อาวุธตะวันตก=ตัวเปลี่ยนเกมในสงครามยูเครน?
พันธมิตรนาโตหลายชาติ ยอมให้ยูเครนใช้อาวุธพวกเขาโจมตีเข้าใส่ดินแดนรัสเซีย “อย่างจำกัด” ได้แล้ว... นี่จะกลายเป็น “ตัวเปลี่ยนเกม” ในสงครามนี้ได้หรือไม่? หรือมัน “สายเกินไป” แล้ว?
ยูเครนเปิดเผยเมื่อวันอังคาร (4 มิ.ย.) ว่า "ยูเครนได้ใช้อาวุธที่ได้รับจากชาติตะวันตก โจมตีใส่ระบบขีปนาวุธ S-300 ในดินแดนของรัสเซียแล้ว หลังจากที่ได้รับอนุมัติจากชาติตะวันตก ที่ให้ยิงอาวุธของพวกเขาเข้าไปในดินแดนของศัตรู"
เหตุการณ์นี้มีขึ้นเพียงไม่กี่วัน หลังจากที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน อนุมัติให้ยูเครนยิงอาวุธอเมริกัน เข้าไปในดินแดนรัสเซีย ที่อยู่ติดกับภูมิภาคคาร์คีฟได้ แต่ย้ำว่า ยูเครนจะไม่สามารถใช้กระสุนและอาวุธสหรัฐฯ ยิงเข้าไปในดินแดนภายในของรัสเซียได้ แม้ก่อนหน้านี้ สหรัฐฯ ได้จัดส่งขีปนาวุธ ATACMS ที่มีพิสัยการยิงไกลถึง 300 กิโลเมตรให้ไปแล้ว แต่ก็จะไม่สามารถใช้โจมตีเข้าไปในรัสเซียได้ โดยยูเครนจะใช้ได้เพียงขีปนาวุธพิสัยใกล้ GMLRS ที่มีพิสัยการยิงราว 70 กิโลเมตรเท่านั้น
ขณะที่หลายชาติในยุโรป ก็ผ่อนมาตรการควบคุมดังกล่าวแล้วด้วยเช่นกัน
แต่ยังไม่ชัดเจนว่า อาวุธที่ยูเครนใช้เมื่อวันอังคารนั้น เป็นอาวุธของชาติใด
หลายเดือนที่ผ่านมา ยูเครนได้เรียกร้องให้สหรัฐฯ เปิดทางให้พันธมิตรตะวันตกให้ยิงอาวุธใส่ดินแดนรัสเซียได้ หลังจากที่รัสเซียระดมโจมตีทั้งทางอากาศ และภาคพื้นใส่ภูมิภาคคาร์คีฟ
🔴 อาวุธตะวันตก ไม่น่าจะเป็น "ตัวเปลี่ยนเกม"
แมททิว โบเลก ที่ปรึกษา Chatham house กล่าวว่า การให้ยูเครนใช้อาวุธยิงเข้าไปในดินแดนรัสเซียได้ ไม่น่าจะเป็น "ตัวเปลี่ยนเกม" แต่อย่างใด แต่อาจเป็นคล้ายยาสเตียรอยด์ ที่จะเพิ่มศักยภาพยูเครนให้ปกป้องตนเองได้
ที่ผ่านมา รัสเซียก็เคยลิ้มรสของอาวุธตะวันตกในดินแดนตนเองอยู่แล้ว จากการที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธ "Storm Shadow" ของสหราชอาณาจักร โจมตีใส่แหลมไครเมีย ที่รัสเซียผนวกเข้าไปอยู่บ่อย ๆ อยู่ก่อนแล้ว
🔴 สายไปไหม?
มีทหารยูเครนนายหนึ่ง ชื่อ “เดนิส” ที่ไปประจำการอยู่ด่านหน้าทางตะวันออกของยูเครน กล่าวกับสำนักข่าวอัลจาซีรา ถึงความไม่พอใจที่ชาติตะวันตกใช้เวลานานมากในแต่ละรอบกว่าจะส่งอาวุธไปถึงยูเครนได้
เดนิสบอกว่า ที่ผ่านมา มักจะได้ยินคำว่า "ไม่" อยู่เสมอ ไม่มีรถถัง, ไม่มีขีปนาวุธ, ไม่มีเครื่องบินรบ ที่จะส่งให้ยูเครน และยังมีมาตรการคุมเข้มอีกหลายยต่อหลายอย่าง
"แต่คำละคำว่า 'ไม่' นั้น หมายถึง "ชีวิต" ไม่ใช่แค่ชีวิตของเรา แต่เด็ก ๆ ในยูเครน ที่ต้องถูกเผาทั้งเป็น หรือร่างกายถูกฉีกขาด" เดนิสกล่าว
แต่การที่สหรัฐฯ และตะวันตกยอมที่จะส่งอาวุธ และอนุมัติให้ใช้ยิงเข้าดินแดนรัสเซียที่ติดกับคาร์คีฟได้ อย่างมีข้อจำกัดนั้น ก็อาจ “สายเกินไป” แล้ว
เพราะรัสเซียได้รุกคืบสู่ภูมิภาคคาร์คีฟ ตั้งแต่ต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ยึดหมู่บ้านบางส่วนเอาไว้ได้
และแม้ว่าอาวุธตะวันตกล้ำสมัยก็จริง.. แต่ก็ต้องไม่ลืมว่า อาวุธรัสเซียก็ล้ำสมัยเช่นกัน
หลายสัปดาห์ที่ผ่านมา รัสเซียได้ใช้ระบบก่อกวนระบบไฟฟ้าขั้นสู่ เพื่อทำให้ขีปนาวุธน้ำวิถีด้วยดาวเทียม หรือ GPS ล้มเหลว
พลโท อิฮอร์ โรมาเนนโก อดีตนายทหารระดับสูงของยูเครน ระบุว่า รัสเซียล้ำหน้าอย่างมากในเวลานี้ ดังนั้น การที่ตะวันตกอนุมัติใช้อาวุธนี้ ก็ยากที่จะกลายเป็น "ตัวเปลี่ยนเกมได้" และสถานการณ์ไม่น่าจะเปลี่ยนไปในช่วงหลายเดือนข้างหน้านี้
🔴 ใครให้ยูเครนใช้อะไรได้บ้าง?
สำหรับอาวุธที่สหรัฐฯส่งให้ อย่างระบบป้องกันภัยทางอากาศ, ปืนใหญ่, จรวดนำวิถี ยูเครนสามารถใช้ได้ - แต่ยังแบนขีปนาวุธพิสัยไกลอยู่
ส่วนอาวุธที่ตะวันตกมมอบให้ ที่ใช้โจมตีรัสเซียได้ รวมถึง เครื่องบินรบ F-16 24 ลำจากเนเธอร์แลนด์ ที่ติดขีนปาวุธพิสัยไกล, และเครื่องบินรบสมัยโซเวียต จากโปแลนด์, สโลเวเนีย และนอร์ท มาเซโดเนีย
ขณะที่นักบินยูเครนจะสิ้นสุดการฝึกซ้อมการใช้เครื่องบรบ F-16 นานหลายเดือนแล้ว และเตรียมขึ้นบินในอีกไม่กี่สัปดาห์นี้
ซึ่งเครื่องบินรบเหล่านี้ จะสามารถใช้ยิงขีปนาวุธร่อนจากอากาศ ที่ชื่อ SCALP ของฝรั่งเศสได้
ส่วน Storm Shadow ซึ่งเป็นขีปนาวุธคู่แฝดกับ SCALP ของฝรั่งเศสนี้ อังกฤษยังไม่อนุมัติให้ใช้โจมตีในดินแดนรัสเซีย แต่โจมตีใส่ดินแดนที่รัสเซียยึดครองได้
ขณะที่ตุรกีเปิดทางให้ยูเครนใช้ โดรน Bayraktar ได้
สหรัฐฯ, อังกฤษ, เยอรมนี และนอร์เวย์ เปิดทางให้ยูเครนใช้ขีปนาวุธ HIMARS และ ATACMS ใส่ไครเมีย และดินแดนยูเครนที่ถูกยึดครองได้เช่นกัน
