(คลิป) สุดล้ำ!“ชิปตรวจโควิด” “ทุกสายพันธุ์”รู้ผลใน 3 นาที!

     ไต้หวัน ผู้นำแห่งอุตสาหกรรม เซมิคอนดักเตอร์ ครองส่วนแบ่งในตลาดชิปโลก กว่า 55.6% ล่าสุด บริษัท SILICON-BASED MOLECULAR SENSORING TECHNOLOGY CO., LTD (หรือโมลเซนเทค)ซึ่งได้รับทุนสนับสนุนจากกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของไต้หวัน (MOST) ได้วิจัยพัฒนาแผ่นชิปตรวจเชื้อโควิด-19 ทราบผลภายใน 3 นาที โดยมีความแม่นยำสูงถึงร้อยละ 95 และสามารถตรวจเชื้อกลายพันธุ์ได้ทุกชนิดไม่เว้นสายพันธุ์โอมิครอน  รวมทั้งยังมีความแม่นยำในกรณีมีปริมาณเชื้อต่ำมากก็สามารถตรวจ

     รายงานข่าวระบุว่า แผ่นชิปดังกล่าว ได้รับอนุมัติให้ใช้ฉุกเฉินหรือ EUA จากกรมอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุขและสวัสดิการของไต้หวันแล้วตั้งแต่เมื่อปลายปีที่แล้ว และจะเริ่มผลิตในปริมาณมากเพื่อเข้าสู่ตลาดเพื่อใช้ในการป้องกันโควิด-19 ในไต้หวันวิธีการตรวจเชื้อโควิด-19 ที่ใช้ในปัจจุบัน การตรวจ PCR มีความแม่นยำที่สุด แต่ต้องใช้เวลาประมาณ 2-4 ชม. ส่วนการตรวจภูมิคุ้มกัน (antigen) ใช้เวลาตรวจเพียง 15 นาที แต่ความไวและความแม่นยำค่อนข้างต่ำ แต่แผ่นชิปตรวจโควิด-19 ของไต้หวัน ที่เปิดตัวเมื่อวานนี้ (25 ม.ค.) ได้ผสมผสานคุณสมบัติของทั้ง 2 ส่วนเข้าด้วยกัน ทั้งนี้ได้มีการทดลอง ที่ รพ. ทหารผ่านศึกเกาสง เบื้องต้นทดสอบกับ 142 ตัวอย่าง ปรากฏว่า มีความไวถึง 96.8% เชื้อกลายพันธุ์พิเศษ 95.1% และตรวจค่า Ct ต่ำว่า 35 ได้ผลเป็นบวกเหมือนกันถึง 100% โดยหนึ่งในผู้ร่วมการพัฒนาแผ่นชิปดังกล่าว ได้ชี้แจง ระบบการตรวจสอบแผ่นชิป ว่า กรดนิวคลีอิก (nucleic acids) โควิด-19จะทำปฏิกิริยากับแผ่นชิป ทำให้เกิดปะจุไฟฟ้า ( electric charge )บนแผ่นชิปเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้น   ซึ่งได้นำมาคำนวนโดยสูตรการคำนวนที่คิดค้นขึ้น ก็จะสามารถคำนวนผลการตรวจเชื้อได้ภายใน 3 – 20 นาที เครื่องมือที่ใช้ในตอนนี้เป็นกึ่งอัตโนมัติ ตรวจจากสารคัดหลั่งจมูกและคอ  ส่วนในอนาคตจะมุ่งพัฒนาไปสู่การตรวจจากน้ำลาย คาดว่า ในเดือน เม.ย. จะเป็นเครื่องมือที่ใช้จะเป็นแบบอัตโนมัติทั้งหมด ต้นทุนในการตรวจประมาณ 3,000 ดอลลาร์ไต้หวัน ในช่วงแรกจะจำหน่ายให้สถานพยาบาลในราคาลด 40-50%  

    จากการระบาดโควิด19 หลายสถานที่ออกกฎแสดงใบรับรองฉีดวัคซีน ทำให้สตาร์ทอัพสัญชาติสวีเดน  ได้เปิดตัวอุปกรณ์ไมโครชิปจิ๋วขนาดเท่าเมล็ดข้าว มีขนาดเล็กเพียง 2 มิลลิเมตร x 16 มิลลิเมตร โดยฝังอยู่ที่แขนหรือระหว่างนิ้วโป้งกับนิ้วชี้ ที่ตั้งโปรแกรมสำหรับแสดงใบรองรับของผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีน

โควิด หรือที่เรียกว่าวัคซีนพาสปอร์ต ซึ่งการทำงานของชิปดังกล่าวก็ง่ายมาก เมื่อผู้ที่ถูกฝังชิปที่หลังมือหรือแขนจะเปิดข้อมูลใบรองรับการฉีดวัคซีนโควิดในชิป ก็เพียงแค่แตะมือตรงบริเวณที่ฝังชิปกับสมาร์ท โฟน เพื่อเป็นการปลดล็อกชิปให้เปิดไฟล์พีดีเอฟ (PDF) จากนั้นใบรับรองการฉีดวัคซีนก็จะปรากฏบนสมาร์ทโฟน ส่วนสนนราคาค่าฝังชิปตกอยู่ที่ 100 ยูโร หรือประมาณ 3,800 บาท

 

    บริษัทผู้ผลิต ยังได้ฝังไมโครชิปไว้ในพนักงานมากกว่า 100 คน ซึ่งช่วยให้พวกเขาเปิดประตู ,ใช้งานเครื่องพิมพ์ ,ใช้จ่ายค่าใช้บริการขนส่งสาธารณะ และซื้อเครื่องดื่มแทนการใช้เงินสด และหากมีข้อมูลใหม่ที่ต้องการอัพเดทลงในไมโครชิปก็ไม่จำเป็นต้องนำออกจากผิวหนัง เพียงแค่ใช้แอพพลิเคชั่นที่อยู่ในสมาร์ทโฟนเพิ่มเติมข้อมูลใหม่เข้าไปเท่านั้นแม้หลายคนจะมองว่าการฝังชิปเป็นเทคโนโลยีที่น่ากลัวเฉกเช่นเทคโนโลยีการเฝ้าระวัง แต่เจ้าของผลิตภัณฑ์นี้เผยว่าอุปกรณ์ดังกล่าวไม่มีแบตเตอรี่ ไม่อาจส่งสัญญาณด้วยตัวเอง มันจึงอยู่อย่างสงบใต้ผิวหนัง ดังนั้น จึงไม่สามารถบอกตำแหน่งของผู้ใช้งานได้ แต่จะเปิดใช้งานก็ต่อเมื่อสัมผัสกับสมาร์ทโฟนของผู้ใช้งานเท่านั้น อย่างไรก็ตาม การฝังชิปแบบนี้ต้องเป็นไปโดยความสมัครใจ ไม่มีใครบังคับใครได้.