อัมสเตอร์ดัมออกกฎ ห้ามสร้างโรงแรมใหม่ จำกัดนักท่องเที่ยวล้น

◾️◾️◾️

🔴 จำกัดนักท่องเที่ยวไม่เกิน 20 ล้านคน/ปี

ที่กรุงอัมสเตอร์ดัม ของเนเธอร์แลนด์ ประกาศออกมาเมื่อวันที่ 17 เมษายนที่ผ่านมาว่า ไม่อนุญาตให้สร้างโรงแรมใหม่แล้ว เพื่อให้ประชาชนได้ใช้ชีวิต ทำให้เมืองกลับมาน่าอยู่อีกครั้ง โดยรัฐบาลท้องถิ่นของเมืองหลวงตั้งเป้าจะไม่มีนักท่องเที่ยวล้น ไม่มีโรงแรมใหม่ และจำกัดนักท่องเที่ยวที่ค้างคืนในโรงแรมไม่เกิน 20 ล้านคนต่อปี 

แต่ก็ยังมีข้อยกเว้นอยู่บ้าง คือ โรงแรมใหม่ในอัมสเตอร์ดัมจะถูกสร้างขึ้นได้ก็ต่อเมื่อโรงแรมอื่นปิดตัวลง ซึ่งต้องอยู่ในเงื่อนไขจำนวนห้องนอนไม่เพิ่มขึ้น และโรงแรมใหม่ต้องดีกว่าเดิม เช่น มีความยั่งยืนมากขึ้น

ข้อบังคับใหม่นี้ไม่รวมโรงแรมใหม่ที่กำลังสร้าง และได้รับอนุญาตไปก่อนหน้านี้แล้ว

◾️◾️◾️

🔴 ปัจจุบันมีห้องพักในโรงแรมเกือบ 42,000 ห้อง

 

จากสถิติของสำนักงานสถิติแห่งชาติเนเธอร์แลนด์ ปัจจุบันที่อัมสเตอร์ดัมมีห้องพักในโรงแรมเกือบ 42,000 ห้อง ที่สามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้มากกว่า 92,000 คน 

ขณะที่กรุงเทพมหานครของไทย จากข้อมูลเมื่อปีที่แล้วพบว่า มีห้องพักในโรงแรมทั้งหมดมากถึง 80,300 ห้อง ซึ่งทำให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวนั้นโตขึ้นมาก แค่ครึ่งปีแรก นักท่องเที่ยวพักโรงแรมมากกว่า 11.4 ล้านคน เติบโตแตะระดับ 66% เมื่อเทียบกับช่วงก่อนโควิด-19 และในปีนี้ ตั้งเป้ากลับมาเติบโตเต็ม 100%  

ความคิดริเริ่มของทางการอัมสเตอร์ดัมในการควบคุมการท่องเที่ยวมุ่งเน้นไปที่ใจกลางเมืองที่พลุกพล่านเป็นส่วนใหญ่ แต่ตราบใดที่สนามบินสคิปโฮลของอัมสเตอร์ดัมยังคงเป็นศูนย์กลางสำคัญของยุโรป การแยกนักท่องเที่ยวออกจากเมืองไม่ใช่เรื่องง่าย

นอกจากนี้ อัมสเตอร์ดัมยังประกาศว่า จะเริ่มลดจำนวนการล่องเรือในแม่น้ำที่อนุญาตให้จอดเทียบท่าในน่านน้ำของประเทศ ซึ่งในปี 2023 มีการล่องเรือ 2,125 ครั้ง ในปี 2028 ตั้งเป้าลดลงครึ่งหนึ่งโดยไม่เกิน 1,150 ครั้ง ทางการอัมสเตอร์ดัมคาดว่าจะช่วยลดจำนวนผู้มาเยือนที่เข้ามาในเมืองได้ 271,000 คน 

◾️◾️◾️

🔴 ไม่ใช่ครั้งแรกที่อัมสเตอร์ดัมพยายามลดจำนวนนักท่องเที่ยว

ก่อนหน้านี้เมื่อปีที่แล้ว สภาเมืองอัมสเตอร์ดัมได้อนุมัติข้อเสนอห้ามเรือสำราญที่ก่อมลพิษเข้ามาเทียบท่า และปิดท่าเรือสำราญด้วย 

ยังไม่หมด ทางการยังห้ามการใช้กัญชาบนถนนสาธารณะในย่านโคมแดง และห้ามไกด์พาลูกทัวร์ผ่านอาคารต่าง ๆ ที่มีการขายบริการทางเพศ

◾️◾️◾️

🔴 เสน่ห์ของอัมสเตอร์ดัม

สิ่งที่ขึ้นชื่อของเมืองแห่งนี้คือทุ่งดอกทิวลิปที่บานอย่างสวยงาม เป็นเมืองหลวงที่อยู่ริมแม่น้ำอัมสเติลสุดโรแมนติก รวบรวมไว้ทั้งสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังทางสถาปัตยกรรม ที่เที่ยวธรรมชาติ บ้านเรือนดีไซน์สวยแปลกตา และยังขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองหลวงแห่งจักรยานโลกด้วย เพราะผู้คนที่นี่นิยมใช้จักรยานเดินทางมากกว่ารถยนต์ส่วนตัวหรือการเดินทางด้วยขนส่งสาธารณะรูปแบบอื่น

นอกจากนี้ เมืองหลวงแห่งนี้มี พื้นที่เพียง 220 ตารางกิโลเมตร เมื่อเทียบกับกรุงเทพฯ 1,500 ตารางกิโลเมตร และมีประชากรเพียง 1.1 ล้านคนเท่านั้น จึงทำให้เมืองนี้ค่อนข้างเงียบสงบ หากไม่รวมนักท่องเที่ยว

◾️◾️◾️

🔴 ยังไม่ใช้การเก็บภาษีเข้าเมืองเหมือนที่อื่น

แม้เมืองหลวงสุดโรแมนติกแห่งนี้กำลังพยายามจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยว แต่ก็ยังไม่ได้ใช้การเก็บเงินค่าเข้าเมืองเหมือนกับที่เวนิส ของอิตาลี ที่เริ่มเก็บค่าเข้าเมืองมาตั้งแต่วันที่ 25 เมษายนที่ผ่านมา สำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเช้าเย็นกลับ ด้วยราคา 5 ยูโร หรือราว 200 บาท 

หรืออย่างที่หมู่บ้านเลาท์เทอร์บรุนเนิน (Lauterbrunnen) หมู่บ้านเล็ก ๆ ซึ่งอยู่ระหว่างทางขึ้นยอดเขาจุงเฟรา ซึ่งมีประชากรราว 800 คนเท่านั้น ประกาศเก็บค่าเข้าหมู่บ้านราว 5-10 สวิสฟรัง หรือราว 200-400 บาท เพื่อจำกัดนักท่องเที่ยวที่มาเช้าเย็นกลับ

และที่เมืองฟูจิคาวากุจิโกะ ของญี่ปุ่น ก็ได้เริ่มติดตั้งแผงกั้น เพื่อบังวิวของภูเขาไฟฟูจิ ห้ามนักท่องเที่ยวถ่ายรูป เนื่องจากมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากทำให้ผู้คนแถวนั้นเดือดร้อน

 ————

เรียบเรียง: พิชญาภา สูตะบุตร

ภาพ: Reuters