‘เนทันยาฮู’ ประกาศบุกราฟาห์ ไม่สนข้อตกลงหยุดยิง-ปล่อยตัวประกัน

Israel-Hamas: นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ประกาศเดินหน้าบุกภาคพื้นดินเมืองราฟาห์ ภาคใต้ของฉนวนกาซา ไม่ว่าจะบรรลุข้อตกลงหยุดยิงและปล่อยตัวประกันกับกลุ่มฮามาสหรือไม่ก็ตาม ไม่สนคำเตือนจากสหรัฐฯ และความกังวลของนานาชาติเกี่ยวกับชะตากรรมของผู้พลัดถิ่นชาวปาเลสไตน์ในเมืองราฟาห์กว่า 1 ล้านคน

เนทันยาฮู ให้คำมั่นเมื่อวันอังคาร (30 เมษายน) ว่า จะบุกภาคพื้นดินในเมืองราฟาห์ ภาคใต้สุดของฉนวนกาซา ไม่ว่าจะบรรลุข้อตกลงหยุดยิงกับกลุ่มฮามาสหรือไม่ก็ตาม 

โดยนายกรัฐมนตรีสายเหยี่ยวประกาศเตือน แม้ว่าจะมีความกังวลอย่างรุนแรงจากสหรัฐฯ พันธมิตรสำคัญและไม่กี่ชั่วโมง ก่อนแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐฯ มีกำหนดเดินทางถึงอิสราเอล ในการเดินทางเพื่อแก้วิกฤตตะวันออกกลางครั้งล่าสุดของเขา และไม่สนว่าจะมีความกังวลของนานาชาติ เกี่ยวกับชะตากรรมของผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์กว่า 1 ล้านคนที่อาศัยอยู่ในเมืองราฟาห์

ถ้อยแถลงของเนทันยาฮู มีขึ้นท่ามกลางความพยายามที่จะบรรลุข้อตกลงหยุดยิงและปล่อยตัวประกันกับกลุ่มฮามาสที่กำลังเจรจากันอยู่ในกรุงไคโร ประเทศอียิปต์ กับคณะผู้แทนเจรจาไกล่เกลี่ยของสหรัฐฯ อียิปต์และกาตาร์ และการแสดงความคิดเห็นของเขา ยังมีขึ้นหลังคำเตือนครั้งใหม่จากสหรัฐฯ ไม่ให้บุกเมืองราฟาห์ จนกว่าพลเรือนจะได้รับการปกป้องอย่างเหมาะสม 

ในการโทรศัพท์พูดคุยกับเนทันยาฮูเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ ย้ำจุดยืนที่ชัดเจนของเขา เกี่ยวกับเมืองราฟาห์ ซึ่งไบเดนระบุก่อนหน้านี้แล้วว่า การบุกเมืองราฟาห์ เป็น “เส้นแดง” 

เนทันยาฮู ซึ่งให้คำมั่นกำจัดฮามาสให้สิ้นซาก สัญญาว่าจะต้องได้รับชัยชนะอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด และการหยุดสงคราม ก่อนบรรลุเป้าหมายทั้งหมดนั้น เป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ 

เขากล่าวกับครอบครัวของตัวประกันบางคนที่ยังถูกควบคุมตัวอยู่ในกาซา ระหว่างการประชุมร่วมกันว่า อิสราเอลจะบุกเข้าเมืองราฟาห์ และจะทำลายฐานที่มั่นของฮามาสที่นั่น ไม่ว่าจะมีหรือไม่มีข้อตกลงหยุดยิง

ส่วนกลุ่มฮามาส แถลงว่า กำลังพิจารณาแผนการหยุดยิงเป็นเวลา 40 วันและแลกเปลี่ยนตัวประกันกับนักโทษปาเลสไตน์จำนวนมาก ขณะที่แหล่งข่าวกลุ่มฮามาส บอกว่า ฮามาส ซึ่งเจ้าหน้าที่ทูตเดินทางกลับจากการเจรจาในกรุงไคโร ไปยังฐานในกาตาร์แล้ว จะหารือเกี่ยวกับแนวคิดและข้อเสนอดังกล่าว พร้อมกล่าวเพิ่มเติมว่า ฮามาสจะให้คำตอบเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

—————

ภาพ: Reuters