(คลิป) น้ำมันโลกผันผวนหนัก ราคาทองคำโลกพุ่งสูงสุดรอบปี

ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส หรือ WTI ส่งมอบเดือนเมษายน ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาด NYMEX เพิ่มขึ้น 1.45 ดอลลาร์ หรือร้อยละ 1.25 สู่ระดับ 116.93 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังแตะระดับ 130.50 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2551

          

ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์ เพิ่มขึ้น 2.69 ดอลลาร์ หรือร้อยละ 2.28 สู่ระดับ 120.80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังแตะระดับ 139.13 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2551 เช่นกัน

ราคาน้ำมันได้แรงหนุนจากความกังวลเกี่ยวกับภาวะชะงักงันของการขนส่งน้ำมัน ท่ามกลางมาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซีย โดยนายแอนโทนี บลิงเกน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ กล่าวว่า สหรัฐและพันธมิตร กำลังพิจารณาคว่ำบาตรการนำเข้าน้ำมันและก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียเพื่อตอบโต้ต่อการที่รัสเซียบุกโจมตียูเครน

          

ขณะเดียวกัน ราคาน้ำมันยังได้ปัจจัยบวกจากผลการประชุมของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ซึ่งมีมติยึดมั่นตามข้อตกลงเดิม โดยจะเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันเพียง 400,000 บาร์เรลต่อวันในเดือนเมษายน

ส่วนราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศ เช้าวันนี้ ( 8 มี.ค.) กลุ่มผู้ค้าน้ำมัน OR และบางจากปรับขึ้น "ราคาน้ำมัน" กลุ่มเบนซิน 60 สตางค์ต่อลิตร ขณะที่กลุ่มดีเซลราคาคงเดิม มีผลตั้งแต่ตี 5 ที่ผ่านมา  โดย

แก๊สโซฮอล์ 95 อยู่ที่ลิตรละ 38 บาท 35 สตางค์ (+เพิ่มขึ้น) 

แก๊สโซฮอล์ 91 อยู่ที่ลิตรละ 38 บาท 8 สตางค์ (+เพิ่มขึ้น) 

แก๊สโซฮอล์ E20 อยู่ที่ลิตรละ 37 บาท 24 สตางค์ (+เพิ่มขึ้น) 

แก๊สโซฮอล์ E85 อยู่ที่ลิตรละ 30 บาท 54 สตางค์ (+เพิ่มขึ้น) 

เบนซิน 95 ลิตรละ 45 บาท 16 สตางค์ (=คงที่) 

ดีเซล B7 ลิตรละ 29 บาท 94 สตางค์ (=คงที่) 

ดีเซล(B10) อยู่ที่ลิตรละ 29 บาท 94 สตางค์ (=คงที่) 

ดีเซล B20 อยู่ที่ลิตรละ 29 บาท 94 สตางค์ (=คงที่) 

ดีเซลพรีเมี่ยม ลิตรละ 35 บาท 96 สตางค์ (=คงที่) 

แก๊ส NGV กิโลกรัมละ 15 บาท 59 สตางค์ (=คงที่) 

ด้าน ราคาทองในตลาดฟิวเจอร์ สัญญาทองคำตลาด COMEX  ส่งมอบเดือนเมษายน ดีดตัวขึ้น 33.70 ดอลลาร์ หรือ ร้อยละ 1.71 สู่ระดับ 2,000.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยนักวิเคราะห์ คาดว่า ราคาทองจะยังคงพุ่งขึ้นต่อไป หากสถานการณ์ในยูเครนยังคงไม่มีการเปลี่ยนแปลง โดยมีแนวโน้มขึ้นทดสอบระดับ 2,100 ดอลลาร์ และจะทำสถิติสูงสุดตลอดกาลครั้งใหม่

กองทุนทองคำเอสพีดีอาร์ ซึ่งเป็นกองทุนอีที่เอฟทองที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก เพิ่มการถือครองทองสู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2564  เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา นักลงทุนยังคงจับตาสถานการณ์การสู้รบระหว่างรัสเซียและยูเครน

ขณะที่ ศูนย์วิจัยทองคำ รายงานผลสำรวจมุมมองต่อทิศทางราคาทองคำในประเทศ ระหว่างวันที่ 7-11 มีนาคม โดยระบุว่า 14 ผู้เชี่ยวชาญในตลาดทองคำที่ได้มีส่วนร่วมตอบแบบสำรวจ ในจำนวนนี้ร้อยละ 64 คาดว่าราคาทองคำในสัปดาห์หน้าจะปรับเพิ่มขึ้น //ส่วนร้อยละ 14 คาดว่าราคาทองคำจะลดลง และร้อยละ  22 คาดว่าราคาทองคำจะใกล้เคียงกับสัปดาห์ที่ผ่านมา เช่นเดียวกับ นักลงทุนทองคำ ร้อยละ 63 คาดว่าราคาทองคำในประเทศของสัปดาห์หน้าจะปรับเพิ่มขึ้น 

ส่วนสถานการณ์ราคาทองคำในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ระหว่างวันที่ 28 กุมภาพันธ์ - 4 มีนาคม 2565 พบว่าราคาทองคำแท่งในประเทศ ตามประกาศสมาคมค้าทองคำ เคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 29,350 - 30,250 บาท ต่อบาททองคำ โดยราคาทองคำปิดอยู่ที่ระดับ 30,250 บาท ต่อบาททองคำ ปรับเพิ่มขึ้น 1,100 บาทเมื่อเปรียบเทียบกับราคาปิดของสัปดาห์ก่อนหน้า ระหว่างวันที่ 21-25 กุมภาพันธ์ ราคาทองคำปิดอยู่ที่ระดับ 29,150 บาท

ส่วนราคาทองคำในประเทศ ตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ล่าสุดเมื่อวานนี้(7 มี.ค.) มีการปรับราคา 10 ครั้ง โดยเป็นการปรับเพิ่มขึ้น 650 บาท ส่งผลให้ทองคำแท่ง ราคารับซื้อ อยู่ที่บาทละ 30,800 บาท ขายออก บาทละ 30,900 บาท //ส่วนทองรูปพรรณ ราคารับซื้อ อยู่ที่บาทละ 30,244 บาท 20 สตางค์ ขายออก บาทละ 31,400 บาท