แผ่นดินไหว ขนาด 7.2 เขย่าเฮติ เสียชีวิตกว่า 300 คน
เกิดแผ่นดินไหวรุนแรง 7.2 แมกนิจูดในเฮติ ส่งผลให้อาคารบ้านเรือนพังเสียหายอย่างหนักเป็นวงกว้าง เบื้องต้นพบผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 300 ราย คาดตัวเลขผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บน่าจะสูงหลายพันคน
วันนี้ (15 ส.ค.64) เจ้าหน้าที่รัฐบาลเฮติ เปิดเผยว่า เกิดแผ่นดินไหวรุนแรง ขนาด 7.2 แมกนิจูด ถล่มเฮติ ประเทศแถบทะเลแคริบเบียน ในช่วงเช้าวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น อาคารหลายหลัง ซึ่งรวมทั้งโบสถ์และโรงแรม พังถล่ม และได้รับความเสียหาย ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 300 ราย และได้รับบาดเจ็บหรือยังคงสูญหายอีกหลายร้อยคน
แรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวครั้งนี้ รู้สึกได้ในกรุงปอร์โตแปรงซ์ เมืองหลวงของเฮติ ซึ่งอยู่ห่างออกไป 125 กิโลเมตร และในหลายประเทศเพื่อนบ้าน ประชาชนในกรุงปอร์โตแปรงซ์ รับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือน และหลายคนพากันวิ่งออกไปกลางถนนด้วยความตื่นกลัว
นาโอมิ เวอร์เนอุส ประชาชนในเมืองหลวงเฮติ วัย 34 ปี กล่าวว่า เธอถูกปลุกจากแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหว และเตียงนอนเขย่า ต้องตื่นและไม่มีเวลาใส่รองเท้า ทุกคนวิ่งออกมานอกบ้าน เธอเคยประสบแผ่นดินไหวในปี 2010 มาแล้ว
ส่วนประชาชนที่อาศัยอยู่ใกล้ศูนย์กลางของแผ่นดินไหว กล่าวว่า บ้านเรือนจำนวนมากพังถล่ม ประชาชนเสียชีวิตและบางคนถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล พร้อมทั้งได้เผยแพร่ภาพซากอาคารคอนกรีตที่พังถล่ม รวมทั้งโบสถ์ ลงในโซเชียลมีเดียด้วย
จากรายงานของสำนักสำรวจธรณีวิทยาของสหรัฐ หรือยูเอสจีเอส (USGS) ระบุว่า ศูนย์กลางของแผ่นดินไหวอยู่ห่างจากเมืองเซนต์-หลุยส์ ดู ซุด ไปทางตะวันออกเฉียงเหนือประมาณ 12 กิโลเมตร ยูเอสจีเอส คาดว่า ตัวเลขผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ น่าจะเพิ่มสูงเป็นหลายพันราย และความเสียหายจากภัยพิบัติครั้งนี้กินพื้นที่กว้างขวาง เกิดอาฟเตอร์ช็อกตามมาอย่างน้อย 6 ครั้ง รุนแรงที่สุด 5.1 แมกนิจูด นอกจากนี้ ยังมีการเตือนภัยสินามิทันทีหลังเกิดแผ่นดิน แต่ถูกยกเลิกในเวลาต่อมา
นายกรัฐมนตรีแอเรียล อองรี ของเฮติ แถลงว่า เกิดความเสียหายในวงกว้างหลายพื้นที่ของประเทศ และได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินนาน 1 เดือน พร้อมทั้งได้ส่งคณะเจ้าหน้าที่กู้ภัย ไปช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ประสบภัยแล้ว และยังเรียกร้องให้ชาวเฮติร่วมแรงร่วมใจ ขณะที่พวกเขาต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์เลวร้ายอีกครั้งในขณะนี้
ก่อนหน้านี้ เฮติประสบแผ่นดินไหวรุนแรงขนาด 7.0 แมกนิจูดใกล้กรุงปอร์โตแปรงซ์ เมื่อวันที่ 12 มกราคม 2010 สร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวงต่อโครงสร้างพื้นฐานและเศรษฐกิจ มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 250,000 ราย นับเป็นภัยพิบัติทางธรรมชาติที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ของซีกโลกตะวันตก และประเทศเกาะแห่งนี้กำลังฟื้นตัว ก่อนเกิดแผ่นดินไหวซ้ำอีกในวันเสาร์ และแผ่นดินไหวครั้งนี้ เกิดขึ้นท่ามกลางวิกฤตทางการเมืองในประเทศ หลังการลอบสังหารประธานาธิบดีเมื่อเดือนที่แล้ว
ส่วนประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ สั่งให้รัฐบาลสหรัฐดำเนินการช่วยเหลือเฮติทันที
