดล้อมไปพร้อมกัน 

“ความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน” ยังจะเป็นแคมเปญที่ “เหลี่ยงฮุ่ย” จะยังคงยึดถือไว้ต่อไป ...

ข่าวแนะนำ